กทม.เตรียมปรับแก้ค่ามาตรฐานฝุ่น PM 2.5 ราย 24 ชั่วโมง จากเดิมไม่เกิน 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร เป็นไม่เกิน 37.5 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร เพิ่มระดับป้องกันผลกระทบสุขภาพ
วันที่ 12 พฤษภาคม 2565 นายชาตรี วัฒนเขจร รองปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานคร โดยสำนักสิ่งแวดล้อม ติดตามสถานการณ์และเตรียมพร้อมมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
ตามแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปี 2565 ภายใต้แผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” และบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อขับเคลื่อนมาตรการควบคุมมลพิษจากแหล่งกำเนิดอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ยานพาหนะ การก่อสร้าง สถานประกอบการ การเผาในที่โล่ง รวมถึงการดูแลสุขภาพอนามัยของประชาชน
การรณรงค์ประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างความตระหนักรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชนในการลดมลพิษทางอากาศ เช่น การตรวจสอบและบำรุงรักษารถยนต์ให้มีสภาพพร้อมใช้งาน ไม่ปล่อยมลพิษเกินมาตรฐานกำหนด เพื่อช่วยกันลดการเกิดฝุ่นละออง PM 2.5 และลดผลกระทบต่อสุขภาพ
สำหรับมาตรการปรับปรุงเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพอากาศในบรรยากาศทั่วไป เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการพื้นที่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์
เป็นมาตรการหนึ่งตามแผนปฏิบัติการโดยกรมควบคุมมลพิษ ซึ่งต้องกำหนดค่ามาตรฐานเฉลี่ยราย 24 ชั่วโมงและค่ามาตรฐานเฉลี่ยรายปี ให้สอดคล้องกับเป้าหมายองค์การอนามัยโลก (WHO)
ปรับปรุงค่ามาตรฐานวัดค่าฝุ่นสอดคล้อง WHO
โดยปรับปรุงค่ามาตรฐานราย 24 ชั่วโมง จากเดิมไม่เกิน 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร เป็นไม่เกิน 37.5 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร
ส่วนค่าเฉลี่ยในเวลา 1 ปี จากเดิมไม่เกิน 25 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร เป็นไม่เกิน 15 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร
ทั้งนี้กรุงเทพมหานครได้เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการกำหนดค่ามาตรฐานฝุ่น PM 2.5 ที่ปรับปรุงใหม่โดยการปรับปรุงพัฒนาแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จากคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ในกรุงเทพมหานครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ และยกระดับมาตรการตามเกณฑ์มาตรฐานใหม่
รวมทั้งร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเร่งรัดแผนระยะยาวในการป้องกันและลดมลพิษที่แหล่งกำเนิด เช่น การนำน้ำมันเชื้อเพลิงกำมะถันไม่เกิน 10 ppm มาใช้ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลก่อนกฎหมายบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2567 และการบังคับใช้มาตรฐานการระบายมลพิษจากรถยนต์ใหม่ EURO 6 ภายในปี 2565 เป็นต้น
เพื่อให้การแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน และรองรับมาตรฐานใหม่