ชง ประยุทธ์ ตั้งเลขาอีอีซีคนใหม่ 2 ชื่อมาแรง-สานต่อ 5 เมกะโปรเจ็กต์

อีอีซี คณิศ แสงสุพรรณ

ประยุทธ์ เตรียมตั้งเลขาธิการอีอีซีคนใหม่ หลัง “คณิศ แสงสุพรรณ” พ้นวาระสิงหาคมปีนี้ คาดคณะกรรมการสรรหา ที่มีปลัดคลังเป็นประธาน จะชง 2 ชื่อมาแรง ตัดเชือกในบอร์ดเดือนหน้า เร่งสานต่อ 5 บิ๊กโปรเจ็กต์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 17 ส.ค. 2565 นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ. หรือ EEC) จะหมดวาระในตำแหน่งหลังนั่งเก้าอี้บริหารงานมาตั้งเริ่มโครงการนโยบาย EEC ปี 2558

ขณะนี้อยู่ในระหว่างรอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งให้ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานคณะกรรมการสรรหา และรับสมัครบุคคลเข้ารับการพิจารณา

“คาดว่าไม่เกิน 2 เดือน จะได้ชื่อเลขาธิการคนใหม่ และจะนำเสนอให้คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ. หรือบอร์ด EEC) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานพิจารณาเห็นชอบ”

ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ถึงตัวบุคคลที่จะเข้ารับการสรรหา สานต่องานอีอีซีหลายคน หนึ่งในนั้นมีชื่อ นายธัชพล กาญจนกูล รองเลขาธิการ สายงานพื้นที่และชุมชน สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) อดีตผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ นับเป็นผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญในงานอีอีซี สามารถสานต่อโครงการที่เหลือให้ได้ และสามารถประสานงานกับทางภาคเอกชนได้ดี

และอีกชื่อที่คาดหมายว่าจะสมัครเข้ารับการสรรหา คือ นายกวิน ทังสุพานิช อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่ได้ยื่นลาออกจากตำแหน่งเมื่อเดือนเมษายน 2565 เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน

ส่วนโอกาสที่นายคณิศจะได้รับพิจารณาต่ออายุให้ดำรงตำแหน่งต่อก็สามารถทำได้เช่นกัน เพราะเป็นไปตามข้อกฎหมาย แต่ก็จะสามารถต่ออายุการทำงานไปถึงกลางปี 2566 เท่านั้น เพราะอายุเกิน 65 ปี

สำหรับผู้ที่ได้รับการคัดเลือกจะต้องมาเร่งสานต่อการดำเนินโครงการโครงสร้างพื้นฐานสำคัญใน EEC ซึ่งจะเป็นโครงการร่วมลงทุนรัฐ-เอกชน (PPP) หรือ 5 Project List คือ 1.รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ที่ทางกลุ่ม ซี.พี.เป็นผู้ชนะการประมูล ทำการส่งมอบพื้นที่ช่วงสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภาแล้ว

ส่วนงานสาธารณูปโภครื้อเสร็จและการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้พื้นที่ครบ 100% แต่ต้องมีการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุน เพื่อปรับรูปแบบการชำระค่าสิทธิบริหารโครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ คาดว่าส่วนเชื่อมสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา จะเปิดบริการปี 2569

2.สนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก กลุ่มกิจการร่วมค้าบีบีเอสเป็นผู้ชนะการประมูล ขณะนี้ออกแบบทางวิ่งที่ 2 ถมดินลานจอดศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานเสร็จ 100% เอกชนเตรียมเข้าพื้นสำรวจและก่อสร้าง และในเดือน ส.ค.นี้ เตรียมจัดทำประชาพิจารณ์ด้าน EHIA เพื่อเข้าพิจารณาใน ครม. เดือน ก.ย. คาดว่าการก่อสร้างโครงการระยะที่ 1 จะเสร็จในปี 2568

3.ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด เฟส 3 บริษัทกัลฟ์เป็นผู้ชนะการประมูล ซึ่งช่วงที่ 1 ออกแบบก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน และท่าเรือก๊าซแล้ว เริ่มก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ถมทะเล เพื่อสร้างท่าเรือสินค้าเหลวและพื้นที่คลังสินค้า คาดว่าจะเสร็จในปี 2569 กำลังเข้าสู่ช่วงที่ 2 คือการก่อสร้างท่าเทียบเรือ และการบริหารจัดการท่าเรือบริการสินค้าเหลว

4.ท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 เดือน ส.ค. เตรียมอนุมัติท่าเทียบเรือ F และงานด้านสาธารณูปโภค คาดว่าจะเปิดบริการในปี 2568 ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มต้นการก่อสร้างงานทางทะเล และการจัดทำ EHIA เรียบร้อยแล้ว


5.ศูนย์ซ่อมอากาศยาน (MRO) ที่ต้องหยุดชะงักแผนไป หลังจากการบินไทยเข้าแผนฟื้นฟูและสถานการณ์โควิด-19 ล่าสุดมีตั้งบริษัทอีอีซี หรืออีอีซีพัฒนาสินทรัพย์สนามบินขึ้นมาก็เพื่อดำเนินการบริหารพื้นที่ Aviation Technical Zone (ATZ) ที่โครงการนี้เตรียมนำกลับเข้ามาในแผนงาน และเปิดประมูลอีกครั้ง