ชีวิตหลังโซลชาร์

แมนฯยูฯ
คุยกับเอกราช
เอกราช เก่งทุกทาง

 

แมนฯ ยูไนเต็ดปลด โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ เป็นเรื่องที่คาดว่าจะเกิดขึ้นอยู่แล้ว ใคร ๆ ก็รู้ว่าไปไม่รอด อยู่ที่ว่าจะโดนเมื่อไหร่ จบสวยหรือไม่สวย

สุดท้ายพอปลดจริงก็สรุปว่า ทั้งสภาพแย่ และลงดาบโคตะระช้า

บอร์ดบริหารแมนฯ ยูฯควรเปิดอกคุย กล่อมให้โซลชาร์แสดงสปิริตลาออกเอง ตั้งแต่ตอนแพ้ลิเวอร์พูลคาบ้าน 5-0 ไม่ใช่ปล่อยให้ลากต่อมาจนโดนทีมเล็กอย่างวัตฟอร์ดขย้ำ 4-1 ซึ่งถือว่าดิ่งสุดถึงขั้นเลวร้าย

ความเป็นตำนานของโซลชาร์ มีตำหนิอย่างน่าเสียดาย

แถมยังพ้นตำแหน่งช้าไป 1 เดือน

ถ้าผู้บริหารเฉียบขาด กล้าเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ 1 เดือนก่อน ป่านนี้อาจจะได้ อันโตนิโอ คอนเต้ มาคุมแทนเรียบร้อยไปแล้ว

พอตัดสินใจเชื่องช้า ก็ต้องมาแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ตั้้งกุนซือชั่วคราว คุมทีมจนจบฤดูกาล ปล่อยให้ซีซั่นนี้เสียเปล่าไป 1 ปี

ผมเชื่อว่ากุนซือตัวจริงของแมนฯ ยูไนเต็ด จะเป็น เมาริซิโอ โปเชตติโน่ ค่อนข้างแน่ แต่นั่นหมายความว่าต้องรอไปร่วมงานกันในฤดูกาลหน้า เรื่องที่โปเชตติโน่จะชิ่งจากปารีส แซงต์ แชร์กแมง มาคุมปีศาจแดงช่วงกลางซีซั่น ดูแล้วเป็นไปไม่ได้ ถึงทางแมนฯ ยูฯใจป้ำ ยอมจ่ายเงินซื้อสัญญา แต่เป เอส เช ก็คงไม่ปล่อยมาให้อยู่ดี

การใช้กุนซือชั่วคราวขัดตาทัพจึงเป็นทางออกเดียว

สื่ออังกฤษรายงานว่า ตัวเลือกของยูไนเต็ดมีอยู่ 5 คน ราล์ฟ รังนิค, ลูเซียน ฟาฟ, รูดี้ การ์เซีย, เปาโล ฟอนเซก้า และ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้

รังนิคเคยคุมชาลเก้, ไลป์ซิก ได้ชื่อว่าเป็นบิดาแห่งเกเก้น เพรส หรือการเพรสซิ่งสูง สไตล์ลิเวอร์พูล แต่ตอนนี้รับบทเป็นประธานกีฬาและพัฒนาเทคนิคของทีมโลโคโมทีฟ มอสโก ในรัสเซีย จะให้ลาออกมาทำงานชั่วคราวกับแมนฯ ยูฯ คงไม่ใช่เรื่องฉลาดเท่าไหร่

ลูเซียน ฟาฟ เคยคุมทีมดอร์ทมุนด์ แต่อายุ 64 แล้ว น่าจะแก่เกินไป รูดี้ การ์เซีย อดีตกุนซือลียง กับเปาโล ฟอนเซก้า โค้ชเก่าโรม่า ก็โปรไฟล์ยังไม่ถึงทั้งคู่

คนที่ดูดีสุดจึงเป็น เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้

บัลเบร์เด้เป็นคนสเปน แต่พูดอังกฤษได้ แถมยังว่างอยู่ เคยคุมทีมบาร์เซโลน่า 2 ปีครึ่ง คว้าแชมป์ลาลีก้า 2 ปีซ้อน ผ่านการร่วมงานกับ ลีโอเนล เมสซี่, หลุยส์ ซัวเรส มาแล้ว ถ้าให้มาดูแลโรนัลโด้ กับบรรดาดาวดังแมนฯ ยูฯ ก็ไม่น่าจะเหลือบ่ากว่าแรง

บอลสไตล์บัลเบร์เด้ เน้นเกมรุก ดุดัน เข้ากันได้ดีกับปีศาจแดงอีกนั่นแหละ

แต่จุดหนึ่งที่เป็นแผลเรื้อรัง รักษาไม่หาย คือกุนซือคนนี้เคยพาทีมบาร์เซโลน่ามาแพ้ลิเวอร์พูล 4-0 ในแชมเปี้ยน’ส ลีก นัดประวัติศาสตร์ บาร์ซ่าอุตส่าห์ชนะขาด 3 ลูกในนัดแรก แต่ต้องกระเด็นตกรอบรองชนะเลิศด้วยสกอร์รวม 3-4 อย่างเหลือเชื่อ

นั่นคือฝันร้ายที่สุดของสโมสรบาร์เซโลน่า ในยุคที่มีกุนซือชื่อ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้

ถ้าแมนฯ ยูฯ เลือกเขามาคุมทีม ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ฝีมือ แต่เป็นความไว้เนื้อเชื่อใจของแฟนบอลปีศาจแดง

เอาโค้ชที่มีประวัติเคยโดนลิเวอร์พูลแหกอกเข้ามา ถึงให้คุมชั่วคราว 6 เดือน ศรัทธาก็ยากจะเกิด ความหวังก็ไม่กล้าตั้ง

แต่ถามว่าออปชั่นอื่น มีดีกว่าไหม มันก็หาไม่เจอ

แมนฯ ยูฯมาถึงจุดนี้ เพราะความเต่า ไม่เด็ดขาด ของผู้บริหารแท้ ๆ