เมตตา เวิร์ส MQDC เชื่อม 2 โลกบนเมกะโปรเจ็กต์แสนล้าน

MQDC

แมกโนเลีย ควอลิตี้ เดเวลล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น (MQDC) ยักษ์อสังหาริมทรัพย์เปิดตัวโครงการเมตาเวิร์สเรียกเสียงฮือฮาเป็นอย่างมาก กับโครงการโลกเสมือน MQDC Idyllias ในคอนเซ็ปต์ Metta-Verse ที่ตั้งใจล้อไปกับคำไทย เมตตา

โลกแห่งอุดมคติที่สงบสุขสวยงามเปี่ยมเมตตา หลังซุ่มพัฒนามานานกว่า 2 ปี กับพันธมิตรเทคโนโลยี “ทีแอนด์บี มีเดีย โกลบอล” เจ้าของโลกเสมือน “Translucia” และบริษัทที่ปรึกษา Accenture ที่มาช่วยวิเคราะห์แนวโน้มของตลาด และเทคโนโลยี

เป็นการเปิดตัวโปรเจ็กต์ของ “บิ๊กเนม” ท่ามกลางตลาดคริปโต และกระแสเมตาเวิร์สที่แผ่วลงอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปีที่ผ่านมาย่อมเรียกความฮือฮาและจุดไฟให้เทคโนโลยีเหล่านี้ได้กลับมาอยู่ในความสนใจอีกครั้ง

MQDC พกความมั่นใจมาเต็มที่ ด้วยจุดแข็งในการเป็นผู้พัฒนาสินทรัพย์ในโลกจริง ซึ่งเป็นพื้นฐานให้เพิ่มมูลค่า และสิทธิประโยชน์อื่น ๆ เข้าไปสู่มือลูกค้าและลูกบ้านได้ไม่จำกัด ด้วยคอนเซ็ปต์การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่นำความก้าวหน้าด้านนวัตกรรม และเทคโนโลยี ช่วยยกระดับความเป็นอยู่ และคุณภาพชีวิตให้ทุกคน (for all well being)

การเชื่อมโยงระหว่างโลกจริง และโลกเสมือนในครั้งนี้จึงน่าจับตามอง โดยเฉพาะโปรเจ็กต์ “ไอดิลเลียส์” ที่จะเริ่มพัฒนาให้ซ้อนทับกับโครงการอภิมหาโปรเจ็กต์แสนล้าน The Florestias

หากเกิดขึ้นได้ก็จะเป็นยูสเคสเชื่อมสองโลกได้จริง

โฟกัส 6 กลุ่มเทคโนโลยี

“ภารุต เพ็ญพายัพ” ผู้อำนวยการโครงการเมตาเวิร์ส MQDC Idyllias กล่าวว่า ความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีช่วยยกระดับความเป็นอยู่ เกิดจากแนวโน้มเทคโนโลยียุค Web3 หรืออินเทอร์เน็ตยุคหลังทศวรรษ 2020 เรียกว่า

internet of place หรือ internet of ownership หลังความเพียบพร้อมของเทคโนโลยี IOT ที่เกิดมากมายในปัจจุบัน โดย MQDC จะโฟกัส6 กลุ่ม ซึ่งล้วนแล้วมี
มูลค่าทางการตลาดหลายพันล้านเหรียญสหรัฐ

ภารุต เพ็ญพายัพ

ได้แก่ 1.virtual real estate เป็นสิ่งที่ MQDC ต่อยอดได้แน่นอน คือพัฒนาสร้างที่อยู่อาศัยบนโลกเสมือน

2.smart living เมื่อเป็นผู้พัฒนาที่อยู่อาศัยทั้งในโลกจริง และโลกเสมือน สิ่งที่อยากส่งมอบให้ลูกค้าเพิ่มเติมคือ การอยู่อาศัยที่ชาญฉลาดขึ้น มีเครื่องอำนวยความสะดวกเพียบพร้อมทั้งในโลกจริง และโลกเสมือนควบคู่กันไป

3.health and wellness การดูแลสุขภาพ ความกินดีอยู่ดีให้ทุกคน เป็นสิ่งที่ MQDC ใส่ใจอยู่แล้ว โดยทำงานคู่กับพันธมิตรทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมถึงการพัฒนานวัตกรรมคู่กับมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก

“Metta-Verse คือเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่สามารถเชื่อมประสาน และส่งมอบคุณภาพชีวิตให้ชุมชน และลูกค้าได้อย่างครบถ้วนมากขึ้น”

4.direct to avatar commerce การค้ายุคใหม่ที่ไม่ใช่แค่อีคอมเมิร์ซ

“เราพูดถึงการค้ายุคใหม่ จากการเข้าซื้อของออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชั่นผ่านมือถือ เดสก์ท็อป หรือแล็ปทอป แต่ยุคต่อไป ประสบการณ์การช็อปปิ้งจะสามารถแชร์กับเพื่อนหรือญาติในโซเชียลมีเดียอื่น ๆ ได้ เมื่อคุณเข้าไปสู่โลกเมตาเวิร์สของ MQDC Idyllias เราได้สร้างสถานที่ที่สามารถชวนเพื่อนหรือญาติ ซึ่งอาจอยู่สถานที่ต่างกัน คนละประเทศ มาช็อปปิ้งร่วมกัน บนพื้นที่ของพันธมิตรทางการค้า หรือรีเทลพาร์ตเนอร์ของเราได้”

5.gamification ไม่ใช่แค่การพัฒนาเกมทั่ว ๆ ไป แต่เป็นการส่งเสริมกิจกรรมด้านความบันเทิงให้คนรุ่นใหม่ และคนทุกเพศทุกวัย

“กิจกรรมที่น่าเบื่อหน่ายต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันจะกลายเป็นเรื่องที่น่าสนุกยิ่งขึ้น มีโอกาสมากมายมหาศาล ที่เราจะเชื่อมสิทธิประโยชน์ ระบบรีวอร์ดดิ้งซิสเต็มที่จะส่งมอบให้ลูกค้า ไม่ใช่แค่ในโลกเสมือนเท่านั้น เพราะเรามีโครงการอสังหาฯในโลกจริงมากมาย”

สุดท้าย 6.ed-tech มหาวิทยาลัยชั้นนำต่าง ๆ ทั่วโลกกำลังมองว่าจะต่อยอดโอกาสทางการศึกษาอิมเมอร์ซีฟเลิร์นนิ่งแบบใดได้บ้าง ซึ่ง MQDC อยากถ่ายทอดเนื้อหา และเรื่องราวต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ เปลี่ยนจากเนื้อหาที่อยู่ตามหนังสือหรือตำรามาเป็นคอนเทนต์แบบสามมิติมากขึ้น

ฉายภาพเมตาเวิร์ส 4 ระดับ

“ภารุต” กล่าวด้วยว่า แบรนด์ Idyllias สะท้อนความเป็นโลกเสมือนที่ไม่ได้แค่ขายโครงการ virtual real estate แต่เป็นโลกเสมือนที่ผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์จากการเชื่อมโลกเสมือนกับโลกแห่งความเป็นจริงอย่างไร้รอยต่อ โดยโครงการแรกที่จะมีการปรับให้เข้ากับโลกเมตาเวิร์ส คืออภิมหาโปรเจ็กต์แสนล้านบาท The Florestias พื้นที่อสังหาริมทรัพย์ที่จัดวางห้างร้าน ที่อยู่อาศัย รวมถึง “ป่ากลางเมือง” ไว้ในพื้นที่เดียว

“ปีนี้เราจะมุ่งสร้างเมตาเวิร์สเวอร์ชั่นของเดอะฟอเรสเทียส์ ไม่ได้เริ่มต้นจากศูนย์ มีการออกแบบโครงการในโลกจริงในเวอร์ชั่น digital twin ที่เป็นพื้นฐานในการสร้างโลกเสมือน จะมี 4 ระดับหรือเลเยอร์ เลเยอร์ศูนย์ คือ เลเยอร์โลกจริงของโครงการมีทั้งโซนที่อยู่อาศัย โซนรีเทล และคอมเมอร์เชียลต่าง ๆ ออฟฟิศ โรงแรม มีพื้นที่ป่าอยู่ตรงกลาง เพื่อถ่ายทอดความเป็นอยู่ที่ดีให้กับลูกค้า และชุมชนใกล้เคียง”

ถัดไปเป็น เลเยอร์ที่ 1 เป็นการแปลงโครงการในโลกจริงให้กลายเป็น digital twin ลูกบ้านเดอะฟอเรสเทียส์มีสิทธิได้ยูนิตที่เป็นของเขาอยู่แล้ว ก็จะช่วยส่งเสริมสมาร์ทลิฟวิ่งโซลูชั่น ที่จะเป็นโลกสามมิติที่เชิญเพื่อนมาพบกันได้

“เด็กรุ่นใหม่จะคุ้นกับการเล่นเกมการนัดทำกิจกรรมต่าง ๆ บนโลกในเกม เราอยากบูรณาการลงมาตรงนี้ เป็นโซลูชั่น digital twin ให้ลูกบ้านของโครงการ ส่วนพื้นที่การค้าในโครงการจะมีตึกที่เรียกว่า ทาวน์เซ็นเตอร์ คอมมิวนิตี้เซ็นเตอร์ และแฟมิลี่เซ็นเตอร์ กิจกรรมที่เกิดขึ้นในโลกจริง ก็จะมาเสริมช่องทางการค้าที่เป็นเวอร์ชั่น digital twin ให้พาร์ตเนอร์ และโกลบอลแบรนด์ต่าง ๆ”

เลเยอร์ 2 จะสร้างคอนเทนต์บนพื้นที่ เริ่มแรกเรียกว่า “ป่าบนโลกเสมือน” ทำพื้นที่ป่าให้เป็นแอ็กชั่น และมีจุดผจญภัยให้เด็ก ๆ และคนที่อยากเข้ามาซึมซับธรรมชาติ เปลี่ยนเป็นเวอร์ชวลแอ็กชั่นควบคู่กันไป เมื่อมาที่โครงการจริงจะยิ่งน่าตื่นเต้น และได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษมากขึ้น เป็นการเชื่อมประสานระหว่างคอนเทนต์ที่สร้างในโลกจริงและโลกเสมือน

เลเยอร์ 3 เรียกว่า “อาณาจักรของสิ่งมหัศจรรย์” กำลังจะสร้างที่ดินบนโลกเสมือนผืนใหม่ สร้าง virtual estate ผสมผสานกับโครงการอสังหาฯ ใหม่บนโลกเสมือน การออกแบบต่าง ๆ ไม่ติดอยู่ในข้อจำกัดของโลกจริง

แอ็กชั่นต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น พื้นที่การค้าใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้น สามารถเติมเต็มจินตนาการของคนรุ่นใหม่ได้เต็มที่

นอกจากนี้ ยังร่วมงานกับ ทีแอนด์บี มีเดีย โกลเบิล พัฒนาหนังแอนิเมชั่นที่ถ่ายทอดเรื่องราวในแบบฉบับของฟอเรสเทียส์ขึ้นมา

จากลูกบ้านสู่โกลบอลยูสเซอร์

“ภารุต” กล่าวด้วยว่า การสร้างโลกเสมือนบนพื้นที่จริงสร้างโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าอื่น ๆ ในระดับโลก ไม่ใช่แค่เฉพาะลูกบ้านของโครงการ หรือคนไทยเท่านั้น เพราะโลกเสมือนทลายข้อจำกัดของพื้นที่จริง

ดังนั้นเรื่องคอนเทนต์และการดีไซน์จึงต้องการผู้ร่วมพัฒนาอีกมาก เช่น เลเยอร์ที่ 2-3 ของโครงการเดอะฟอเรสเทียส์ ต้องใช้การพัฒนาคอนเทนต์ แอนิเมชั่น และเทคโนโลยี จึงพร้อมให้นักพัฒนาหรือสตาร์ตอัพที่สนใจเข้ามาร่วมใช้งาน และพัฒนา MQDC Idyllias เป็นแซนด์บอกซ์ลองผิดลองถูก

สำหรับโครงการโลกเสมือน “เดอะฟอเรสเทียส์” จะเริ่มให้ทดลองใช้ภายในปีนี้ มีกำหนดเสร็จในสองปี โฟกัสกลุ่มผู้ใช้จากทั่วโลก เริ่มจากฐานลูกค้าหรือลูกบ้าน MQDC ที่สามารถชักชวนให้เปิด wallet เพื่อเป็นกุญแจเชื่อมสู่โลกเสมือนได้

“เทรนด์ของอนาคตเป็นสิ่งที่ต้องเตรียมพร้อมไว้ เรามองเห็นแล้วว่ามีโอกาสมากในการที่ร้านค้า หรือแบรนด์จะเปลี่ยนวิธีการขายของ เปลี่ยนวิธีสื่อสารจึงต้องมองเทคโนโลยียุคต่อไป จึงไม่อาจระบุได้ชัดว่า MQDC Idyllias จะมีรายได้ หรือผู้ใช้เท่าไร”