ไอซีที

เช็กไทม์ไลน์ เส้นตาย Zipmex คืนเงินลูกค้า

Zipmex

กลุ่มผู้เสียหาย Zipmex วุ่น หลังสื่อนอกตีข่าวนายทุนขอจ่ายเงินคืนเพียง 20% ขณะเส้นตายคุ้มครองเจ้าหนี้หมดวันที่ 23 เม.ย. 2566 ตามอำนาจศาลสิงคโปร์

วันที่ 16 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า “กลุ่มผู้เสียหาย Zipmex” ซึ่งรวมตัวกันบนแพลตฟอร์ม Line ได้มีการถกเถียงอย่างเผ็ดร้อน โดยหยิบยกประเด็นที่บรรดาผู้เสียหายอาจได้รับเงินคืนเพียง 10- 20%

สืบเนื่องจาก Bloomberg รายงานเมื่อวันที่ 13 เม.ย. 2566 ที่ผ่านมา ว่านักลงทุนที่จะให้เงินช่วยเหลือ Zipmex จำนวน 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ในการฟื้นฟูกิจการ หรือกองทุน V Venture นั้น ต้องการเสนอให้ Zipmex จ่ายเจ้าหนี้เพียง 10-20% ของจํานวนเงินที่พวกเขาเป็นหนี้ โดยก่อนหน้านี้ให้คํามั่นว่าจะชําระคืนเต็มจํานวนตามจดหมายจาก Zipmex ถึงศาลสิงคโปร์ที่ดูแลการปรับโครงสร้าง

ก่อนหน้านี้ Zipmex ได้ประสบปัญหาสภาพคล่องจากวิกฤต LUNA ในเดือน พ.ค. ปีที่แล้ว ส่งผลต่อผลิตภัณฑ์ ZipUp+ ที่มีการนำสินทรัพย์ดิจิทัลของลูกค้าไปฝากไว้ที่แพลตฟอร์ม Celsius Network และ Babel Finance เป็นผลให้มีการล็อกบัญชีที่ใช้เชื่อมต่อกับ ZipUp+ หรือ Z Wallet ของลูกค้าไว้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา มูลค่าความเสียหายจากวิกฤตนั้นราว 2,000 ล้านบาท และขอศาลสิงคโปร์คุ้มครองทรัพย์เพื่อฟื้นฟูกิจการ

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือน ธ.ค. 2565 มีข่าวว่า Zipmex จะได้เงินช่วยเหลือจากนักลงทุน กลุ่ม V Venture ราว 3,000 ล้านบาท จึงคาดการณ์ว่าจะมีการจ่ายเงินคืนเจ้าหนี้เต็มจำนวน

ในปลายเดือน มี.ค. 2566 ที่ผ่านมา กองทุนที่จะช่วยเหลือ Zipmex ผิดนัดชำระเงินช่วยเหลือ มูลค่า 1.25 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้มีการลือสะพัดว่าแผนฟื้นฟูกิจการอาจจะล่ม และ Zipmex จะเข้าสู่การล้มละลาย

เส้นตายของ Zipmex ที่ยื่นคุ้มครองเจ้าหนี้ต่อศาลสิงคโปร์ คือ วันที่ 23 เม.ย. 2566 ที่จะถึงนี้ แต่อาจมีการขยายเวลาได้ราว 3 สัปดาห์ เพื่อให้ Zipmex มีเวลาหาเงินมาชำระหนี้ได้ตามนัด

อย่างไรก็ตาม “กลุ่มผู้เสียหาย Zipmex” ซึ่งมีสมาชิกว่า 3,000 คนกำลังกังวล และตั้งคำถามว่าหากไม่ทันกำหนดการดังกล่าวจะทำอย่างไร จะมีการฟ้องร้องได้ช่องทางไหน

รวมถึงกรณีที่หากมีการจ่ายคืนเพียง 10-20% ของหนี้นั้น คำนวณอย่างไร เพราะหนี้ใน Z Wallet ล้วนเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ความผันผวนและมูลค่าตกต่ำลงมาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว