ZTE เปิดราคาสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ชิงเค้กตลาดไทย

ZTE เปิดราคาสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ 4 รุ่นรวด ไม่หวั่นยอดขายทั่วโลกลด เน้นสร้างการรับรู้ พร้อมชิงเค้กส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟน 5G ไทยเพิ่ม 1.5%

วันที่ 26 พฤษภาคม 2566 นายหลัว เหว่ย รองประธาน แซดทีอี คอร์ปอเรชั่น ผู้ผลิตและจำหน่ายสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์โทรคมนาคม เปิดเผยว่า ZTE เดินกลยุทธ์ทางธุรกิจทั่วโลก ด้วยการวางตำแหน่งแบรนด์เป็น “Driver of Digital Economy” หรือผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลด้วยการเดินหน้าธุรกิจอย่างมุ่งมั่นตามกลยุทธ์ ควบคู่ไปกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามแนวโน้มการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล และการลดคาร์บอน

กลยุทธ์ได้รับการยกระดับอย่างเป็นทางการให้เป็นระบบนิเวศอัจฉริยะทุกสภาวการณ์ 2.0 (Full-Scenario Intelligent Ecosystem 2.0) หรือ “1+2+N” เป็นผลิตภัณฑ์หรือสินค้าที่ตอบโจทย์ยุคดิจิทัลแบบครบวงจร ครอบคลุมทุกสถานการณ์เพื่อใช้ในชีวิตประจําวัน ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านหรือนอกบ้าน

รวมทั้งมือถือ โดยจะมีระบบ MyOs เป็นตัวกลางเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นเชิงอุตสาหกรรมในตระกูลบรอดแบนต์เคลื่อนที่ (MBB) บรอดแบนด์ไร้สาย (FWA) และอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อผ่านระบบอินเทอร์เน็ต (IOT) เพื่อตอบสนองต่อการขยายตัวอย่างรวดเร็วของผู้บริโภคทั่วโลก

ผนวกกับความสามารถของเทคโนโลยี 5G ได้เข้ามาช่วยยกระดับการทำงานและชีวิตของผู้คนมากขึ้น ทั้งยังผลักดันให้ผู้บริโภคมีอุปกรณ์เคลื่อนที่ในครอบครองมากกว่าหนึ่งเครื่อง ด้วยอุปกรณ์ที่ทรงพลังขึ้น “คลาวด์ เครือข่าย เอดจ์ และอุปกรณ์” ระบบปฏิบัติการ ZTE MyOS เข้ามาช่วยทลายพรมแดนของอุปกรณ์ที่แตกต่างกัน และสร้างการเชื่อมต่อระหว่างกันอย่างไร้รอยต่อบนระบบนิเวศรูปแบบ “1+2+N” อันประกอบไปด้วยโทรศัพท์มือถือ เทอร์มินอลสัญญาณส่วนตัวและประจำบ้าน และผลิตภัณฑ์ต่อพ่วงในระบบนิเวศเดียวกัน

เกม-5G ยังดันความต้องการมือถือเติบโต

นายจัสติน ลี ซีอีโอ กลุ่มธุรกิจโมบาย ดีไวเซส ประจำภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวเสริมว่า แม้ภาพรวมตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลกจะได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวมากนัก แต่ทว่าสมาร์ทโฟน 5G ยังคงได้รับความนิยมและมีแนวโน้มเติบโตขึ้นรวมถึงตลาดโมบายเกมเช่นเดียวกัน”

คาดการณ์ว่าตลาดเกมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) อยู่ที่ 8.5% โดยในปีที่แล้วมีจํานวนผู้เล่นเกมออนไลน์บนมือถือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้นกว่า 250 ล้านคน จากมาเลเซีย ไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ ถือเป็นหกตลาดเกมมือถือหลักที่สำคัญที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงได้

ทั้งนี้เป็นผลมาจากการลงทุนขยายเครือข่าย 5G และเพิ่มความเร็วอินเทอร์เน็ตที่เป็นปัจจัยหลักผลักดันศักยภาพการเติบโตอย่างมหาศาล รวมถึงความนิยมที่เพิ่มขึ้นของ e-Sports ยังเข้ามาช่วยกระตุ้นตลาดเกมในภูมิภาคอีกด้วย ZTE ตั้งเป้าชิงส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟน 3% ในเอเชียและเอเชียตะวันออกเฉียงได้ หรือเติบโตกว่า 100% ภายใน 3 ปีนับจากนี้

ตั้งเป้าชิงส่วนแบ่ง 1.5% ในปี 2566

ด้านนายชอว์น เผย ผู้จัดการประจำประเทศไทย แซดทีอี ดีไวซ์ ประเทศไทย กล่าวว่า ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในตลาดที่ ZTE มองเห็นโอกาสและศักยภาพสำหรับสมาร์ทโฟน กลายเป็นปัจจัยสําคัญในการดำเนินชีวิต พฤติกรรมของผู้บริโภคในประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไป มีการใช้งานสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นในชีวิตประจําวัน

ทั้งการทำธุรกรรมทางการเงินและการสั่งซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ โดยเฉพาะในกลุ่มสมาร์ทโฟน 5G คุณภาพดีในราคาที่เอื้อมถึงกำลังเป็นที่ต้องการ

ส่วนตลาดสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นเองก็ยังคงมีความต้องการอยู่มากเช่นกัน และ ZTE เองก็มีเป้าหมายสร้างยอดขายสมาร์ทโฟนให้มีส่วนแบ่งตลาดในปีนี้ 1% เพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเป็น 1.5% ในปี 2567 และเติบโตเพิ่มเป็น 3% ภายในปี 2568

“สำหรับแผนการทำตลาดสมาร์ทโฟน ZTE ในประเทศไทยจะเป็นกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ โดยใช้แบรนด์สมาร์ทโฟนของบริษัท ได้แก่ ZTE Blade นูเบีย (Nubia) และ Redmagic รวมทั้งผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ในอีโคซิสเต็มของ ZTE โดยเน้นสร้างการรับรู้ให้แบรนด์เป็นรู้จักมากขึ้น ผ่านการสื่อสารการตลาด และการประชาสัมพันธ์ ทั้ง ออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อขยายฐานลูกค้าและการตลาดที่เข้มแข็ง

สำหรับสมาร์ทโฟนที่กำลังเข้ามาทำตลาดในไทยตอนนี้จะมี 4 รุ่น

    1. ZTE Blade A31 Plus 2023 ดีไซน์สีเขียวน้ำเงินหม่น มาพร้อมหน้าจอใหญ่ขนาด 6 นิ้ว กล้องออโต้โฟกัส ชิปเซต ซีพียู Octa-core ความจุ 2+32GB ราคา 1,990 บาท
    2. ZTE Blade A33s จอแบบหยดน้ำ ขนาดกว้าง 6.3 นิ้ว ความจุแบตเตอรี่ 4000mAh ซีพียู Octa-core 1.6GHz ปลดล็อกด้วยระบบสแกนใบหน้า กล้องหลัง 8MP กล้องหน้า 5MP ความจุ 4+32GB ราคา 2,299 บาท
    3. ZTE Blade A53 Pro กล้องคู่หลังความละเอียด 13MP+2MP และกล้องหน้าความละเอียด 5MP หน้าจอ หยดน้ำ หน้าจอใหญ่ 6.52 นิ้ว HD+ แบตเตอรี่ 5000mAh ซีพียู Octa-core 1.6GHz ปลดล็อคด้วย ลายนิ้วมือ ความจุ 8+64GB ราคา 2,699 บาท
    4. Nubia Neo 5G สมาร์ทโฟนเกมเมอร์ที่เป็นแบรนด์ย่อย และเป็นเรือธงของ ZTE ในเซ็กเมนต์ Mid-High โดยรุ่นนี้จะเปิดสั่งจองในเดือนมิถุนายนที่จะถึง โดยยังไม่มีการเปิดราคาที่เป็นทางการ
Red Magic 8 Pro เป็นแบรนด์ย่อยของ ZTE ซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในตลาดจีน ยังไม่มีการเปิดเผยราคาที่เป็นทางการในไทย

นายพงศ์นริทร์ ตันตระกูล ผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัท แซดทีอี ดีไวซ์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า กลยุทธ์สำคัญคือการเจาะกลุ่มฐานผู้ใช้ที่กว้างด้วยมือถือที่คุณภาพสูงราคาเข้าถึงง่าย เพื่อสร้างการรับรู้ให้กว้างขึ้น โดยอาศัยพาร์ตเนอร์ที่เป็นดิสทริบิวเตอร์และรีเทลกว่า 16 ราย มีจุดวางขาย 2 พันกว่าจุดในการทำตลาด

สำหรับสมาร์ทโฟนแบรนด์ย่อยของ ZTE ไม่ว่าจะเป็นระดับพรีเมี่ยมอย่าง AZON หรือสำหรับเกมมิ่งอย่าง Red Magic จะทยอยเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยภายในปีนี้ พร้อมกับการพัฒนาระบบหน้าร้านและะศูนย์บริการหลังการขายแน่นอน

นอกจากนี้ ZTE ยังได้พัฒนาแท็บเลตจอ 3 มิติ ที่ไม่ต้องใช้แว่น ในชื่อ Nubia PAD 3D ที่จะมาสร้างประสบการณ์การสร้าง/ชมคอนเทนต์ยุคใหม่

สเป็กของแท็บเลตดังกล่าว ใช้ซีพียู Qualcomm Snapdragon 888 หน้าจอขนาด 12.4 นิ้ว มีระบบ AI จับดวงดา สามารถเปลี่ยนคอนเทนต์ธรรมดาให้เป็นสามมิติได้แบบ Real-time แบตเตอรี่ 9700mAh (Typical) ชาร์จเร็ว 33 วัดด์ USB Type-C 3.1 ระบบปฏิบัติการ Android 12 ความจุ 12+256GB ราคา 46,900 บาท