Intouch โชว์กำไร 5 พันล้าน ครึ่งปี’66 เคาะจ่ายปันผล 1.47 บาท

Intouch เผยผลประกอบการ 6 เดือน ปี 2566 รายได้ 5,657 ล้านบาท กำไรสุทธิ 5,572 ล้านบาท ระบุ เศรษฐกิจไทยไตรมาส 2/2566 ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อน และคาดว่าจะฟื้นตัวต่อเนื่องจากในปี 2566 โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการบริโภคที่ปรับตัวดีขึ้นและภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัว

วันที่ 10 สิงหาคม 2566 บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH รายงานผลการประกอบการต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประจำไตรมาส 2/2566 และรอบ 6 เดือนแรกของปี 2566 รายได้รวม 5,657 ล้านบาท กำไร 5,572 ล้านบาท

รายงานระบุด้วยว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2/2566 ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อน และคาดว่าในปี 2566 เศรษฐกิจจะฟื้นตัวต่อเนื่องจากปี 2565 โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการบริโภคที่ปรับตัวดีขึ้นและภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัว อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจโลก ความผันผวนของตลาด
การเงินโลก รวมถึงความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์โลกในภูมิภาคต่าง ๆ ยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย

เอไอเอสยังคงเป็นเงินลงทุนหลักของอินทัช โดยในครึ่งแรกของปี 2566 กําไรของเอไอเอสเติบโตร้อยละ 10 จากระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน ทําให้เงินปันผลที่อินทัชได้รับจากเอไอเอสเพิ่มขึ้นร้อยละ 16 โดยในไตรมาส 2/2566 เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่และธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้านความเร็วสูง

โดยเอไอเอสนําเสนอบริการที่มุ่งเน้นคุณภาพและการสร้างมูลค่าเพิ่มในแพ็กเกจที่ให้แก่ลูกค้า โดยเน้นคุณภาพของโครงข่าย แพ็กเกจที่รวมหลากหลายบริการ เช่น คอนเทนต์ ผลิตภัณฑ์ และสิทธิพิเศษ จากการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรที่หลากหลาย ทําให้รายได้เฉลี่ยต่อเลขหมายต่อเดือน (ARPU) ทั้งธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่และธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้านความเร็วสูงปรับตัวสูงขึ้น

อินทัช ยังคงดําเนินนโยบายในการส่งต่อเงินปันผลที่อินทัชได้รับหลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมด ร้อยละ 100 ให้ แก่ผู้ถือหุ้น สําหรับผลการดําเนินงานครึ่งแรกของปี 2566 นี้ อินทัชประกาศจ่ายเงินปันผลจํานวน 1.47 บาทต่อหุ้น โดยจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 8 กันยายน 2566

ผลการดําเนินงานของกลุ่มอินทัช

ในไตรมาส 2/2566 และงวดหกเดือนของปี 2566 กลุ่มอินทัชมีกําไรสุทธิรวม 2,882 ล้านบาท และ 5,572
ล้านบาท ตามลําดับ โดยกําไรสุทธิในไตรมาส 2/2566 เพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อน ส่วนใหญ่เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งผลกําไรจากเอไอเอส เนื่องจากการเติบโตของรายได ้จากการให้บริการ และการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านการตลาด

ในปี 2566 ผลการดําเนินงานของกลุ่มอินทัชไม่มีสวนแบ่งกําไรจากไทยคม เนื่องจากอินทัชได้ขายเงินลงทุนในไทยคมไปเมื่อปลายปี 2565 ซึ่งหากไม่รวมการลดลงของส่วนแบ่งผลกําไรจากการดําเนินงานที่ยกเลิก (ไทยคม)

ผลการดําเนินงานของกลุ่มอินทัชในไตรมาสนี้และงวดหกเดือนของปีนี้เพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 2/2565 และงวดหกเดือนของปี 2565 ส่วนใหญ่เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งผลกําไรจากเอไอเอสจากการเติบโตของรายได้ จากการให้บริการและการควบคุมค่าใช้จ่าย ด้านการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ และเอไอเอสมีกําไรจากอัตราแลกเปลี่ยนในปีนี้ ในขณะที่ปีก่อนมีขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน

ผลการดําเนินงานเฉพาะบริษัท

ในไตรมาส 2/2566 และงวดหกเดือนของปี 2566 อินทัชมีส่วนแบ่งกําไรจากบริษัทย่อยและบริษัทร่วมรวม 2,902 ล้านบาท และ 5,636 ล้านบาท ตามลําดับ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมาและปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของผลกําไรของเอไอเอส สําหรับค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานของอินทัชสําหรับไตรมาส 2/2566 และงวดหกเดือนของปี 2566 อยู่ที่ 37 ล้านบาท และ 79 ล้านบาท ตามลําดับ