ผู้ใช้งานกว่า 69% ยังคงเรียก “X” ว่า “Twitter”

x-twiiter

“Ad Age” สื่อด้านการตลาดในสหรัฐ เผยผลสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับ “X” พบผู้ใช้กว่า 69% ยังไม่มูฟออนและเรียกชื่อแพลตฟอร์มว่า “Twitter” ตามเดิม

วันที่ 17 กันยายน 2566 รายงานการสำรวจที่จัดทำโดยแผนกวิจัยของ The Harris Poll บริษัทวิจัยและวิเคราะห์ตลาดในสหรัฐ และ Ad Age สื่อที่เผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับข้อมูลการตลาด ระบุว่าผู้ใช้ “X” ร่างใหม่ของทวิตเตอร์ (Twitter) ในสหรัฐกว่า 69% ยังคงเรียกแพลตฟอร์มด้วยชื่อเดิม และเรียกการโพสต์ว่าเป็น “การทวีต” สะท้อนถึงพฤติกรรมของผู้ใช้ที่ค่อนข้างสวนทางกับความต้องการ “นายอีลอน มัสก์” (Elon Musk) ผู้เป็นเจ้าของแพลตฟอร์ม 

ทั้งนี้ ผลการสำรวจดังกล่าวยังพบว่า ผู้ใช้ X ส่วนใหญ่รับรู้ถึงการพลิกโฉมของแพลตฟอร์ม แม้ว่าจะไม่ได้เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดก็ตาม โดย 79% ของผู้เข้าร่วมการสำรวจจำนวน 1,047 คน รับรู้ถึงการเปลี่ยนผ่านจาก Twitter เป็น X และมีเพียง 31% เท่านั้นที่ใช้ชื่อใหม่ในการเรียกแพลตฟอร์มดังกล่าว

มีหลายปัจจัยที่ทำให้ผู้ใช้ X ยอมรับการพลิกโฉมแพลตฟอร์มของมัสก์ได้ยาก โดยเฉพาะการที่ตัวอักษร X มีนัยแสดงถึงความหมายเชิงลบ, แอปพลิเคชั่นที่ถูกจำกัดการใช้งาน, การใช้ยา, และตัวแปรคณิตศาสตร์ที่ไม่สามารถหาค่าได้ ซึ่งเป็นความหมายที่ส่งผลต่อทัศนคติของผู้ใช้โดยตรง

แม้ว่าการพลิกโฉม Twitter ครั้งใหญ่จะเป็นไปตามเจตนารมณ์การสร้างแอปที่รวมทุกบริการมาไว้ในที่เดียวของมัสก์ แต่ X กลับต้องเผชิญความท้าทายในมิติของการสูญเสียความนิยมและมูลค่าของแบรนด์ด้วย

โดยการจัดอันดับความภักดีของลูกค้า (Customer Loyalty) ที่มีต่อแบรนด์ในเดือน ส.ค. 2566 ของ Brand Keys ที่ปรึกษาด้านการวิจัยแบรนด์ที่เชี่ยวชาญด้านการวัดมูลค่าแบรนด์ ความภักดี และการมีส่วนร่วมของผู้บริโภค ระบุว่า ความภักดีของผู้ใช้ X ลดลงจากอันดับที่ 47 มาเป็นอันดับที่ 92 ซึ่งเป็นผลมาจากความพยายามในการพลิกโฉมแพลตฟอร์มครั้งใหญ่

Advertisement

นอกจากนี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) ยังเคยรายงานด้วยว่า นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดคาดการณ์การสูญเสียมูลค่าแบรนด์จากการพลิกโฉมแพลตฟอร์มครั้งใหญ่ที่ 0.4-2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.4-7.1 แสนล้านบาท) เพราะเป็นการทำลายแบรนด์ที่สั่งสมอัตลักษณ์เฉพาะตัวมากว่า 15 ปี และเข้มแข็งในเชิงของวัฒนธรรมการใช้งาน