
DE ชู 7 นโยบายเรือธง ดำเนินการในปี 2567 ชูวาระเอไอ สำคัญเร่งพัฒนาโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ใช้เอง เร่งสางกฎหมายจริยธรรมเอไอ พร้อมดันยูสเคสใช้งานในหน่วยรัฐ
วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า ในปี 2567 จะมีการขับเคลื่อน AI Agenda เพื่อวางโครงสร้างพื้นฐานด้านปัญญาประดิษฐ์ โดยให้สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (BDI) พัฒนา Thai Large Language Model (Thai LLM)
เนื่องจากโมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่ใช้เป็นพื้นฐานเอไอปัจจุบันถูกสร้างบนภาษาอังกฤษ เมื่อใช้ในบริบทภาษาไทยจะมีความคลาดเคลื่อนอยู่มาก
ภาษาไทยมีบริบทและวัฒนธรรมอีกแบบคงไม่มีใครพัฒนาได้ดีกว่าคนไทย เพื่อใช้เป็นพื้นฐานเอไอในบริบทของคนไทย
นายประเสริฐกล่าวด้วยว่า การพัฒนาโมเดลภาษาใช้เองมีความจำเป็น เพื่อไม่ให้พึ่งพาเทคโนโลยีต่างชาติมากเกินไป
นอกจากนี้ ยังมีการสร้าง National AI service Platform ที่รวมบริการด้าน AI บนคลาวด์กลางภาครัฐ (GDCC) เพื่ออำนวยความสะดวกและคัดกรองบริการเอไอให้ใช้
ที่สำคัญคือต้องเตรียมพร้อมด้านกฎหมานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำกับดูแลการใช้เอไอ ไม่ว่าจะเป็นด้านจริยธรรมเอไอ หรือการลดผลกระทบเชิงลบทางสังคม (AI Ethics, Governance, Regulation) พัฒนาทักษะ เสริมสร้างความรู้/ทักษะ AI สำหรับ SMEs และประชาชน การ Upskill/Reskill/Newskill ด้าน AI สำหรับบุคลากรทุกภาคส่วน
กรณี AI use case ที่รัฐและเอกชนจะมีให้เห็นชัดเจนขึ้น เช่น การพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา จะปรับใช้เอไอมาประเมินสภาพอาการะยะปัจจุบันอัจฉริยะ ข้อมูลพยากรณ์กลุ่มฝนเชิงพื้นที่ระดับอำเภอ บริเวณ 22 ลุ่มน้ำทั่วประเทศ และแผนที่เสี่ยงภัยสภาวะฝนตกหนักถึงหนักมาก
หรือแม้แต่ในส่วนของ ศูนย์ AOC 1441 กจะใช้เอไอช่วยประเมินความเสี่ยงและขยายผลปราบปราบตัดตอนซิมม้าได้
โดย AI agenda เป็น 1 ใน 7 ทิศทางดำเนินการของกระทรวงดีอีในปีนี้
- Cloud First Policy
- AI Agenda
- 1 อำเภอ 1 IT Man
- พัฒนากำลังคนดิจิทัล (Digital Manpower)
- Cell Broadcast
- แก้ปัญหาภัยออนไลน์
- ยกระดับ Thailand Digital Competiveness Ranking