อ่านเกม Binance TH เปิดศึกชิงที่หนึ่งกระดานเทรดคริปโต

นิรันดร์ ฟูวัฒนานุกูล
นิรันดร์ ฟูวัฒนานุกูล

แพลตฟอร์มเทรดสินทรัพย์ดิจิทัล Binance TH by Gulf Binance ที่เกิดจากการร่วมทุนระหว่างบริษัทในเครือ Binance ศูนย์ซื้อขายที่ใหญ่ที่สุดในโลก ไบแนนซ์ แคปปิตอล แมเนจเมนท์ จำกัด (Binance Capital Management Co., Ltd.) และบริษัท กัลฟ์ อินโนวา จำกัด กดปุ่มเริ่มดำเนินการในไทยอย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมจัดทัพผู้บริหารหน้าใหม่ เตรียมรับกับวัฏจักรขาขึ้นของตลาดคริปโตเคอร์เรนซีในปีนี้

“ประชาชาติธุรกิจ” มีโอกาสพูดคุยกับ “นิรันดร์ ฟูวัฒนานุกูล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ ไบแนนซ์ จำกัด กับเป้าหมายชัดเจนที่ต้องการผลักดันให้ Binance TH ช่วงชิงผู้นำตลาด ทั้งในแง่จำนวนผู้ใช้ และปริมาณการซื้อขายภายใน 2 ปีนับจากนี้ ดังนี้

ย้ำจุดแข็ง Binance

“นิรันดร์” กล่าวว่า ประสบการณ์ในการทำงานในอดีตเมื่อครั้งเป็นกรรมการผู้จัดการ บริการทรูมันนี่ วอลเล็ต จนเติบโตมีจำนวนผู้ใช้กว่า 12 ล้านคน ทำให้เข้าใจถึงปัญหาที่ผู้พัฒนาแอปต้องเจอ เรื่องหลักคือการยืนยันตัวตน หรือ KYC ที่ต้องรวดเร็ว การดำเนินการของ Gulf Binance จึงยึด 5 กลยุทธ์หลัก

ประกอบด้วย 1.การพัฒนาประสิทธิภาพของแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่อง 2.การสร้างชุมชนผู้ใช้งานสินทรัพย์ดิจิทัลที่เข้มแข็ง 3.การเพิ่มการยอมรับในสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านการเรียนรู้ 4.การดำเนินงานที่มีแนวทางมุ่งเน้นไปยังผู้ใช้เป็นสำคัญ และ 5.การปฏิบัติตามกฎหมาย และกฎระเบียบที่ใช้บังคับอย่างเคร่งครัด

หากรวบรัดแล้วจะเหลือแค่ 3 ส่วนหลัก คือ ด้านเทคโนโลยี, การให้ความรู้กับชุมชน และเรื่องของความปลอดภัย

“การที่เราร่วมทุนกับไบแนนซ์ ทำให้ได้เทคโนโลยีที่ดี เช่น การจับคู่ซื้อขายของลูกค้าภายในแพลตฟอร์มที่มีประสิทธิภาพ ทำให้การแมตชิ่งเร็ว และได้ราคาดีที่สุด ทั้งยังมีระบบกระเป๋าเงินคริปโต และเรื่องความปลอดภัยต่าง ๆ ด้วย อีกทั้งจากขาขึ้นของวัฏจักรคริปโตรอบที่ผ่านมา เราเห็นแล้วว่าบัญชีผู้ใช้คริปโตเพิ่มขึ้นอย่างมาก และไปกระจุกตัวอยู่ที่เดียว แต่แพลตฟอร์มที่ทำตลาดในขณะนั้นทำไม่ทันจึงมีลูกค้าบางส่วนหลุดมือไป”

โดย Binance TH ถือเป็นรายเดียวในประเทศไทยที่รองรับการยืนยันตัวตนรูปแบบดิจิทัล ทั้งจาก NDID และแอปพลิเคชั่น ThaID เพื่อแก้ปัญหาจำนวนผู้ใช้ทะลักเข้ามาสมัคร และใช้เวลายืนยันตัวตนนาน จากที่เห็นในรอบที่ผ่านมา ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะเป็นขาขึ้นของวัฏจักรคริปโตเหมือนที่เคยเกิดขึ้นมา 3 ครั้งแล้ว จึงต้องเตรียมการให้พร้อม

“เรื่องความปลอดภัย แน่นอนว่าความกังวลอย่างแรกของหน่วยงานรัฐ คือเรื่องการฟอกเงิน เราได้ใช้เทคโนโลยี Elliptic ตรวจสอบบัญชีต้องสงสัย หรือเข้าข่ายว่าเกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย และการทำงานอย่างใกล้ชิดกับ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงการเชื่อมต่อระบบตรวจสอบรายชื่อบุคคลต้องสงสัยกับสำนักงาน ปปง. และผู้ให้บริการรายชื่อระดับโลก”

1 กระดานเทรด 2 ระบบ

แม่ทัพ “กัลฟ์ ไบแนนซ์” กล่าวด้วยว่าปฏิเสธไม่ได้ว่าเมื่อใช้ชื่อแบรนด์ Binance 
คนก็จะมองหาความเชื่อมโยง ซึ่งความแข็งแกร่งของ Binance คือการที่มีสินทรัพย์ดิจิทัลให้เลือกจำนวนมาก และมีปริมาณซื้อขายสูง แต่ภายใต้การกำกับดูแลของกฎหมายไทย การจะลิสต์เหรียญคริปโตขึ้นซื้อขายจะต้องพิจารณา Fundamental ของสินทรัพย์นั้น ๆ ทั้งมีกฎเกณฑ์ที่ต้องดูแลอีกมาก

ในไทยตนมองว่า “การลิสต์เหรียญไม่ยาก แต่การทำให้เหรียญสนับสนุนกับบล็อกเชนนั้น ๆ มีความซับซ้อน ต้องทำ Due Diligent แม้จะมีลูกค้าต้องการเหรียญนั้น ๆ มาก แต่ถ้าเชนมีปัญหา ไม่น่าเชื่อถือ โดนแฮกได้ก็ไม่ควร สุดท้ายอยู่ที่ศักยภาพหรือพื้นฐานที่ดีระดับหนึ่ง”

ปัจจุบัน Binance TH มี 115 คู่เหรียญถือว่ามากที่สุดในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลไทย แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นใบอนุญาต “Exchange” มี 3 คู่เหรียญ คือ บาท/USDT บาท/BTC และ บาท/ETH ส่วนที่เหลือใช้ใบอนุญาต “โบรกเกอร์” เชื่อมโยงกับกระดานเทรดที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานกำกับดูแลที่ ก.ล.ต.อนุญาต ซึ่งใช้สินทรัพย์ดิจิทัลจาก Binance คาซัคสถาน และ Binance ดูไบ

กล่าวคือบนแพลตฟอร์มจะมีสองหน้าต่าง หน้าต่างกระดานเทรด และโบรกเกอร์ หากต้องการซื้อสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ นอกเหนือจาก 3 คู่เหรียญบาทแล้ว ผู้ใช้สามารถส่งคำสั่งซื้อได้จากหน้าต่างโบรกเกอร์ โดยเหรียญที่ลิสต์บนหน้าต่างดังกล่าว ทั้งที่คาซัคสถานและดูไบ ก็ผ่านเกณฑ์ของ ก.ล.ต.ในแต่ละประเทศแล้ว

“คู่เหรียญจากโบรกเกอร์ใช้กฎการลิสต์จากคาซัคฯ และดูไบ มีความปลอดภัยเหมือนกับเรา แต่ช่วยลดความซับซ้อนในการลิสต์เหรียญบน Exchange แต่อย่างไรเราก็มีแผนที่จะลิสต์เหรียญคู่ไทยบาทบนส่วนที่เป็นใบอนุญาต Exchange มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยส่วนตัวมีเป้าหมายว่า ถ้า Binance Global มีเหรียญอะไร Binance TH ต้องมีด้วย”

โหมแคมเปญชิงผู้ใช้

“ตอนนี้มียูสเซอร์รายย่อยเป็นหลักราว 5 หมื่นราย จาก 2.9 ล้านบัญชี แน่นอนว่ารายใหญ่วอลุ่มจะเยอะมาก เราต้องมีเซอร์วิสดูแลลูกค้ารายใหญ่ เช่น ถ้าเขานำเงิน 50 ล้านบาท เข้าระบบ เราจะนำสินทรัพย์ที่ไหนมาแบ็กหรือจะวางโฟลว์อย่างไร เป็นต้น ในส่วนนี้ต้องดูแลเป็นพิเศษ”

“นิรันดร์” ย้ำว่า บริษัทจะโฟกัสทั้งในแง่ของจำนวนยูสเซอร์ และปริมาณการซื้อขายของรายใหญ่ หรือในภาษาคริปโตเรียกว่า “วาฬ” เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าในขณะที่นักเทรดรายย่อยซื้อขายครั้งละ 5 พันบาท รายใหญ่อาจจะมีการซื้อขายครั้งละ 50 ล้านบาท วอลุ่มจึงแตกต่างกันมาก แต่เป้าหมายก็จะเร่งเพิ่มทั้งสองส่วนเพื่อไปสู่การเป็นที่หนึ่งในตลาด

“เปิดไม่ถึงเดือนมีลูกค้า 5 หมื่นราย ก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจแล้ว แต่เป้าหมายตั้งไว้มากกว่านั้นมาก อยากได้สัก 9 แสนยูสเซอร์ ก็เป็นตัวเลขที่ท้าทายมาก แต่คาดว่ามีความเป็นไปได้ ถ้าเราทำทุกอย่างตามแผน และสภาพตลาดเอื้ออำนวย ทำให้เราหันมาโฟกัสโอเปอเรชั่นเรื่องการยืนยันตัวตนเป็นหลัก เพื่อให้คนเห็นว่าเร็วแล้วมีการบอกต่อกันไป สัมผัสประสบการณ์จริงมากกว่าที่จะโหมประชาสัมพันธ์”

การทำการตลาดจะเน้นกลยุทธ์ปากต่อปาก ใช้ KOL ควบคู่ไปกับการโปรโมชั่นออกมาเรื่อย ๆ เช่น ในช่วงวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา ถ้ายืนยันตัวตนสำเร็จก็จะได้รับเหรียญ BNB หรือลดค่าธรรมเนียมต่าง ๆ พร้อมกับจับมือกับพันธมิตรอย่าง AIS ที่มีฐานลูกค้าใหญ่มากกว่า 40 ล้านราย แค่ต้องนำเสนอว่าเขาจะได้ประโยชน์อะไรจาก Binance บ้าง เป็นต้น

“สุดท้ายคือการเรียกความเชื่อมั่นและดึงดูดนักเทรดจากหลายที่ ซึ่ง ริชาร์ดเติ้ง ซีอีโอ Binance ใหญ่ จะมาไทยเองในช่วงเดือน 3 ก่อน Bitcoin Halving เขาสนับสนุนเรามาก ๆ อยากให้เราสำเร็จ แม้ไม่ได้ดูแลโดยตรง แต่ก็มีคนมาช่วยตลอด”

สำหรับการยืนยันตัวตนจะรับแต่คนไทยก่อน เพราะเป็นโอเปอเรชั่นที่เร็วจากการใช้ NDID ถ้ารับต่างชาติด้วยต้องใช้ข้อมูลพาสปอร์ต และ ปปง. ซึ่งมีกฎเกณฑ์ที่ค่อนข้างยาก เช่น ต้องหาข้อพิสูจน์พาสปอร์ต เป็นต้น

บทบาท Local Exchange

แม่ทัพ “กัลฟ์ ไบแนนซ์” พูดถึงปรากฏการณ์ Bitcoin Halving ว่า เป็นความเชื่อในวงการว่า ถ้าปีนี้ฮาล์ฟวิ่ง ปีต่อไปเป็นปีที่ดีเสมอ บริษัทจึงใช้จังหวะนี้เป็นโอกาสในการเปิดตัว หากเชื่อว่าตลาดกำลังจะกลับมา ซึ่งต้องมีการสร้างทีมงานเพิ่มขึ้นอีก โดยเน้นไปในส่วน Costumer Service เพราะส่วนอื่นใช้เทคโนโลยีเป็นหลักจึงใช้คนไม่มาก ต่างไปจากการดูแลลูกค้า

“Binance โลกใหญ่มาก ๆ กระดานเทรดในไทยมีเงินส่วนหนึ่งที่โอนไป Binance แต่ไม่ได้โพซิชั่น Binance TH คือเราเป็น Gateway เชื่อมเอาเงินออกไป Binance โลก ซึ่งถ้าเป็นอย่างงั้น เราก็ไม่ต้องมีเหรียญอื่นเลย มีแค่ USDT (เหรียญที่ตรึงราคากับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ) แต่ Binance ใหญ่เขาสนับสนุนให้เอาเหรียญของเขาที่มีมากมายบนแพลตฟอร์มใหญ่มาซื้อขายแลกเปลี่ยน ทั้ง Gulf และ Binace มีไดเร็กชั่นที่อยากเห็นเรายืนได้ด้วยตนเอง”

“นิรันดร์” ทิ้งท้ายด้วยว่า ในระยะยาวจะต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยี และรูปแบบใหม่ ๆ ในโลกคริปโตและบล็อกเชน เพราะกระดานเทรดอย่าง Binance Global อาจโดน “ดิสรัปต์” ก็ได้ โดยมี DEX (กระดานซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลแบบไร้ศูนย์กลาง Decentralized Exchange) มาแย่งไป แม้ DEX จะใช้งานยาก และซับซ้อน ไม่เหมาะกับคนทั่วไป แต่ในอนาคตตนมองว่า Local Exchange จะมีบทบาทสำคัญมากขึ้น และแย่งวอลุ่มมาได้ ทั้งจากการกำกับดูแล, ติดต่อเรื่องการบริการได้, การใช้ภาษาไทย และอื่น ๆ