
HP ประเทศไทยเผย ขยายลงทุนในประเทศไทยเพิ่มเติม หลังซุ่มเปิดฐานการผลิตใหม่เมื่อปีที่ผ่านมา ดันยอดจ้างแรงงานไทยเฉียด 10,000 ตำแหน่ง ปั๊มตรา “Made in Thailand” ในสินค้าทุกเซ็กเมนต์ หนุนผลิตเพื่อส่งออก และเพิ่มสัดส่วนขายในประเทศ
นางสาววรานิษฐ์ อธิจรัสโรจน์ กรรมการผู้จัดการ เอชพี ประเทศไทย (HP) กล่าวว่า ปี 2567-68 ที่ผ่านมาถือเป็นปีที่ประสบความสำเร็จของเอชพี ประเทศไทย พวกเราได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทุกท่าน และยังสามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาดได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยการนำเสนอโซลูชั่นแบบครบวงจรภายใต้กลยุทธ์ One HP พร้อมพอร์ตโฟลิโอที่แข็งแกร่งและหลากหลาย และเอชพี ประเทศไทย พร้อมที่จะเป็นผู้นำอนาคตแห่งการทำงาน ไม่เพียงด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นที่ครบรอบด้านเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาศักยภาพของคนไทยและเศรษฐกิจประเทศไทยผ่านความร่วมมือภายในประเทศด้วย
โดยในปีที่ผ่านมา HP Inc. ดำเนินการตามแผนที่จะปรับโครงสร้างห่วงโซ่อุปทานใหม่ ซึ่งมีการเลือกประเทศไทยเป็นศูนย์กลางผลิตสินค้าพีซี ทุกเซ็กเมนต์ที่มีในพอร์ตโฟลิโอ ซึ่งได้ตั้งโรงงานที่ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี และเริ่มผลิตและส่งออกสำเร็จมาตลอดปีที่ผ่านมา
“โรงงานที่บ้านบึง จะเน้นการผลิตเพื่อส่งออกเป็นหลัก แต่ในปีนี้จะมีการขยายขนาดการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศให้มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันสินค้าที่วางจำหน่ายในไทยมาจากโรงงานในประเทศไม่ถึงครึ่ง ทั้งนี้ฐานผลิตใหม่นี้มีพนักงานเป็นคนไทยล้วน และจะทยอยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้คาดว่าเกินแปดพันคน และอาจถึงหมื่นคน”
“การตั้งฐานผลิตครั้งนี้ เกิดจากเมื่อครั้งโควิด-19 ที่สินค้าไอทีขาดแคลน เราไม่มีสินค้าส่งออก ดังนั้นเราจึงต้องการสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าว่ามีของแน่ และเมื่อพาพันธมิตรมาชมโครงการกลับพบว่าเขายิ่งเชื่อมั่นมากขึ้นเพราะมีโรงงานในไทย และมีแรงงานไทยทั้งหมด แสดงว่าความเชื่อมั่นในฝีมือแรงงานไทยสูง”
เมื่อถามว่า ในขณะที่เงื่อนไขจากมาตรการภาษีต่างตอบโต้ของสหรัฐอเมริกา จะกระทบต่อการผลิตและส่งออกของสินค้ากลุ่มพีซีของ HP ที่ผลิตในไทยอย่างไร
นางสาววรานิษฐ์กล่าวว่า การตั้งโรงงานเพื่อสร้างความยืดหยุ่นในแง่ของห่วงโซ่อุปทาน จึงน่าจะเป็นสิ่งหนึ่งที่รับมือกับความไม่แน่นอนในระยะยาวได้ นับว่าได้ประโยชน์ทั้งในเรื่องของสินค้าไม่พอ และรับมือสงครามการค้าจากมาตรการภาษี
“ในส่วนของผลประกอบการที่ตั้งเป้านั้น เราก็บอกได้ว่าจะทำให้ดีที่สุด แต่เชื่อว่าโตเหนือตลาดพีซีทั่วโลก (โต 4.7% จากปีก่อนหน้า, การ์ตเนอร์) เพราะอย่างแรกตลาดโตค่อนข้างดี เนื่องจากอยู่ในวงจรของการเปลี่ยนอุปกรณ์และเครื่อง AI PC ซึ่ง HP มีสินค้าครบถ้วนตามกลยุทธ์ OneHP และ HP ยังมีแต้มต่อจากโรงงานที่ผลิตในประเทศ ความเชื่อมั่น ซึ่งมีการประทับตรา ‘Made in Thailand’ บนสินค้าทุกชิ้นที่ผลิตจากโรงงานไทย และตรานี้ได้รับมาตรฐานรับรองจากกระทรวงอุตสาหกรรม ทำให้เรามี Handicap ที่ดีในตลาด”
โครงการ “Made in Thailand” HP ดีต่อไทย นับว่าเป็นการสร้างห่วงโซ่อุปทานระดับโลกที่ยืดหยุ่นสำหรับเอชพี ซึ่งหลังประกาศอย่างเป็นทางการว่าขณะนี้บริษัทมีฐานผลิตที่มีศักยภาพในประเทศไทยแล้ว โครงการ “Made in Thailand” HP ดีต่อไทย ที่เกิดขึ้นในปี 2568 นี้ สะท้อนความสำคัญของการสร้างห่วงโซ่อุปทานภายในประเทศไทย ทั้งการผลิตเครื่องคอมพีซีและพรินเตอร์ ซึ่งเทคโนโลยีการผลิตจะถูกถ่ายทอดในประเทศไทย ตลอดจนมีระบบการขนส่ง และกระบวนการรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์ภายในประเทศ ซึ่งการมุ่งเน้นเชิงกลยุทธ์นี้ไม่เพียงแต่ส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีและการผลิตภายในประเทศเท่านั้น
“‘Made in Thailand’ ประกอบด้วยใจความหลัก 3 ประการ ได้แก่ ด้านเทคโนโลยี ซึ่งเอชพีมีความภาคภูมิใจในการได้ผลิตผลิตภัณฑ์พีซีและเครื่องพิมพ์ด้วยมาตรฐานระดับโลกในประเทศไทย พร้อมยกระดับทักษะด้านเทคโนโลยีให้แก่คนไทย ด้านสังคมและเศรษฐกิจ เอชพีมีความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทย สร้างอาชีพ และยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางด้านการผลิตที่มีความเป็นเลิศ และด้านความยั่งยืน ซึ่งให้ความสำคัญกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมผ่านการผลิตและขนส่งภายในประเทศ รวมถึงกระบวนการจัดหาวัตถุดิบและการรีไซเคิลที่ยั่งยืน ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่าเอชพีมีความมุ่งมั่นที่จะลงทุนอย่างมั่นคงสำหรับอนาคตในประเทศไทย”