“ซีพี” ควัก 558 ล้าน ซื้อ “Chilindo”เว็บประมูลสินค้าต่อยอดธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด เปิดเผยว่า วิกฤตโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก แต่แฝงไว้ด้วยโอกาสให้ผู้ประกอบการหากปรับตัวได้ทันสู่วิถีใหม่ (New Normal) และสร้างโอกาสให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซเป็นช่องทางหลักในการทำธุรกิจของโลกยุค 4.0 ทำให้แอสเซนด์ คอมเมิร์ซ ในเครือซีพี ซึ่งมีวีมอลล์ ( WeMall ) แพลตฟอร์มห้างสรรพสินค้าออนไลน์เข้าไปลงทุนในบริษัท Chilindo จำกัด โดยเข้าไปถือหุ้น 100% มูลค่าประมาณ 18 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 558 ล้านบาท จาก Chilindo บริษัทอีคอมเมิร์ซ ในฮ่องกง เพื่อยกระดับให้เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสัญชาติไทย

“การที่ซีพีลงทุนในแพลตฟอร์ม Chilindo เป็นการนำร่องเพื่อสร้างแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสัญชาติไทยที่จะมาช่วยยกระดับอีคอมเมิร์ซไทยก้าวสู่ตลาดระดับสากล จากปัจจุบันตลาดอีคอมเมิร์ซในไทยล้วนเป็นแพลตฟอร์มของธุรกิจข้ามชาติเป็นส่วนใหญ่ การเสริมความแข็งแกร่งด้านอีคอมเมิร์ซของประเทศไทยต้องให้ความสำคัญกับการยกระดับผู้ประกอบการรายย่อยของไทยและเอสเอ็มอี โดยเฉพาะในสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค การมีแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสัญชาติไทยอย่าง Chilindo จึงเป็นการเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสในจังหวะที่ต้องเร่งส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลของไทย”

และในอนาคตจะใช้แพลตฟอร์มดังกล่าวเป็นช่องทางการตลาดให้ผู้ประกอบการรายย่อย เอสเอ็มอี และเกษตรกรไทยขายของไปต่างประเทศได้

สำหรับ บริษัท แอสเซนด์ คอมเมิร์ซ จำกัด เป็นบริษัทในเครือซีพี ตั้งเป้าหมายเป็นผู้นำธุรกิจอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีประสบการณ์บริหาร “WeMall” ห้างสรรพสินค้าออนไลน์สินค้าแบรนด์เนม รวมถึงร้านค้าออนไลน์ Weloveshopping แหล่งรวมสินค้าหลากหลาย เมื่อรวม Chilindo เข้าไปอีกหนึ่งแพลตฟอร์มจะช่วยเสริมศักยภาพให้เครือเจริญโภคภัณฑ์มีฐานธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่แข็งแกร่งรองรับการเติบโตในยุค 4.0
ปัจจุบันอันดับการแข่งขันด้านดิจิทัลในเวทีโลกประเทศไทยอยู่ที่ 40 จึงเป็นโอกาสที่งปรับตัว เพราะไทยเป็นประเทศที่มีการเติบโตด้านดิจิทัลสูงมาก ในประชากร 7 พันกว่าล้านคนทั้งโลก ใช้สมาร์ทโฟนกว่า 5 พันล้านคน ไทยมีการเติบโตของการบริโภคข้อมูลข่าวสารทางอินเทอร์เน็ตสูงมาก ทั้งด้าน Mobile Consumption สูงถึง 60% สูงกว่าญี่ปุ่น ออสเตรเลีย อังกฤษ เมื่อเทคโนโลยี 5G เกิดขึ้นจะเติบโตก้าวกระโดด และการมีแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสัญชาติไทยจะได้ประโยชน์หลายด้าน ทั้งเรื่อง Big Data ที่ไม่ไหลออกไปต่างประเทศ และเรื่องความปลอดภัย (Cyber Security) ในประเทศด้วย

ปัจจุบันธุรกิจอีคอมเมิร์ซทั่วโลกเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยในประเทศไทยมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 3 ล้านล้านบาท และนับตั้งแต่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในปี 2563 ส่งผลให้มีมูลค่าการเติบโตสูงขึ้นไปอีก คาดว่าจะโตถึง 19% โดยประมาณการมูลค่าการซื้อขายออนไลน์ในประเทศคิดเป็น 1.5% ของการบริโภคภาคเอกชน หรือ 0.8% ของ GDP ทั้งปี

สำหรับแพลตฟอร์ม Chilindo เป็นเว็บไซต์ประมูลสินค้าออนไลน์ ใช้รูปแบบ Gamification หรือการเล่นเกมการประมูล และจะซื้อก็ต่อเมื่อชนะประมูลในราคาที่ตนเองต้องการ โดยกำหนดราคาประมูลขั้นต่ำที่ 1 บาททำให้ผู้ที่เข้ามาใช้แพลตฟอร์มนี้ต่างจากการเข้าใช้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอื่น ๆ โดย Chilindo มีความโดดเด่นด้านราคา เน้นการจำหน่ายสินค้าในราคาที่ผู้บริโภค “ยอมรับได้” ไม่ใช่ราคาที่ร้านค้าเป็นผู้กำหนดไว้ ทั้งการซื้อสินค้าทุกชิ้นยังทำการตรวจสอบย้อนกลับได้จึงมั่นใจได้ในเรื่องการไม่ถูกหลอกลวงโดยผู้ขาย