“PSI-อินโฟแซท” ปรับหนีดิสรัปต์ จัดพอร์ตสินค้ารุกลงทุนขยายธุรกิจใหม่

2 ขาใหญ่ธุรกิจจานรับสัญญาณดาวเทียมปรับแผนสู้รอบใหม่ “พีเอสไอ” เน้นเดินเกมเร็วรับมือโลกเปลี่ยน ดึงจุดแข็ง “ทีมช่าง-เครือข่ายจัดจำหน่าย” ปั๊มสินค้าใหม่เติมรายได้ธุรกิจเดิม มั่นใจโกยรายได้ ทะลุ 3,300 ล้านบาทในสิ้นปี ตั้งบริษัทใหม่ลุยพลังงานทดแทน ฟาก “อินโฟแซท” ปรับทีมขายเพิ่มโฟกัสช่องทาง “ออนไลน์”

ผู้ผลิตจานดาวเทียม

นายสมพร ธีระโรจนพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีเอสไอ โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาธุรกิจจานรับสัญญาณและกล่องทีวีดาวเทียมเติบโตลดลงต่อเนื่อง

จากการเข้าถึงการใช้อินเทอร์เน็ต ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกในการรับชมคอนเทนต์มากขึ้น และคาดว่าตลาดรวมในปีนี้จะอยู่ในภาวะทรงตัว เนื่องจากมีการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีการส่งสัญญาณแบบ S1

ซึ่งเป็นระบบเก่าสู่การส่งสัญญาณแบบ S2 ทำให้รับชมทีวีแบบ full HD ได้จึงน่าจะจูงใจผู้บริโภคให้เปลี่ยนกล่องรับสัญญาณรุ่นใหม่ บริษัทจึงเพิ่งออกแคมเปญกระตุ้นการเปลี่ยนกล่องใหม่ด้วย

พีเอสไอเล็งลงทุนธุรกิจใหม่

สำหรับแนวทางในการดำเนินธุรกิจจะเดินหน้าใน 2 ส่วน คือ 1.กระตุ้นให้มีการเปลี่ยนกล่องรับสัญญาณดาวเทียมระบบใหม่ที่รองรับการดูทีวี full HD โดยมีกล่องรุ่นใหม่ออกสู่ตลาด

เช่น รุ่น S4 HYBRID รองรับการดูทีวีได้ทั้งในระบบดาวเทียมและอินเทอร์เน็ตทีวี และ 2.ขยายตลาดเครื่องปรับอากาศและกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม โดยปีนี้ตั้งเป้ารายได้รวมที่ 3,350 ล้านบาท เพิ่ม10% จากปีที่ผ่านมาที่ทำได้ 3,200 ล้านบาท

“จำนวนการติดตั้งจานดาวเทียมลดลงเรื่อย ๆ ตั้งแต่ 5 ปีก่อน และเริ่มชัดเจนขึ้นเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา เราจึงเริ่มลดบทบาทการทำตลาดสินค้าในกลุ่มจานและกล่องรับสัญญาณที่เคยเป็นรายได้หลักลงมาต่อเนื่องด้วย โดยหันมานำสินค้าในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า

เช่น เครื่องปรับอากาศและกล้องวงจรปิดเข้ามาทำตลาดเพิ่มขึ้น โดยใช้จุดแข็งของทีมช่างและตัวแทนจำหน่ายที่มีทั่วประเทศเป็นช่องทางการกระจายสินค้า จึงได้ผลตอบรับที่ดีทำให้ขายเครื่องปรับอากาศได้ปีละ 20,000-30,000 เครื่อง”

นอกจากนี้ บริษัทยังขยายการลงทุนมายังธุรกิจพลังงานทดแทน เพราะมองว่าเป็นเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยม ด้วยการตั้งบริษัท PSI Energy เพื่อดำเนินธุรกิจนี้ ซึ่งจะทำทั้งระบบโซลาร์เซลล์และสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

โดยภายในกลางปี 2565 จะเปิดสถานีบริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแห่งแรกที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา บนพื้นที่ 30 ไร่ ประกอบด้วยสถานีชาร์จไฟฟ้าและฟาร์มเกษตรออร์แกนิกเพื่อเป็นพื้นที่พักระหว่างรอ พร้อมปรับศูนย์บริการพีเอสไอทั้ง 7 สาขาให้เป็นสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 2-3 ล้านบาทต่อสถานี

“การทำธุรกิจต้องปรับตัวเร็ว ซึ่งเราเองก็มีการปรับตัวต่อเนื่อง โดยใช้จุดแข็งที่มีทีมช่างกว่า 3,000 คน หากรวมเครือข่ายช่างบนแอปพลิเคชั่น FixIT ที่สร้างขึ้นมาก็จะมีกว่า 10,000 รายพร้อมให้บริการ เช่นกันกับการรุกเข้าสู่ธุรกิจพลังงานทดแทน โดยตั้งเป้าว่าอีก 5 ปีข้างหน้า สัดส่วนรายได้จากธุรกิจพลังงานจะเป็น 50% ของรายได้รวม”

อินโฟแซทปรับทีมขาย

ด้านนายนิรันดร์ ตั้งพิรุฬห์ธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินโฟแซท อินเตอร์เทรด จำกัด กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า พฤติกรรมรับชมคอนเทนต์ของผู้บริโภคเปลี่ยนไปมีทางเลือกมากขึ้น ทั้งทีวีดิจิทัล อินเทอร์เน็ตทีวี ทำให้การติดตั้งจานดาวเทียมในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาไม่โต

ปัจจุบันสัดส่วนผู้ติดตั้งจานดาวเทียมอยู่ที่ 65% ของจำนวนครัวเรือนในประเทศที่มีอยู่ 22-25 ล้านครัวเรือนและเหลือผู้เล่นหลักแค่ 2 ราย คือ พีเอสไอและอินโฟแซท และในปีนี้คาดว่าปัจจัยหลักที่จะกระตุ้นให้ตลาดเติบโต มาจากการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี

โดยผู้ประกอบการทีวีดาวเทียมเตรียมปิดระบบS1 ในราวกลางปี ทำให้ผู้บริโภคต้องเปลี่ยนกล่องรับสัญญาณดาวเทียมใหม่ อีกสาเหตุจะเกิดขึ้นในกรณี กสทช.นำคลื่น 3500 MHz ไปประมูลเพื่อทำ 5G เพราะคลื่นดังกล่าวกำลังส่งแรงกว่าสัญญาณดาวเทียมจึงจะรบกวนจานดำ (C-band)ซึ่งที่ผ่านมาคลื่น 2600 MHz และ 700 MHz ก็เริ่มรบกวนสัญญาณจานดำแล้ว

“ปัจจุบันผู้ใช้งานของอินโฟแซทในบางพื้นที่ก็เริ่มร้องเรียนเกี่ยวกับการกวนของสัญญาณ ในเบื้องต้นเราแนะนำให้เปลี่ยนหัวรับสัญญาณ LNB ใหม่ ซึ่งผู้บริโภคต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง กรณีคลื่น 3500 MHz หาก กสทช.นำไปประมูลก็อาจต้องมีมาตรการเยียวยาผู้ใช้จานดำ ปัจจุบันคาดว่ามีกว่า 10 ล้านครัวเรือน”

นายนิรันดร์กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการปรับตัวต่อเนื่อง ล่าสุดปรับทีมขายให้สอดรับกับช่องทางขายที่เปลี่ยนไป โดยเพิ่มน้ำหนักช่องทางออนไลน์มากขึ้น โดยแยกทีมขายชัดเจน

รวมถึงการเพิ่มทีมดูแลระบบซอฟต์แวร์รองรับสินค้ากลุ่มใหม่ ๆ เช่น พัฒนากล่องอินเทอร์เน็ตทีวี Android INFOSAT รุ่น OTT-S168 ออกมาทำตลาดเมื่อต้นเดือน มี.ค. เจาะกลุ่มคนเมืองในกรุงเทพฯและตามหัวเมืองใหญ่ที่การใช้อินเทอร์เน็ตครอบคลุมแล้วและคาดว่าจะมียอดขาย 50,000 กล่องภายในปีแรก

รวมถึงมีกล่องไฮบริดรุ่น HD-Q168 ที่รับชมได้ทั้งดาวเทียมและอินเทอร์เน็ตออกมา ตั้งเป้ายอดขายที่ 500,000 กล่อง เน้นเจาะตลาดต่างจังหวัดเป็นหลัก

“ที่ผ่านมา เราได้เพิ่มสินค้าในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ทีวี พัดลม เพื่อทำตลาดทดแทนรายได้เดิม โดยใช้จุดแข็งด้านเครือข่ายการกระจายสินค้าที่มีอยู่ทั่วประเทศเข้ามาช่วย ปรากฏว่าได้รับการตอบรับที่ดี โดยเฉพาะในกลุ่มทีวี

เนื่องจากราคาไม่สูงและตอบโจทย์คนต่างจังหวัด ในแง่เศรษฐกิจที่ชะลอการเติบโตอาจมีผลต่อกำลังซื้อในตลาดต่างจังหวัด แต่ไม่น่ากระทบตลาดจานและกล่องดาวเทียม เพราะเป็นสินค้าจำเป็น เนื่องจากคนต่างจังหวัดยังนิยมดูทีวี”