ดีเอชแอลรุกลงทุนไทยรับอีคอมเมิร์ซบูม

ดีเอชแอลรับเทรนด์ B2B และ B2C อีคอมเมิร์ซสะพรั่ง ลุยลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 3.8 หมื่น ล.ทั่วโลก พร้อมขยายศูนย์กระจายสินค้า 14 แห่งในไทยให้ใหญ่ขึ้น ซื้อเครื่องบินแอร์บัสเพิ่ม 2 ลำ เพิ่มเที่ยวบินขนส่งไปอเมริกาและยุโรป รองรับปริมาณพัสดุในอนาคต

นางสาวปาริชาติ ประมุขกุล รองประธานฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการขนส่งด่วนระหว่างประเทศ ดีเอชแอล กล่าวว่า จากผลการศึกษา “The Ultimate B2B E-commerce Guide” ล่าสุดของดีเอชแอลระบุว่า ก่อนการแพร่ระบาดโควิด-19 คาดว่า ธุรกิจ B2B อีคอมเมิร์ซทั่วโลกจะโตขึ้น 18.2% หรือคิดเป็นมูลค่า 12.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

แต่เมื่อเกิดวิกฤตโควิด พบว่า การซื้อขายผ่านออนไลน์โตขึ้นแบบก้าวกระโดด จึงคาดว่า ปี 2570 ตลาดนี้จะโตถึง 70% หรือมีมูลค่ารวม 20.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับในไทยพบว่า หลายธุรกิจให้ความสำคัญกับ B2B อีคอมเมิร์ซมากขึ้นโดยเฉพาะบริษัทเทคโนโลยีและบริษัทข้ามชาติ ส่วนธุรกิจอื่น ๆ ก็มีการพัฒนาเว็บไซต์ของตนเองมากขึ้น

ขณะที่บางส่วนก็เริ่มทำตลาดบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ ๆ เช่น อาลีบาบา อเมซอน เพราะมองว่า หากไม่เร่งทรานส์ฟอร์มไปยังอีคอมเมิร์ซจะทำให้ธุรกิจแข่งขันได้ยากขึ้น

ขณะที่ตลาด B2C อีคอมเมิร์ซทั่วโลกในปีที่ผ่านมามีการเติบโตที่ดี โดยมีโควิดเป็นตัวเร่ง แต่มีมูลค่ารวมเพียง 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่า ปี 2569 จะโตขึ้น 4.8% หรือมีมูลค่าอยู่ที่ 4.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ สินค้าที่ไทยส่งออก 6 อันดับแรก ได้แก่ สินค้าลักเซอรี่ อิเล็กทรอนิกส์ กีฬา อาหารแห้ง ของตกแต่งบ้าน สินค้าในแพลตฟอร์มอีมาร์เก็ตเพลซ และสินค้านิชมาร์เก็ต โดยผู้บริโภคมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป โดยกว่า 91% จะมองหาการขนส่งที่รวดเร็ว มีคุณภาพ มากกว่าโปรโมชั่น

นายเฮอร์เบิต วงศ์ภูษณชัย กรรมการผู้จัดการดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ประเทศไทย และหัวหน้าภาคพื้นอินโดจีน กล่าวว่า ปีนี้บริษัทมีแผนจะลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน (infrastructure) ทั่วโลกเพิ่มอีก 1 พันล้านยูโร หรือคิดเป็นเงินไทย 3.8 หมื่นล้านบาท โดยในไทยจะเร่งขยายศูนย์กระจายสินค้าทั้ง 14 แห่งให้ใหญ่ขึ้น และจัดซื้อเครื่องบินขนส่งแอร์บัส A321 จำนวน 2 ลำ และเพิ่มเที่ยวบินขนส่งไปยังอเมริกา และยุโรป เพื่อรองรับปริมาณพัสดุที่จะเพิ่มขึ้น

ในส่วนแนวทางธุรกิจจะโฟกัสไปที่การปรับระบบการขนส่งโดยเฉพาะเครื่องบินให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงปรับรูปแบบการทำงานของพนักงานเป็นเวิร์กฟรอมโฮม ให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ปีที่ผ่านมาบริษัทมียอดจัดส่งสินค้า484 ล้านชิ้นทั่วโลก ให้บริการลูกค้ากว่า 2.7 ล้านราย ครอบคลุม 220 ประเทศทั่วโลก โดยไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าในภูมิภาคอินโดจีน มีเที่ยวบินขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ 285 เที่ยวบินมีศูนย์กระจายสินค้ากว่า 14 แห่ง และมีจุดรับพัสดุ 238 จุดทั่วประเทศ