เวลา 19.00 น. คืนนี้ ห้ามพลาด ปรากฏการณ์ ดวงจันทร์เต็มดวง ใกล้โลกมากที่สุดในรอบปี หรือ ซูเปอร์ฟูลมูน
วันที่ 27 เมษายน 2564 สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ รายงานว่า คืนนี้ 27 เมษายน 2564 พบกับปรากฏการณ์ ดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลกที่สุดในรอบปี หรือ ซูเปอร์ฟูลมูน ซึ่งดวงจันทร์จะโคจรมาอยู่ตำแหน่งใกล้โลกที่สุดในรอบปี ที่ระยะทาง 357,370 กิโลเมตร ดวงจันทร์เต็มดวงจะมีขนาดปรากฏใหญ่กว่าปกติเล็กน้อย
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
เมื่อเทียบกับดวงจันทร์เต็มดวงขณะไกลโลกที่สุดในรอบปีแล้ว อาจมีเส้นผ่านศูนย์กลางใหญ่กว่าถึง 14 เปอร์เซ็นต์ และอาจสว่างเพิ่มขึ้นถึง 30 เปอร์เซ็นต์ เป็นผลจากการที่ดวงจันทร์อยู่ใกล้โลกมากขึ้น ขนาดปรากฏใหญ่ขึ้น จึงมองเห็นสว่างยิ่งขึ้น เหมาะแก่การถ่ายภาพดวงจันทร์ โดยเฉพาะภาพเปรียบเทียบขนาดกับวัตถุบริเวณขอบฟ้า
สำหรับผู้สนใจรับชมหรือถ่ายภาพปรากฏการณ์ ดวงจันทร์เต็มดวงจะขึ้นทางทิศตะวันออก สังเกตได้ตั้งแต่เวลาประมาณ 19:00 น. เป็นต้นไป ปรากฏบนท้องฟ้าตลอดคืนจนถึงรุ่งเช้า อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (COVID-19) แนะนำให้ผู้สังเกตการณ์สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อหลังจากทำกิจกรรมต่างๆ และเว้นระยะห่างทางสังคม เพื่อป้องกันการติดเชื้อและแพร่กระจายเชื้อโรคทั้งต่อตนเอง ครอบครัว คนรอบข้างและสังคม
เกร็ดความรู้
ในแต่ละเดือนดวงจันทร์โคจรรอบโลกเป็นวงรี ดังนั้นวงโคจรที่เป็นวงรีจึงทำให้ระยะห่างระหว่างโลกกับดวงจันทร์นั้นไม่คงที่ ทำให้บางครั้งดวงจันทร์ก็จะอยู่ใกล้และบางครั้งก็จะอยู่ไกลโลก นักดาราศาสตร์ เรียกจุดที่ไกลที่สุดในวงโคจรระหว่างโลกกับดวงจันทร์นี้ว่า apogee ซึ่งอยู่ห่างจากโลกโดยเฉลี่ยประมาณ 406,700 กิโลเมตร และเรียกจุดที่ใกล้ที่สุดว่า perigee ซึ่งเป็นระยะทางเฉลี่ยประมาณ 356,400 กิโลเมตรจากโลก โดยจะเกิดขึ้นอยู่ทุกๆ 27.3 วัน ตามคาบการโคจรของดวงจันทร์ไปรอบๆ โลก
ระยะห่างระหว่างโลกกับดวงจันทร์แตกต่างกันไปแต่ละเดือนโดยเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 356,400 และ 406,700 กิโลเมตร เนื่องจากวงโคจรรูปวงรีของดวงจันทร์
การนิยามของการเรียกชื่อ “Super Full Moon”
คำว่า Super Full Moon นั้นก็ไม่ได้รับการยอมรับหรือใช้กัน ในเหล่านักดาราศาสตร์หรือนักวิทยาศาสตร์ โดยเป็นเพียงการตั้งชื่อช่วงเหตุการณ์ที่ “สามารถเห็นดวงจันทร์เต็มดวง ในตำแหน่งที่ใกล้โลกมากที่สุด ในรอบปีเท่านั้น” แต่คำที่นักดาราศาสตร์ใช้กัน คือคำว่า “Perigee” ซึ่งเป็นจุดที่ดวงจันทร์อยู่ใกล้โลกที่สุดในวงโคจร
เทคนิคการถ่ายภาพ
สำหรับการถ่ายภาพดวงจันทร์ในคืนวันเกิดปรากฏการณ์ ดวงจันทร์จะเริ่มเคลื่อนที่ขึ้นจากขอบฟ้าทางทิศตะวันออก ตั้งแต่เวลาหัวค่ำหลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ก็สามารถเริ่มถ่ายภาพกันได้แล้ว โดยจะขอแนะนำหลักการเบื้องต้นง่ายๆ ดังนี้
- เลือกใช้เลนส์เทเลโฟโต้ ที่มีทางยาวโฟกัสตั้งแต่ 300 mm. ขึ้นไปเพื่อให้ๆ ได้ภาพดวงจันทร์ที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งหากสามารถถ่ายภาพผ่านกล้องโทรทรรศน์ที่มีความยาวโฟกัสสูงๆ ก็จะทำให้ได้ภาพดวงจันทร์ขนาดใหญ่และมีรายละเอียดที่ดีกว่า (ยิ่งมีทางยาวโฟกัสสูงๆ ยิ่งได้เปรียบ)
- ใช้ค่าความไวแสง (ISO) ตั้งแต่ 400 ขึ้นไป ซึ่งดวงจันทร์ในช่วงเต็มดวงจะมีความเข้มแสงมากอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องใช้ความไวแสงสูงๆ แต่การใช้ความไวแสงสูง ก็จะทำให้เราได้ความเร็วชัตเตอร์ที่สูงขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งช่วยทำให้ภาพไม่สั่นไหว
- การปรับโฟกัสภาพ ใช้ระบบ Live view ที่จอหลังกล้อง ช่วยการปรับโฟกัสให้คมชัดมากที่สุด โดยเลือกโฟกัสบริเวณหลุมอุกกาบาตบนผิวดวงจันทร์ จะช่วยให้สามารถโฟกัสได้คมชัดและง่ายมากที่สุด
- ปรับชดเชยแสงไม่ให้สว่างหรือมืดจนเกินไป โดยอาจทดลองถ่ายภาพแล้วตรวจสอบดูว่า ภาพเห็นรายละเอียดของหลุมบนดวงจันทร์ชัดเจนหรือไม่
- ใช้โหมดการถ่ายภาพแบบแมนนวล M ซึ่งในการถ่ายภาพด้วยโหมด M เราสามารถปรับตั้งค่าทั้งรูรับแสง และความเร็วชัตเตอร์ ได้สะดวก
- ความเร็วชัตเตอร์ ควรสัมพันธ์กับทางยาวโฟกัสของเลนส์ที่ใช้ เช่น หากเราใช้เลนส์ที่มีทางยาวโฟกัส 600 mm ควรใช้ความเร็วชัตเตอร์ไม่ต่ำกว่า 1/600s หรือมากกว่าซึ่งหากภาพที่ถ่ายออกมามืดเกินไปก็ให้ปรับค่าความไวแสง (ISO) เพิ่มขึ้นจนได้แสงที่พอดี
- รูรับแสง อาจใช้ค่ารูรับแสงประมาณ f/4.0 – f/8.0 เพื่อให้ได้ภาพที่คมชัดทั่วทั้งภาพ
- ปิดระบบกันสั่นของเลนส์
- ถ่ายภาพบนขาตั้งกล้องที่มั่นคง
- การบันทึกข้อมูลควรเลือกรูปแบบไฟล์เป็น RAW format ความยืดหยุ่นในการปรับภาพในภายหลัง