“เคอรี่คูล” ปะทะ “ฟิ้วซ์โพสต์” ชิงเค้กขนส่งเย็น 3 หมื่นล้าน

อย่างที่รู้กันว่าธุรกิจโลจิสติกส์เติบโตก้าวกระโดดแทบจะในทุกมิติ ยิ่งในยุคนิวนอร์มอลที่ผู้บริโภคหันมาจับจ่ายบนช่องทางออนไลน์ยิ่งผลักดันให้บริการขนส่งเติบโต และไม่ใช่แต่ข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ แต่ยังรวมไปถึงสินค้าในกลุ่มอาหาร, ของสดแช่เย็น และแช่แข็งต่าง ๆ ที่ต้องการการจัดส่งแบบพิเศษ เช่น มีการควบคุมอุณหภูมิ เป็นต้นซึ่งต้องมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ทำให้บรรดาผู้ให้บริการโลจิสติกส์ที่คิดจะขยับเข้าสู่ธุรกิจขนส่งเย็น หรือขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิ จึงไม่ได้มาเดี่ยว ๆ แต่มักจับมือกับพันธมิตรที่มีความถนัดด้านนี้โดยตรง

ส.ค.ที่ผ่านมา บมจ.ไปรษณีย์ไทย (ปณท) ก็ประกาศความร่วมมือทางธุรกิจกับ บมจ.เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟ โลจิสติกส์ หรือ JWD และ แฟลช เอ็กซ์เพรส ในการเปิดบริการขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ ภายใต้แบรนด์ “ฟิ้วซ์ โพสต์”

เรียกว่านำจุดแข็งที่ต่างฝ่ายต่างมีมาร่วมด้วยช่วยกันบุกเบิกธุรกิจ โดยในระยะแรกจะให้บริการเฉพาะในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัดบางแห่ง เช่น หนองคาย, เชียงใหม่, สุราษฎร์ธานี, ภูเก็ต, ตราด และบางละมุง ชลบุรี ก่อนขยายเส้นทางขนส่งทั่วประเทศในปีหน้า รวมถึงขยายไปยังประเทศต่าง ๆ ในอาเซียน เช่น เมียนมา ลาว กัมพูชาด้วย

 

ล่าสุด “เคอรี่ เอ็กซ์เพรส” กับ “เครือเบทาโกร” ก็กระโดดเข้าสู่ธุรกิจนี้เช่นกัน โดยประกาศลงทุนร่วมกัน (joint venture) ตั้งบริษัทใหม่ชื่อ “เคอรี่เบทาโกร” มี เคอรี่ เอ็กซ์เพรส ถือหุ้น 60% และเครือเบทาโกร 40% เปิดตัวบริการขนส่งเย็นครบวงจร ภายใต้ชื่อ “KERRY COOL”

“อเล็กซ์ อึ้ง” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ปัจจุบันธุรกิจขนส่งเย็นมีมูลค่าตลาดประมาณ 30,000-40,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนเพียง 5% ของตลาดโลจิสติกส์โดยรวม มีแนวโน้มการเติบโตเฉลี่ยปีละ 12-15% ต่อเนื่อง ขณะที่ผู้เล่นรายใหญ่ที่เป็นเจ้าตลาดมีส่วนแบ่งตลาดเพียง 10% ที่เหลือเป็นรายเล็ก ๆ กระจายตัวกันอยู่ทั่วประเทศ จึงมีโอกาสทางธุรกิจอีกมาก

โดย KERRY COOLให้บริการขนส่งสินค้าด้วยแพลตฟอร์มการขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ (cold express delivery platform) ที่ใช้เทคโนโลยี และบริการระดับโลกอย่างระบบ advanced technology & signaling system ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ “เคอรี่ เอ็กซ์เพรส” ช่วยให้ลูกค้าติดตามอุณหภูมิของพัสดุตลอดการขนส่ง ไปพร้อมกับติดตามสถานะการขนส่งได้แบบเรียลไทม์ มีระบบควบคุมอุณหภูมิภายในรถแบบ dual chamber ได้ทั้งแบบแช่เย็นและแช่แข็ง

“เรายังนำความเชี่ยวชาญในการจัดส่งพัสดุด้วยโมเดล hub-and-spoke ของเคอรี่ เอ็กซ์เพรส มาปรับใช้ เพื่อช่วยลดต้นทุนและค่าดำเนินการขนส่ง จึงประหยัดเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดส่งได้มากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงบริการในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย คาดว่า ‘KERRY COOL’ จะเป็นผู้นำตลาด และสร้างรายได้ให้เคอรี่ เอ็กซ์เพรส กว่า 25% ของรายได้รวมภายใน 3-5 ปีข้างหน้า”

“วราวุธ นาถประดิษฐ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัทเดียวกัน เสริมว่า ช่วงแรก KERRY COOL ให้บริการเฉพาะในเครือเบทาโกรในพื้นที่ภาคใต้ และใน 2 เดือนสุดท้ายของปีจะขยายบริการไปยังลูกค้ากลุ่มบีทูบีรายอื่น รวมถึงบีทูซี และคาดว่าใน 3-5 ปีจากนี้จะใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท

ส่วนทีมบริหารแบ่งเป็น 2 ส่วน คือทีมเดิมจากเคอรี่ เอ็กซ์เพรส และทีมใหม่ที่มีความรู้ด้านการขนส่งเย็น โดยในปี 2565 จะเดินหน้าขยายศูนย์กระจายสินค้า 55 แห่ง และจุดบริการให้ครบ 1,000 จุดทั่วประเทศ คาดว่าในไตรมาส 2 ปีหน้าจะเริ่มขยายตลาดไปยังลูกค้ากลุ่มซีทูซี หรือพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์และเอสเอ็มอี

ด้าน “วสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ เครือเบทาโกร กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้จะยกระดับอุตสาหกรรมอาหารด้วย cold express delivery platform ทำให้โครงสร้างพื้นฐานของอุตสาหกรรมอาหารแข็งแกร่งขึ้น และเพิ่มโอกาสธุรกิจรูปแบบใหม่ ๆ ให้ผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่ รายกลาง และรายย่อย

รวมถึงตอบสนองความต้องการผู้บริโภคด้วยบริการส่งอาหารพร้อมทานและวัตถุดิบเพื่อนำไปประกอบอาหารที่สั่งซื้อได้จากทุกพื้นที่