ส่องงาน Google I/O 2022

(FILES) Photo by Kirill KUDRYAVTSEV / AFP
คอลัมน์ : Pawoot.com
ผู้เขียน : ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ

Google มีงานประจำปีโชว์เทคโนโลยีและความคืบหน้าหลาย ๆ โปรเจ็กต์ เป็นงานใหญ่ระดับโลกชื่อ Google I/O 2022 ไฮไลต์มีหลายส่วน เช่น Google Pixel เมื่อก่อนเป็นงานที่นักพัฒนาทั่วโลกอยากไป แต่โควิดเปลี่ยนเป็นงานออนไลน์มาหลายปีแล้ว โดยปีที่แล้วและปีนี้เริ่มให้คนนอกเข้าได้แล้ว

ในงานปีนี้พูดถึงฮาร์ดแวร์ของกูเกิลหลายตัว เช่น มือถือใหม่ Google Pixel แม้แต่อุปกรณ์ที่จะเปิดตัว Pixel Watch นาฬิกาที่เก็บข้อมูลการออกกำลังกาย เมื่อหลายปีก่อนกูเกิลซื้อกิจการ Fitbit ทำให้ Pixel Watch เริ่มมีเทคโนโลยีบางอย่างของ Fitbit มาผสม

จุดสำคัญอีกตัว คือ เทคโนโลยี Android มีการเปิดตัวเวอร์ชั่น 13 ซึ่งหลายฟีเจอร์ล้ำหน้าแอปเปิลไปเยอะ แต่ปีนี้ก็เห็นหลายฟีเจอร์ก๊อบปี้แอปเปิลด้วย Android 13 เป็นแอนดรอยด์ที่เริ่มพูดถึง privacy หรือความเป็นส่วนบุคคลมากขึ้น การจัดการในแง่ของข้อมูลส่วนบุคคลจะจัดการได้ดีมากขึ้นด้วย

ที่ผมชอบมาก คือ Google Wallet ที่เก็บบัตรต่าง ๆ ได้ เช่น บัตรประชาชน ใบขับขี่ บัตรวัคซีน Student ID ตั๋วเข้าชม จะเริ่มเปิดให้ใช้และขยับไปทำบริการคล้าย Apple Wallet ด้วย

ในฝั่ง OS ที่เป็น Watch เรียกว่า Wear OS กูเกิลมีระบบปฏิบัติการ Wear OS ใส่ลงไปในนาฬิกา ตอนนี้นาฬิกาที่เป็นแอนดรอยด์หลาย ๆ ตัว เช่น Samsung Watch หรือบางค่ายอย่าง TAG Heuer นำระบบปฏิบัติการ Wear OS ใส่เข้าไปทำให้เชื่อมต่อกับมือถือแอนดรอยด์ได้แนบเนียนมาก

Advertisment

Wear OS เวอร์ชั่นใหม่คล้าย Apple Watch เชื่อมต่อกับ Google Wallet ได้

ส่วน Android Tablet มีความสามารถเพิ่มขึ้น เชื่อมต่อได้ เช่น ก๊อบปี้ข้อมูลจากโทรศัพท์มือถือไปวางบนแท็บเลตได้เลย (ฝั่งแอปเปิลใช้มานานแล้ว)

ในฝั่งแอนดรอยด์มีการพูดถึงเรื่อง security และ privacy มากทีเดียว เนื่องจากเป็นระบบปฏิบัติการที่มีคนใช้เป็นพันล้านคนทั่วโลก ในกูเกิลมีทีมดู security โดยเฉพาะ สิ่งที่ทีมนี้ต้องดู คือ ซอฟต์แวร์ หรือแอปพลิเคชั่นที่อยู่ใน Play Store บางทีเป็นซอฟต์แวร์เกม ซอฟต์แวร์เถื่อน ซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งเพื่อมาหลอกเอาข้อมูลเรา กูเกิลจะมีทีมตรวจสอบแอปเหล่านี้รวมถึงไฟล์ต่าง ๆ

อีกสิ่งที่พูดถึงมาก คือ security ความปลอดภัยของผู้ใช้ รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคล การเก็บข้อมูลเหล่านี้แม้แต่กูเกิลก็มองไม่เห็นข้อมูลจะเก็บไว้ในโทรศัพท์เท่านั้นไม่ซิงก์เข้ามาในคลาวด์

Advertisment

แนวโน้มการพัฒนาซอฟต์แวร์ยุคนี้ นอกจากใช้ความสะดวกสบายแล้ว อีกสิ่งคือเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว ต้องบอกว่าระบบแอนดรอยด์มีคนใช้มากที่สุดในโลก และเป็นระบบปฏิบัติการที่หลายค่ายเริ่มก๊อบปี้หรือพัฒนาต่อ เช่น HUAWEI นำไปพัฒนาเป็นเวอร์ชั่นของตัวเอง

Google Search เริ่มพัฒนาความสามารถ คือ 1.ค้นหาด้วยกล้องได้ (image search) เช่น ใช้มือถือถ่ายภาพตรงหน้า AI จะบอกได้ว่าภาพนั้นคืออะไร 2.สิ่งที่กูเกิลพัฒนาต่อ คือ multisearch เมื่อค้นภาพนั้นไปแล้วครั้งหนึ่งจะค้นหาซ้ำต่อได้อีกว่าสิ่งนั้น near me อยู่ที่ไหน ทำให้ค้นหาข้อมูลได้ง่ายขึ้น และตอนนี้กูเกิลเปิดโอกาสให้ลบข้อมูลส่วนตัวของเราออกจากระบบ search ได้

Google Maps เปิดฟีเจอร์ใหม่ทำให้แผนที่มีความละเอียดสมจริงขึ้น ลักษณะการทำงานของ Google Maps จะมีการเลือกเส้นทางที่ประหยัดพลังงานมากที่สุดก่อน รวมเปิดโหมดใหม่ คือ immersive view ทำให้เห็นสภาพแวดล้อมที่สวยงามมากขึ้น แต่จะเปิดตัวในประเทศหลัก ๆ ก่อน

Google Meet ปรับ AI ทำให้ใบหน้าชัดแม้อยู่ในที่มืด การประชุมจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงคุณภาพของการประชุมก็จะดีขึ้น

Google Assistant คือ AI ของกูเกิลมีวิธีการใหม่ที่เรียกว่า look and talk แค่มองไปที่หน้าจออัจฉริยะหรือมือถือก็สั่งงานได้เลยไม่ต้องพูดเพื่อเปิดคำสั่งแบบเดิม คือการนำเซ็นเซอร์ที่เป็นกล้องที่ติดอยู่ในอุปกรณ์ต่าง ๆ ดูว่าเรากำลังมองอุปกรณ์ตัวนั้นอยู่หรือไม่ ถ้ามองอยู่แสดงว่ากำลังสนใจ แค่สั่งเท่านั้นอุปกรณ์ตัวนี้ก็พร้อมรับการทำงานได้เลย

Google Translate เพิ่มภาษาเข้าไปอีก 24 ภาษา ทำให้รองรับ 133 ภาษาทั่วโลก ครอบคลุมถึงภาษาพูดท้องถิ่นถึง 300 ล้านรายทั่วโลก เห็นได้ชัดว่าสิ่งที่กูเกิลพยายามทำ คือ สร้างโครงสร้างพื้นฐานของเทคโนโลยี

ตอนนี้ Google Translate เก่งขึ้น การแปลภาษา ข้อมูลจะประมวลและแปลในเครื่องเลย ทำให้แปลเร็วขึ้น ในอนาคต real time translation จะทำได้ง่ายขึ้น

ฝั่งกูเกิลที่เปิดเทคโนโลยีมาแต่ละตัว บางตัวเป็นเทคโนโลยีเฉพาะที่นักพัฒนาใช้ เป็นการนำความสามารถพื้นฐานในการทำให้เทคโนโลยีชิ้นใหญ่พัฒนาขึ้น เช่น การเปิดตัวการทำ end-to-end encryption เป็นการเฉพาะ หรือการอัพเกรดระบบฐานข้อมูลที่ทำให้ประมวลผลเร็วขึ้น หรือมาตรฐานบางอย่าง

เช่น เริ่มมีคำว่า สมาร์ทโฮม อุปกรณ์ที่ใช้ในบ้านที่พูดคุยกับมันได้ เริ่มพัฒนามาตรฐานกลาง matter ทำให้อุปกรณ์สมาร์ทโฮมต่างยี่ห้อพูดคุยกันได้ ฯลฯ บางอย่างเป็นภาษาเทคนิคอลมาก แต่เป็นหัวใจสำคัญของเทคโนโลยีที่อยู่ข้างหลังทำให้ชีวิตเราง่ายมากขึ้น

งานนี้บรรดานักพัฒนาชอบมากเพราะมีของเล่นใหม่ ๆ มีโค้ดดิ้ง อุปกรณ์ใหม่ ๆ ที่นำมาใช้และเชื่อมแล้วพัฒนาต่อไป บางอย่างนำมาพัฒนาและสร้างสินค้าและบริการใหม่ ๆ ได้เลย