จ่ายเงินเยียวยาน้ำท่วมข้ามปี ขั้นตอนเยอะหวั่นต้องรอถึงท่วมรอบใหม่

น้ำท่วม
แฟ้มภาพ

รัฐจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมปี 2565 ทั้งพื้นที่ทางการเกษตร-บ้านเรือนที่อยู่อาศัยล่าช้า น้ำลดไปแล้ว 3 เดือนส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับเงิน อ้างเหตุต้องสำรวจความเสียหายและให้หน่วยงานในพื้นที่รับรอง บางแห่งยังไม่ได้เริ่มสำรวจอย่างเป็นทางการเลย หรืออยู่ระหว่างส่งเอกสาร ส่งผลเงินช่วยเหลือข้ามปี หวั่นชนน้ำท่วมใหญ่อีกรอบ

คณะรัฐมนตรี (29 พฤศจิกายน 2565) ได้มีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์ เงื่อนไขและวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝนปี 2565 พร้อมอนุมัติกรอบวงเงิน 6,258.54 ล้านบาท สำหรับจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจำนวน 1,046,460 ครัวเรือน ซึ่งเป็นจำนวนครัวเรือนจากการสำรวจเบื้องต้นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และ 66 จังหวัดที่อยู่ในพื้นที่ได้ประกาศ “เขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย” หรือประกาศ “เขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรณีฉุกเฉิน” ในกรณีใดกรณีหนึ่ง ใน 3 กรณี ได้แก่

1) กรณีที่อยู่อาศัยประจำอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมขัง ติดต่อกันตั้งแต่ 1 วัน (24 ชั่วโมง) แต่ไม่เกิน 7 วัน และทรัพย์สินได้รับความเสียหายหรือที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมขังเกินกว่า 7 วัน แต่ไม่เกิน 30 วัน ให้ความช่วยเหลือครัวเรือนละ 5,000 บาท

2) กรณีที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมขัง ติดต่อกันเกินกว่า 30 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน ให้ความช่วยเหลือ ครัวเรือนละ 7,000 บาท และ 3) กรณีที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมขังติดต่อกันเกินกว่า 60 วันขึ้นไป ให้ความช่วยเหลือครัวเรือนละ 9,000 บาท

โดยมีหลักเกณฑ์ต้องเป็นกรณีอุทกภัยที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อที่อยู่อาศัยในช่วงฤดูฝนปี 2565 ตั้งแต่ 13 พฤษภาคม ถึง 28 ตุลาคม 2565 ทั้งกรณีน้ำท่วมโดยฉับพลัน น้ำไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง รวมถึงการระบายน้ำจนส่งผลกระทบทำให้ไม่สามารถดำรงชีวิตได้ กับต้องเป็นที่อยู่ที่ประสบอุทกภัยตามที่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประกาศเป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย หรือประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรณีฉุกเฉิน ซึ่งได้รับผลกระทบกรณีใดกรณีหนึ่งคือ ที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมขัง ตั้งแต่ 1 วัน (24 ชั่วโมง) แต่ไม่เกิน 7 วัน และทรัพย์สินได้รับความเสียหายหรือที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมขังเกินกว่า 7 วันขึ้นไป

นอกจากนี้ ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังได้ให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 อีกด้วย

ล่าสุด “ประชาชาติธุรกิจ” ได้สอบถามไปยังจังหวัดที่ประสบปัญหาน้ำท่วมใหญ่ในช่วงเดือนพฤษภาคม-ตุลาคมที่ผ่านมา อาทิ จังหวัดอุบลราชธานี, ขอนแก่น, ชัยภูมิ และพระนครศรีอยุธยา และอีกหลายแห่ง ส่วนใหญ่ได้ข้อมูลตรงกันว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยในช่วงฤดูฝนของปี 2565 แต่อย่างใด โดยหลายจังหวัดให้ข้อมูลว่า เงินช่วยเหลือที่ ครม.มีมติอนุมัติจะถูกจ่ายจาก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยพื้นที่ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมจะถูกประกาศเป็นเขตประสบสาธารณภัย และได้รับการรับรองจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก่อน

“เงินช่วยเหลือตามมติ ครม. จะเป็นคนละส่วนกับที่กรณีจังหวัดจ่ายให้เป็นการฉุกเฉิน ตอนนี้เท่าที่ทราบ เรื่องการจ่ายเงินช่วยเหลือยังไปไม่ถึงไหน ส่วนใหญ่อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายและรวบรวมส่งหน่วยงานและคณะกรรมการที่จะต้องออกมารับรองและตรวจสอบ ทั้ง ๆ ที่เวลาหลังน้ำลดได้ผ่านมาเกือบ 3 เดือนแล้ว ผู้ประสบภัยส่วนใหญ่ก็ยังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือ โดยชาวบ้านใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับเงินเยียวยาน้ำท่วมจากภาครัฐ โดยผู้ใหญ่บ้านแจ้งว่า อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล โดยจะจ่ายในส่วนของบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายก่อน แต่ยังไม่มีกำหนดเวลาชัดเจน ส่วนเงินชดเชยความเสียหายในส่วนพื้นที่เกษตรก็ให้รอไปก่อน”

ส่วนการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 ในช่วงที่ผ่านมา (ส.ค.-23 พ.ย. 65) ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์นั้น มีรายงานความช่วยเหลือเข้ามาว่า

1) ด้านพืช พบความเสียหาย 65 จังหวัด เกษตรกร 461,794 ราย พื้นที่ 4,147,435 ไร่ แบ่งเป็น ข้าว 2,769,992 ไร่ พืชไร่และพืชผัก 1,345,173 ไร่ ไม้ผล ไม้ยืนต้นและอื่น ๆ 32,271 ไร่ คิดเป็นเงิน 6,505.88 ล้านบาท ปรากฏได้ช่วยเหลือแล้ว เกษตรกร 8,144 ราย พื้นที่ 38,742 ไร่ วงเงิน 68.20 ล้านบาท

2) ด้านประมง พบความเสียหาย 52 จังหวัด เกษตรกร 26,558 ราย พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำได้รับความเสียหาย 44,279 ไร่ กระชัง 37,689 ตร.ม. คิดเป็นเงิน 301.52 ล้านบาท ปรากฏได้ช่วยเหลือเกษตรกรไปแล้ว 5,137 ราย พื้นที่ 6,745 ไร่ กระชัง 10,125 ตร.ม. วงเงิน 41.70 ล้านบาท

และ 3) ด้านปศุสัตว์ พบความเสียหาย 34 จังหวัด เกษตรกร 563 ราย สัตว์ตาย/สูญหาย 190,200 ตัว แปลงหญ้า 525 ไร่ คิดเป็นเงิน 4.31 ล้านบาท ปรากฏได้ช่วยเหลือแล้ว เกษตรกร 38 ราย สัตว์ตาย/สูญหาย 179,377 ตัว คิดเป็นเงิน 0.42 ล้านบาท รวมแล้วกระทรวงเกษตรฯเพิ่งจ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกรไปประมาณ 100 ล้านกว่าบาทเท่านั้น

สอดคล้องกับการดำเนินการในหลายพื้นที่ในจังหวัดภาคกลางที่พื้นที่ทางการเกษตรเสียหายแจ้งว่า กำลังอยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหาย หรืออยู่ในขั้นตอนการดำเนินการส่งเอกสาร คาดว่าอย่างเร็วที่สุดที่เกษตรกรจะได้รับเงินช่วยเหลือก็ต้องหลังจากกลางเดือนมกราคมไปแล้ว จนบางส่วนกังวลกันว่ากว่าจะได้รับเงินช่วยเหลือครบถ้วน อาจจะต้องรอไปถึงน้ำท่วมใหญ่ของปี 2566 ก็เป็นได้