เอกชนขานรับผู้ว่าฯซีอีโอบริหารเบ็ดเสร็จ

มหาดไทย

เอกชนขานรับนโยบายผู้ว่าฯ CEO บริหารจัดการเบ็ดเสร็จ ไม่ต้องชงส่วนกลางตัดสินใจ แก้ปัญหาในจังหวัดทันท่วงที ตอบโจทย์เอกชนด้านภูเก็ตเสนอเป็นจังหวัดนำร่องแซนด์บอกซ์ ‘กีโยตินกฎหมาย’ กระตุ้นเศรษฐกิจเดินหน้า

นายธเนศ ตันติพิริยะกิจ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า ภาคเอกชนภูเก็ตเห็นด้วยกับนโยบายกระจายอำนาจ เพราะภูเก็ตประสบปัญหามายาวนาน เป็นจังหวัดที่มีประชากรเพียง 4 แสนคน แต่มีประชากรแฝง 4-5 แสนคน มีนักท่องเที่ยวอีก 4-5 แสนคน เท่ากับมีคนที่อยู่นอกทะเบียนราษฎรประมาณ 1 ล้านคน แต่เวลารัฐบาลจัดสรรงบประมาณ และพิจารณานโยบายต่าง ๆ เฉพาะคนเพียง 4 แสนคน ถ้าผู้ว่าฯสามารถเป็น CEO กระชับอำนาจได้เป็นเรื่องที่ดี

จากที่เรามีประสบการณ์ปัจจุบันที่ผู้ว่าฯทำงาน เชื่อว่าทุกหน่วยงานให้ความร่วมมือในคำสั่งของท่านผู้ว่าฯ แต่ทุกหน่วยงานเวลาให้ความร่วมมือจะกลับไปคิดถึงเรื่อง KPI ตัวชี้วัดของหน่วยงานตัวเอง บางเรื่องอาจจะไม่ตอบโจทย์ ก็อาจจะตอบสนองไม่เต็มที่ในการที่จะบูรณาการงบประมาณ และโครงการมาด้วยกัน

นอกจากนี้ ทางภาคเอกชนภูเก็ตได้เสนอนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ใช้ภูเก็ตเป็นพื้นที่ทดลองในการดำเนินนโยบายยกเลิกและปรับปรุงกฎหมาย หรือกีโยตินกฎหมาย (regulatory guillotine) ในทุกกรณี อยากให้กฎหมายเอื้อในการทำงาน เช่น กฎหมายใดที่มีอายุเกิน 10 ปี หากจะยกเลิกมีข้อเสียอย่างไร โดยมีทีมมาร่วมทำวิจัย

หากยกเลิกกฎหมายนี้แล้ว เมื่อทำข้อดี-ข้อเสีย ทำประชาพิจารณ์เสร็จแล้วให้นำมาทดลองใช้ที่จังหวัดภูเก็ต เช่น กฎหมายใบอนุญาตโรงแรม ประเทศไทยมีใบอนุญาตเพียงประเภทเดียว แม้มีกฎกระทรวงให้เป็นโรงแรมประเภทต่าง ๆ แต่หากพิจารณาทั่วโลกมีโรงแรมหลากหลายมากกว่า 100 รูปแบบของการท่องเที่ยว เราก็ควรมีรูปแบบของโรงแรมแบบนั้น

1.กระจายอำนาจ 2.เป็นการ tailor-made เฉพาะ เพียงแต่รัฐบาลทำเป็นคณะกรรมการขึ้นมา เป็นเหมือนกับเป็นแซนด์บอกซ์ ต่อไปแต่ละจังหวัดอาจจะเสนอลงพื้นที่ย่อยเลย เช่น จังหวัดนครปฐมเสนอตัวเองทำแซนด์บอกซ์ด้วย เพราะเป็นพื้นที่ทับซ้อนด้านการเกษตรและด้านอุตสาหกรรม

นายจุลนิตย์ วังวิวัฒน์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า นโยบายกระจายอำนาจผู้ว่าฯ CEO ของรัฐบาลใหม่ โดยความเห็นส่วนตัวเห็นด้วยกับนโยบายนี้ หากมีการให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดในการบริหารจัดการในพื้นที่ในบางเรื่อง โดยไม่ต้องรอการพิจารณาจากส่วนกลาง ซึ่งจะทำให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารและการสั่งการที่จะทำได้รวดเร็วขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริหารจัดการด้านงบประมาณที่ลงสู่พื้นที่ หากมีการกระจายอำนาจให้ผู้ว่าฯ CEO สามารถสั่งการได้ ก็จะทำให้การพัฒนาโครงการต่าง ๆ เกิดขึ้นได้เร็วมากยิ่งขึ้น ส่งผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ

ดร.สิทธิพงษ์ สิทธิภัทรประภา นายกสมาคมโรงแรมหาดใหญ่สงขลา เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลจะใช้นโยบายผู้ว่าฯ CEO มีอำนาจบริหารจัดการตัดสินใจภายในจังหวัด โดยระบบไม่ต้องรอจากส่วนกลาง จะส่งผลให้เกิดประสิทธิภาพ

อย่าง จ.สงขลา เป็นเมืองเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว จะได้อำนวยความสะดวก และการบริการได้ดียิ่งขึ้น

นายสุดที่รัก พันธ์สายเชื้อ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า มองว่านโยบายการกระจายอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด CEO เป็นนโยบายที่ดี เป็นนโยบายในเชิงบวก และตนเห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าวเป็นเรื่องที่ดีมากกว่าเสีย จะทำให้การบริหารงานได้ง่าย คล่องตัวมากขึ้น เกิดการพัฒนาที่ต่อเนื่อง และเข้าใจความต้องการของคนในจังหวัดมากกว่าด้วย น่าจะทำให้การพัฒนาจังหวัดทำได้ดีขึ้น