ตื่นทองแพง แห่ซื้อเก็งกำไร มั่นใจราคาทะลุ 38,000 บาท

ทองคำ

ทองราคาพุ่งไม่หยุด นักลงทุนแห่ซื้อตุนรอดักเก็งกำไร “นายกสมาคมค้าทอง” ชี้พฤติกรรมเปลี่ยน ปกติช่วงทองราคาขึ้นคนจะแห่ขาย เผยรอบนี้แห่ซื้อทองแท่ง เชื่อปีนี้ราคาพุ่งถึงบาทละ 38,000 บาททองรูปพรรณไม่คึกคัก กำลังซื้อที่ยังไม่ดี ร้านทองต่างจังหวัดเจอแห่เทขายช่วงราคาขาขึ้น ยอดวันละ 100 ล้าน

สถานการณ์ราคาทองคำขยับขึ้นวันละหลายครั้ง ล่าสุด ณ วันที่ 12 มี.ค. 67 ทองคำแท่งในประเทศ ราคารับซื้ออยู่ที่บาทละ 36,500 บาท ขายออกที่ราคาบาทละ 36,600 บาท ส่วนราคาทองรูปพรรณ รับซื้ออยู่ที่บาทละ 35,838.24 บาท และมีราคาขายออกที่ 37,100 บาท ราคาทองคำโลก (Gold Spot) อยู่ที่ระดับ 2,178.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำให้เห็นปรากฏการณ์การแห่นำทองแท่ง ทองรูปพรรณ ออกมาขายทำกำไรกันอีกครั้ง

มั่นใจเก็งทองแท่งแพงได้อีก

นายจิตติ ตั้งสิทธิภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ราคาทองคำที่แพงขึ้นในปัจจุบัน ทำให้เกิดปรากฏการณ์พฤติกรรมคนซื้อขายทองคำที่เปลี่ยนไปจากอดีต ที่หากทองปรับขึ้นแพง ๆ จะนำทองมาขายเป็นหลัก แต่ปัจจุบันมีทั้งซื้อและขาย ล่าสุดสัดส่วนการซื้อจะมากกว่าขายเล็กน้อย ซึ่งคาดว่าเกิดจากความเชื่อว่า ราคาทองคำจะยังปรับขึ้นไปต่อได้ จึงทยอยสะสมไว้เก็งกำไร เพราะคนที่มาซื้อส่วนใหญ่จะเป็นนักลงทุนที่ลงทุนในทองคำแท่งมากกว่าทองรูปพรรณที่ยังขายไม่ค่อยดี เนื่องจากกำลังซื้อไม่มี

“เมื่อก่อนถ้าราคาทองขึ้นเยอะ ๆ คนจะมาขายกัน แต่รอบนี้พฤติกรรมเปลี่ยนไป ก็คิดว่าคนคงเข้าใจว่า ราคาทองยังมีโอกาสปรับขึ้นไปอีก โดยเฉพาะหากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดดอกเบี้ย ทองก็จะขึ้นได้อีก อีกอย่างตอนนี้มีกระแสที่ธนาคารกลางของหลาย ๆ ประเทศ ทั้งเอเชีย จีน รวมถึงไทย ที่ซื้อทองคำเป็นทุนสำรองกันมากขึ้นด้วย ก็เป็นปัจจัยหนุนราคาทอง”

ทองรูปพรรณขายไม่ดี

สำหรับทองรูปพรรณที่ขายไม่ค่อยดี ร้านทองก็มีการปรับตัวทำโปรดักต์ออมทองเป็นทางเลือกให้ลูกค้ามากขึ้น เพื่อให้เข้าถึงทองที่ราคาจับต้องได้ ส่วนในแง่ร้านทองตู้แดงนั้น สถานการณ์ตอนนี้ถือว่าอยู่ได้ เพราะทองที่ขึ้นราคามามาก ช่วยให้ร้านทองมีกำไร แม้จะขายทองรูปพรรณไม่ค่อยได้ก็ตาม ดังนั้นจะไม่ค่อยเห็นร้านทองปิดตัวช่วงนี้ แต่ที่ผ่านมาที่มีการปิดตัวไปบ้าง ถือว่าแค่บางส่วน ที่พอเปลี่ยนรุ่นการบริหารแล้ว รุ่นลูกอาจจะไม่ได้อยากทำธุรกิจร้านทองอีก ก็เลยปิด

“ทองรูปพรรณขายไม่ดี ก็คงต้องรอให้เศรษฐกิจฟื้นก่อน เพราะแย่มาตั้งแต่ช่วงโควิด-19 ตอนนี้เริ่มมีนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น ก็หวังว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้กำลังซื้อกลับมา”

คาดราคาไปถึงบาทละ 38,000

นายกสมาคมค้าทองคำกล่าวว่า ปีนี้ยังมองว่าราคาทองคำแท่งในประเทศจะไปถึง 38,000 บาทได้ แต่อาจจะเป็นช่วงที่ยาวพอสมควร โดยต้องรอดูเฟดลดดอกเบี้ย ซึ่งจะประมาณไตรมาส 2/2567 จะทำให้ราคาทองขึ้นไปต่อได้อีก ส่วนจะไปถึง 40,000 บาทได้หรือไม่นั้น ยังเร็วเกินไปที่จะประเมิน ตอนนี้มองแค่ 38,000 บาทก่อน เพราะต้องรอดูด้วยว่า เฟดจะลดดอกเบี้ยกี่ครั้งในปีนี้

นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการฝ่ายบริหาร กลุ่มบริษัทในเครือเอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก (MTS) กล่าวว่า พฤติกรรมการซื้อขายทองคำช่วงนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนในทองคำแท่ง โดยทองรูปพรรณมีการซื้อขายบ้าง แต่ไม่มากเท่าทองคำแท่ง ซึ่งก็อยากให้มองการลงทุนในทองคำเป็นการออมในระยะยาว สามารถทยอยเข้าซื้อได้เมื่อราคาย่อตัวลง

สอดคล้องกับความเห็นของ นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) กล่าวว่า ในด้านการลงทุน แนะนำให้มีทองคำติดพอร์ตประมาณ 10% ของการลงทุนช่วง 3 ปี หากเห็นจังหวะการปรับตัวลดลงของราคาทองคำ ก็แนะนำให้เข้าทยอยซื้อได้

ภาคเหนือแห่ขายทอง 100 ล้าน/วัน

นายฉัตรพล สุนทรไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินทรีทองค้าทองแท่ง จำกัด ผู้ค้าทองแท่งและทองรูปพรรณรายใหญ่ในจังหวัดเชียงใหม่และภาคเหนือ กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หลังจากราคาทองคำได้ปรับตัวสูงขึ้นแบบนิวไฮ ในช่วงระยะเวลาเพียง 1 เดือนที่ผ่านมา ปรับขึ้นสูงถึงกว่า 2,000 บาท นับเป็นราคาที่สูงมากเป็นประวัติการณ์เท่าที่เคยมีมา โดยราคาทองคำแท่งอยู่ที่บาทละราว 36,000 บาท และทองรูปพรรณบาทละราว 37,000 บาท ทำให้มีแรงเทขายของนักลงทุนออกมาอย่างมาก

โดยส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายทองคำ โดยเฉพาะทองคำแท่งของห้างทองอินทรีทองคึกคักอย่างมาก มีสัดส่วนราว 50-60% ที่นักลงทุนนำทองแท่งออกมาขาย เนื่องจากขายได้กำไรถึงบาทละ 1,000-2,000 บาท โดยมูลค่าขายทองคำแท่งของห้างทองอินทรีทองในช่วงนี้อยู่ที่ราว 100 ล้านบาทต่อวัน และโดยเฉลี่ยในช่วงปกติที่ราคาทองยังไม่ปรับขึ้นสูง มีมูลค่าการขายต่อวันราว 20-30 ล้านบาท

นายฉัตรพลกล่าวต่อว่า นักลงทุนที่ซื้อทองคำแท่งเพื่อเก็งกำไร ไม่มากเท่ากับคนที่นำทองแท่งที่มีอยู่ออกมาขาย ขณะที่การซื้อขายทองรูปพรรณค่อนข้างเงียบเหงา

ถ้าทะลุ 40,000 ร้านปิดตัว 50%

แหล่งข่าวจากร้านทอง จ.ตราด ระบุว่า สภาพการซื้อทองรูปพรรณเงียบเหงา มีการซื้อทองแท่งเก็งกำไรเล็กน้อยเท่านั้น ไม่มีกลยุทธ์ทำการตลาดหวือหวา แต่สถานการณ์ราคาทองที่สูงขึ้น อาจจะทำให้ร้านค้าทองซื้อทองมาจากจังหวัดใกล้เคียงที่เสียค่าใช้จ่ายถูกกว่า ที่กรุงเทพฯ ยิ่งราคาทองปรับตัวสูงขึ้น คนจะรีบซื้อเพราะกลัวจะแพงขึ้นไปอีก

“ถ้าราคาทองคำขึ้นไปสูงสุดเป็นบาทละ 40,000 บาท คาดว่าร้านทองทั่วประเทศ 8,000 แห่ง โดยเฉพาะรายย่อยต้องปิดตัวลงอย่างน้อย 50% เพราะประชาชนไม่มีกำลังซื้อ คนที่จะนำทองมาขายแทบไม่มี ร้านขายทองจะอยู่ไม่ได้ ต้องปิดตัวลง”

ร้านทองอีสานขายแล้วไม่ซื้อคืน

นายธีระ ตั้งหลักมั่นคง ประธานชมรมร้านทองจังหวัดอุดรธานี เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ราคาทองที่สูงขึ้นอยู่บ่อยครั้งทำให้เกิดภาวะตกใจ คนที่มีกำลังซื้อก็ไม่กล้าซืัอเพิ่ม เพราะราคาสูงมาก คนที่ขายไปแล้วก็ไม่มีเงินซื้อคืน

“ส่วนร้านทองย่านเยาวราช ที่ผมไปสังเกตการณ์ ภาพรวมเห็นว่า ขายดีอยู่แค่ 2 ร้าน เยาวราชไม่ได้ขายดีทุกร้าน ส่วนใหญ่คนที่ซื้อแพงแล้วมาขายคืน ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ราคาทองในความรู้สึกของผม มีหลายประเทศที่ซื้อไว้ ซื้อมาก เลยทำให้ราคาขึ้น โดยเฉพาะประเทศจีน”