
ราคาทุเรียนต่ำกว่า 100 บาท/กก. ดิ่ง 90-95 บาท/กก. เหตุจีนเจอ “ทุเรียนอ่อน” เพียบ ผู้นำเข้าจีนชะลอซื้อ บางแผงหยุดรับซื้อเคลียร์ 1-2 วัน ล่าสุดจับ “ทุเรียนเวียดนาม” ขนส่งทางเรือ เตรียมส่งห้องเย็นแช่แข็ง หวัง “สวมสิทธิ” เป็นทุเรียนไทย หวั่นเจอ “สารแคดเมียม” ขณะที่จีนเพิ่งผ่อนปรนตรวจเข้มสารย้อมสี BY2 ของทุเรียนไทยเหลือ 30%
ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” ลงพื้นที่สำรวจตลาดทุเรียนในภาคตะวันออกตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าราคาทุเรียนเกรด AB หน้าโรงคัดบรรจุ (ล้ง) แจ้งรับซื้อวันที่ 18 พ.ค. 68 ราคา กก.ละ 120-130 บาท หลังจากนั้นได้ทยอยปรับราคาลงวันละ 5-10 บาท และถึง 21 พ.ค. ราคาปรับลงแรงมาก เหลือ กก.ละ 90-95 บาท เป็นราคาต่ำที่สุดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ทำให้ชาวสวนวิตกกังวลกับราคาที่อาจจะลดลงเรื่อย ๆ เพราะเป็นจังหวะที่ผลผลิตทุเรียนแก่ต้องตัดแล้ว
แต่ราคาทุเรียนที่ต่ำ หากแขวนต่อไว้บนต้นทำได้เพียงในระยะสั้น ๆ เท่านั้น ขณะที่ล่าสุดล้งประกาศหยุดรับซื้อ 1-2 วันเพื่อระบายสินค้า โดยแจงเหตุผลว่าเถ้าแก่จีนสั่งงดซื้อ เพราะประสบปัญหาพบแต่ทุเรียนอ่อน ทุเรียนด้อยคุณภาพ คือสุก เนื้อเหลือง แต่รับประทานไม่ได้เต็มตลาด ด้านเกษตรกรตัวแทนชาวสวนแจงเหตุ พบทุเรียนจากประเทศเพื่อนบ้าน จากกัมพูชาและเวียดนามเข้ามาสวมสิทธิทำตลาดพัง แม้ว่าที่ผ่านมายังไม่มีหลักฐานชัดเจนการลักลอบนำทุเรียนสดเข้ามาสวมสิทธิส่งออก
จับทุเรียนเวียดนาม 40 ตันสวมไทย
แหล่งข่าวจากวงการส่งออกทุเรียนเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 68 ทางการไทยได้จับกุมทุเรียนเวียดนามขนส่งทางเรือเข้ามายังประเทศไทย แม้จะมีหลักฐานชัดเจนว่ามีการขออนุญาตถูกต้องในการนำเข้าเนื้อทุเรียนแกะมาทางท่าเรือแหลมฉบัง แจ้งว่าจะนำเข้าโรงงานแช่แข็งที่ จ.ระยองแต่มาฝากแช่ไว้ที่โกดังไม้ยางพารา อ.แกลง จ.ระยอง ที่เจ้าของเป็นคนจีนก่อน แต่ไม่มีเอกสารแสดงการเคลื่อนย้ายมาสำแดง
นายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ สส.ระยอง เขต 3 ได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องที่ สภ.บ้านกร่ำ และได้ลงบันทึกประจำวันไว้ และผู้ว่าราชการจังหวัดระยองได้ประสานทุกหน่วยงานดำเนินการอย่างเต็มที่ หากมีการส่งออกสวมสิทธิทุเรียนแช่แข็งไทย ซึ่งกรณีนี้เป็นเคสแรกที่มีหลักฐานแจ้งความดำเนินคดีการนำเข้าทุเรียนจากเวียดนาม
ซึ่งได้มีการตั้งข้อสังเกตว่า นอกจากตู้ขนส่งทุเรียน 2 ตู้ เนื้อทุเรียนแกะจำนวน 40 ตัน และมีตู้เปล่ามา 1 ตู้ ใส่อุปกรณ์ เหล็กสไลด์กล่องลงจากรถ กล่อง สายรัด อุปกรณ์สำหรับแพ็กทุเรียนลงกล่อง เกรงว่าจะเป็นการรีแพ็กสวมสิทธิทุเรียนไทยโดยที่ไม่ต้องผ่านโรงคัดบรรจุ
ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2567 จีนได้ตรวจพบสารปนเปื้อนแคดเมียมและสารย้อมสี Basic Yellow 2 หรือ BY2 ของทุเรียนเวียดนาม และเมื่อต้นปี 2568 จีนเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบทุเรียนไทยเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ ปัจจุบันจีนยังพบการปนเปื้อนของสารแคดเมียม และ BY2 ในทุเรียนของเวียดนามจำนวนมาก
เพราะสวนทุเรียนเวียดนามมีใบรับรอง GAP เพียง 30% ของทุเรียนที่ผลิตได้ ส่งผลให้ทุเรียนในเวียดนามล้นตลาด และราคาตกต่ำมาก โดยหมอนทอง 65-75 บาท/กก. ในขณะที่ทุเรียนไทยได้รับการผ่อนปรนการสุ่มตรวจแล้ว แต่ราคาทุเรียนไทยที่กำลังดิ่งลงเหลือ กก.ละ 90-95 บาท มาจากปัญหาการตัด “ทุเรียนอ่อน”
“กลุ่มจีนเทาจะนำเงินประมาณ 90% มาฟอกในธุรกิจทุเรียน เพราะได้ผลตอบแทนสูงหลายเท่า หากสามารถนำทุเรียนเวียดนามมาสวมสิทธิทุเรียนไทยจะได้กำไรสูง แต่จะมีผลกระทบกับทุเรียนไทยในวงกว้าง ถ้าทุเรียนที่ส่งออกด้อยคุณภาพ นอกจากราคาลดลงแล้ว อาจจะเสี่ยงต่อการถูกตัดสิทธิการส่งออก 3 ปีเป็นอย่างต่ำ” แหล่งข่าวกล่าว
ด้านนายดำรงศักดิ์ สินศักดิ์ เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กฎหมายอนุญาตให้นำเข้าทุเรียนมาแปรรูปโรงงานแช่แข็งได้ถูกต้อง โดยไม่รีแพ็กส่งผลสดออก แต่ในสภาพแท้จริงยังมีการรีแพ็กทุเรียนสดส่งออกกันอยู่โดยที่จับกุมไม่ได้ เคสที่ จ.ระยอง น่าจะเป็นครั้งแรกที่มีหลักฐานแจ้งความดำเนินคดีได้
ในเมื่อมีปัญหาที่ควบคุมยาก ควรออกกฎหมายไทยกำหนดห้ามการนำเข้าทุเรียนจากเวียดนามทุกกรณี แม้แต่การแช่แข็ง เพราะเกรงว่าจะมีสารแคดเมียมหรือปนเปื้อนสารอื่น ๆ ยกเว้นในกรณีไทยขาดแคลนผลผลิต และช่วงปลายเดือนกรกฎาคม-กันยายน ทุเรียนภาคใต้จะออกสู่ตลาด ภาครัฐต้องรีบแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน
“ทุเรียนอ่อน” ทะลักตลาดจีน
นายชลธี นุ่มหนู อดีต ผอ.สวพ.6 และอดีตนายกสมาคมชาวสวนทุเรียนไทยภาคตะวันออก ให้ข้อมูลว่า สถานการณ์ราคาจำหน่ายทุเรียนไทยตั้งแต่ต้นปีถือว่าราคาค่อนข้างสูง แต่ปัจจุบันพบว่าราคาซื้อ-ขายทุเรียนปรับตัวลดลงจากราคา กก.ละ 120 บาท เหลือเพียงเลข 2 หลัก 95 บาท ในรอบ 5 ปี ในปี 2562-2563 มีปัญหาเรื่องทุเรียนอ่อนเช่นกัน เมื่อเริ่มปราบปรามทุเรียนอ่อนจริงจัง จึงทำให้ราคากลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นไปถึง 200 บาท/กก.อีกครั้ง และราคาเป็นแบบนี้มาตลอด
แต่ในปีนี้กลับมามีปัญหาทุเรียนอ่อน จนทำให้ราคาดิ่งลงอย่างหนัก ต่ำกว่า 100 บาท/กก. สิ่งสำคัญมาจากคุณภาพของทุเรียนที่ส่งออกไปในต้นฤดู พบว่ามีทุเรียนอ่อนไปที่ตลาดปลายทางจีนค่อนข้างมาก ทำให้ผู้ค้าตลาดปลายทางไม่เชื่อมั่นกับคุณภาพทุเรียนที่ส่งออก ซึ่งชาวสวนรู้ ผู้ประกอบการที่ทำตามกติการู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่จะมีบางคนที่ซื้อทุเรียนส่งออกไปในลอตแรกมีการตัดรูดทั้งต้นในหลายพื้นที่ จึงทำให้มีทุเรียนที่ไม่ได้คุณภาพและทุเรียนอ่อนออกไปจำนวนมาก
ทั้งนี้ สมาคมทุเรียนไทยวิเคราะห์ถึงสาเหตุทำให้ทุเรียนไทยราคาลงจาก 3 หลัก มาที่ 2 หลัก จากผู้ประกอบการและผู้ผลิตทุเรียน สรุปว่ามาจาก 5 ปัจจัยคือ 1) คุณภาพทุเรียนไม่ดี เนื่องจากปีนี้ทุเรียนมีหลายรุ่น และราคาดีในช่วงแรก เป็นโอกาสที่บางกลุ่มรูดทุเรียน ทำให้มีทุเรียนอ่อนปะปนไปด้วย และช่วงเก็บเกี่ยวทุเรียนมีปริมาณฝนมาก ทำให้เนื้อทุเรียนไม่ได้คุณภาพ น้ำมากทำให้ทุเรียนไม่สุก แป้งน้อย เนื้อแกรนและแข็ง
2) ความเชื่อมั่นของทุเรียนไทยลดลง ผลจากคุณภาพไม่ดี ซื้อแล้วไม่อร่อย อ่อน ไม่หวาน เนื้อแข็งทำให้ลูกค้าไม่กลับมาซื้อซ้ำอีก 3) เงินจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาหมุนเวียนลดลง 4) เศรษฐกิจจีนถดถอยและกำลังซื้อลดลง และ 5) แหล่งผลิตทุเรียนและส่งออกไปยังจีนมีปริมาณเพิ่มขึ้น และย้ำว่า “ทางรอดทุเรียนไทย คือลดต้นทุนการผลิต และผลิตทุเรียนคุณภาพ”