จี้แก้ ‘ทุเรียน’ ราคาต่ำ100 ‘มังคุด’ ดิ่งสุดในรอบ 10 ปี

durian-mangosteen

“ทุเรียน-มังคุด”ภาคตะวันออกกระอัก ราคาดิ่งไม่หยุด ทุเรียนเหลือ 70-80 บาท/กก. เหตุด้อยคุณภาพ จีนหยุดรับซื้อ ฉุดราคาต้นฤดูทุเรียนภาคใต้เหลือไม่ถึง 100 บาท/กก. ด้าน “มังคุด ”ร่วงต่ำสุดรอบ 10 ปี ขณะที่ค่าจ้างเก็บ กก.ละ 7-8 บาท ชี้เหตุส่วนใหญ่ชาวสวนขายแบบไม่คัดเกรด อีกทั้งปีนี้ผลผลิตออกมากกว่าปีที่แล้ว

แหล่งข่าวในวงการผลไม้ภาคตะวันออก เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปลายเดือนมิถุนายน 2568 ทุเรียนภาคตะวันออกจะหมดฤดู โดยปีนี้ผลผลิตออกช้า ขณะที่ล้งหรือผู้ส่งออกหายไปจำนวนมาก และล้งปิดการรับซื้อเร็วด้วยปัญหา 1.ทุเรียนอ่อน 2.ทุเรียนด้อยคุณภาพด้วยสภาพอากาศแปรปรวน ฝนเยอะ ทำให้ทุเรียนไส้ซึม ถึงจะตัดตอนแก่ เนื้อสีเหลือง บ่มไม่สุก พ่อค้าไม่เสี่ยงหยุดรับซื้อหันไปซื้อทุเรียนในภาคใต้ที่กำลังเข้าสู่ช่วงต้นฤดู

3.ทุเรียนจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาสวมสิทธิ ทำให้การควบคุมราคาได้ง่าย เพราะผู้ส่งออกเหลือน้อยราย ทำให้ราคาทุเรียนภาคตะวันออก หล่นวูบหน้าสวนเกรด AB เหลือ 70-85 บาท/กก. หน้าล้ง 90-95 บาท/กก. จากปกติช่วงปลายฤดูหน้าล้งเกรด AB ราคา 145-150 บาท/กก. หรือ ABC 130 บาท/กก. ทำให้ฉุดราคาทุเรียนต้นฤดูภาคใต้ต่ำลงไปด้วย จากปกติต้นฤดูจะขายได้ราคาสูง กก.ละ 180-200 บาท ด้านมังคุดปล่อยราคาร่วงต่ำสุดรอบ 10 ปี เทรวม กก.ละ 12-14 บาท

มังคุดตะวันออกแย่ตามด้วย

ขณะที่ตลาดมังคุดแผงข้างทาง จังหวัดจันทบุรีและตราด เปรียบเทียบราคามังคุดลดลงอย่างต่อเนื่อง 3-5 บาทภายใน 2 วัน ทำให้เป็นที่ตกใจของชาวสวน โดยวันที่ 15 มิ.ย. 68 มังคุดคัด ราคาอยู่ที่ 17-18 บาท/กก. มังคุดเทรวม 14-15 บาท/กก. มังคุดดำดอก (ตกไซซ์ลูกเล็ก มีสีดำ) 5-7 บาท/กก. พอวันที่ 16 มิ.ย. 68 ราคาดิ่งลงเหลือ 12-15 บาท/กก. มังคุดเทรวม 10-13 บาท/กก. มังคุดดำดอก 4-5 บาท/กก.

ทำให้ชาวสวนมังคุดเรียกร้องให้ภาครัฐช่วยพยุงราคาใน 3-5 วันที่ผลผลิตออกมาก ให้ราคามังคุดคัดควรอยู่ที่ 40-50 บาท/กก. มังคุดดำดอก 15 บาท พร้อมกันนี้ชาวสวนจะนัดหยุดเก็บพร้อม ๆ กัน 3-4 วัน เพื่อหวังดึงราคาให้สูงขึ้น เนื่องจากล้งแจ้งว่ามังคุดมีปริมาณมาก คัดไม่ทัน อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ตลาดจีนขายยาก เพราะลิ้นจี่จีนออกมาก ราคาไม่แพง แม้ว่าชาวจีนยังนิยมบริโภคมังคุด แต่ขายราคาแพงไม่ได้

จีนหยุดซื้อทุเรียนด้อยคุณภาพ

แหล่งข่าวจากผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุเพื่อส่งออกรายใหญ่แห่งหนึ่ง ใน อ.มะขาม จ.จันทบุรี เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปีนี้ทุเรียนภาคตะวันออกทำตลาดยากมาก เพราะมีปัญหาเรื่องสารย้อมสี (Basic Yellow 2 หรือ BY2) สารแคดเมียมและล่าสุดปัญหาคุณภาพทุเรียนต่ำหลุดไปในตลาดจำนวนมาก

แม้ผลผลิตทุเรียนแก่ แต่เป็นไส้ซึม เนื้อสีเหลืองแต่แข็ง บ่มไม่สุก รสชาติไม่หวาน บางครั้งระหว่างขนส่งไปตูดแตกเสียหาย ทำให้จำหน่ายในตลาดจีนไม่ได้ ต้องขายราคาขาดทุน และขายไม่ได้ ทำให้ล้งหลายแห่งที่ส่งออกหรือรับจ้างแพ็กส่งให้เถ้าแก่ที่ตลาดจีนขาดทุนอย่างหนัก ตู้ละ 2-3 ล้านบาท ในช่วงเดือนมิถุนายนเป็นปลายฤดูปัญหาทุเรียนคุณภาพต่ำ ต้องหยุดรับซื้อ ทำให้ราคาทุเรียนร่วงลงมาต่ำกว่า 100 บาท/กก. มีผลต่อราคาทุเรียนช่วงต้นฤดูในภาคใต้ต่ำลงไปด้วย

ADVERTISMENT

ราคามังคุดดิ่งต่ำกว่าทุน

นายธนกฤต เขียวขจี ประธานกลุ่มมังคุดดงกลาง จ.ตราด กล่าวว่า ภาพรวมสถานการณ์มังคุดตอนนี้ผลผลิตออกแล้วเฉลี่ย 70% แต่มังคุดมีหลายรุ่น บางสวนเพิ่งเก็บครั้งแรก แต่ได้ราคาเริ่มต้นเพียง กก.ละ 20-22 บาท และลดลงมาเรื่อย ๆ จนมาถึงวันที่ 16 มิ.ย. 68 ราคาลงต่ำสุดเหลือ กก.ละ 12-14 บาท หากคิดเฉลี่ยมังคุดที่เริ่มออกตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ได้สูง กก.ละ 110-120 บาท และลงมาเรื่อย ๆ จนถึงปลาย พ.ค.เหลือแค่ 50-60 บาท

มาถึงช่วงมิถุนายน ราคาลงมาถึงกลางเดือนต่ำสุด 12-14 บาท/กก. ประเมินว่าแม้ต่อไปจะปรับสูงขึ้นไม่น่าจะมาก ทำให้ชาวสวนที่เพิ่งเก็บผลผลิตขายได้ราคาเฉลี่ยต่ำมาก จากราคาต้นทุนบวกกำไรเล็กน้อยที่ชาวสวนจะอยู่ได้เฉลี่ยควรอยู่ที่ กก.ละ 30-35 บาท เพราะค่าเก็บ กก.ละ 7-8 บาทแล้ว ที่ผ่านมามังคุดไม่เคยราคาลงเร็วขนาดนี้ เพราะกว่ามังคุดจะหมดเดือนกรกฎาคม

แนะตั้งสมาคมชาวสวนมังคุด

“ควรมีการตั้งสมาคมชาวสวนมังคุด เพื่อให้ผู้นำออกมาเคลื่อนไหวแก้ปัญหา พยุงราคาไม่ให้ตกต่ำ และผลักดันให้ภาครัฐช่วยหาตลาดใหม่ เพราะนอกจากผลผลิตที่มีปริมาณมากและเป็นช่วงพีกแล้ว มีปัจจัยหลัก ๆ คือ 1.ผู้ส่งออกรายใหญ่มีเพียง 3-4 รายที่รับซื้อราคาสูง โดยราคาที่ซื้อวันนี้เป็นการคาดการณ์ราคาตลาดปลายทางอีก”

นายธนกฤตกล่าวและว่า 2.ลานรับซื้อจากชาวสวน ยังไม่มีมาตรฐานกลางที่ชัดเจน และมีข้อจำกัดเรื่องเวลาเปิดรับซื้อช่วง 5-6 โมงเย็น เมื่อได้มังคุดที่จะส่งออกครบแล้ว ผู้ซื้อที่เหลือจะไม่สู้ราคา และ 3) ล้งที่รับซื้อรายใหญ่ที่ซื้อราคาสูง เป็นมังคุดคัดเกรด ทำให้ตลาดพ่อค้าข้างทางราคาเทรวมเป็นที่นิยมของชาวสวน เนื่องจากคัดง่ายกว่า

จี้ชาวสวนปรับตัวคัดแยกเกรด

ด้านนายพิพัฒน์ เต็งเศรษฐศักดิ์ ฝ่ายการตลาด วิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่มังคุดคิชฌกูฏ (KMK) กล่าวว่า ปัญหาราคามังคุดตกต่ำเกิดซ้ำ ๆ รู้กันล่วงหน้า แต่ปีนี้ภาคตะวันออกรุนแรงมาก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้นำข้อมูลผลผลิต มาวางแผนเชิงรุก จึงแก้ไขปัญหาไม่ทัน แนวทางพัฒนาวงการมังคุดปีต่อไป 3 เรื่องหลัก ๆ ต้องทำคือ จัดการเรื่องโลจิสติกส์กระจายสินค้าตลาดภายในประเทศช่วงมังคุดล้นตลาด

2.สนับสนุนเครื่องคัดมังคุดฉบับเกษตรกร เพื่อแยกเกรดของดีของเสีย เพื่อลดการขายเทรวมและแยกมังคุดตกไซซ์ออกไปจากตลาด จะทำให้มังคุดได้ราคาสูงกว่า กก.ละ 10 บาท 3.ทำงานวิจัย เพื่อนำมังคุดเนื้อแก้วใช้ประโยชน์ทางการค้า ทำให้มังคุดเนื้อแก้วยางไหลออกจากระบบ แต่สร้างมูลค่าได้เพิ่มขึ้น

แนะรัฐสนับสนุนเครื่องคัด

นายพิพัฒน์กล่าวอีกว่า ราคามังคุดที่ร่วงหนัก เป็นการขายแบบเทรวม ไม่คัดเกรด จริง ๆ แล้วชาวสวนต้องปรับตัวยอมเสียเวลาคัดแยกมังคุดเกรดดีที่มีประมาณ 40% ราคามังคุดเกรดดีสูงกว่าราคาเทรวมมากกว่า 10 บาท/กก. ที่สำคัญภาครัฐควรสนับสนุนเครื่องคัดเล็ก ๆ ให้กลุ่มเกษตรกร ซึ่งจะช่วยรองรับปัญหาขาดแคลนแรงงานด้วย

ที่สำคัญอีกส่วนคือ การบริหารจัดการหาตลาดส่งออกมังคุดไปตลาดต่างประเทศให้มากขึ้น เช่น ตลาดมังคุดเบอร์ล่างตกไซซ์มีระบายออกไปตลาดเพื่อนบ้าน เวียดนาม กัมพูชา ยิ่งปีนี้มีปัญหาชายแดนกระทบต่อการส่งออกมังคุด ทำให้ราคามังคุดเบอร์ล่างมีปริมาณมากและราคาต่ำ” นายพิพัฒน์กล่าว

เผยผลผลิตมากกว่าปีที่แล้ว

ผศ.ดร.เดือนรุ่ง เบญจมาศ นายกสมาคมมังคุดไทย กล่าวว่า ผลผลิตมังคุดภาคตะวันออกปริมาณมากวันละ 300-400 ตัน ล้งรับซื้อมีไม่เพียงพอ การบริหารจัดการระบายไม่ทัน ทำให้ราคาดิ่งลง จากปีก่อนผลผลิตมีเพียงวันละ 200 ตัน ทั้งนี้ ราคามังคุดตกต่ำที่สุดในปีนี้ส่วนหนึ่งเพราะมีปริมาณผลผลิตมากและออกมากช่วงฤดูฝน

นอกจากนี้การที่ราคาทุเรียนตกต่ำ ดึงให้ราคามังคุดตกไปด้วย และราคาคงจะไม่ดีดขึ้น ประเมินสถานการณ์ปริมาณมังคุดจะมีผลผลิตมากอีกระยะหนึ่ง หากปริมาณลดลง ราคาอาจจะขยับขึ้น การแทรกแซงราคาภาครัฐพยายามดำเนินการอยู่ ในฐานะนายกสมาคมมังคุดไทย ช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2568 พยายามดึงมังคุดดำออกจากตลาดมากกว่า 100 ตัน แต่ราคายังไหลลงเรื่อย ๆ แต่กลับมีปัญหามังคุดดำที่แกะแช่แข็งยังไม่มีตลาดระบายออก จึงเวียนเอามังคุดใหม่เข้ามาไม่ได้