“ส้มโอทับทิมสยาม” ราคาทะยาน 600บาท จีนกว้านซื้อไม่อั้น !!

ส้มโอทับทิมสยามเมืองคอนไม่พอขาย ผลผลิตลดลงกว่า 40% หลังเจอพิษน้ำท่วมใหญ่ต้นปี”60 ดันราคาขายปลีกพุ่ง 600-650 บาท/ลูก ชี้แนวโน้มความต้องการตลาดจีนรับซื้อไม่อั้น ด้านภาครัฐหนุนทำเกษตรแปลงให ญ่ หวังควบคุมคุณภาพ ลดต้นทุน มุ่งสู่มาตรฐาน GAP

นายชลินทร์ ประพฤติตรง เกษตรจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า จังหวัดนครศรีธรรมราชมีพื้นที่ปลูกส้มโอทับทิมสยาม ประมาณ 2,500 ไร่ พื้นที่เหมาะสมสำหรับการปลูก คือ ลุ่มน้ำปากพนัง ซึ่งปัจจุบันได้ขึ้นทะเบียนเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI (Geographical Indication) โดยมีลักษณะเด่น คือ รสชาติหวาน เปรี้ยวนิด ๆ เนื้อสีแดงใสคล้ายทับทิม ผลผลิตจะออกมากในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม เฉลี่ยมีผลผลิตไร่ละ 700-800 ลูก โดยตลาดหลักเป็นตลาดพรีเมี่ยม และของฝากขึ้นชื่อของจังหวัดนครศรีธรรมราช จึงต้องมีการดูแลเป็นพิเศษ ทั้งการบำรุงรักษา การควบคุมคุณภาพ ทำให้ราคาผลผลิตค่อนข้างสูง ราคาหน้าสวนเฉลี่ยอยู่ที่ 150 บาท/ลูก ขณะที่ราคาจำหน่ายปลีกตั้งแต่ 200-500 บาท/ลูก ขึ้นอยู่กับขนาดและคุณภาพ หากเป็นเกรดพรีเมี่ยมราคาจะสูงถึง 600 บาท/ลูก

ปัจจุบันส้มโอทับทิมสยามสร้างรายได้ให้จังหวัดประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นจำหน่ายในประเทศ 40% ได้แก่ จำหน่ายภายในจังหวัดนครศรีธรรมราช ตลาด อ.ต.ก. โมเดิร์นเทรด เช่น ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต และส่งออกต่างประเทศ 60% ได้แก่ จีน ซึ่งเกษตรกรในพื้นที่จะรวบรวมผลผลิตจากสมาชิก คัดเกรด และมีพ่อค้าคนกลางมารับซื้อเพื่อส่งออกต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้ผลผลิตยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด แต่ไม่สามารถขยายพื้นที่เพาะปลูกได้ เนื่องจากเป็นลักษณะเฉพาะของส้มโอทับทิมสยาม

ขณะที่เกษตรกรก็ประสบปัญหาด้านต้นทุนสูง และภัยธรรมชาติ เนื่องจากพื้นที่ที่เหมาะสมในการปลูก คือ พื้นที่ลุ่มน้ำ ซึ่งเป็นพื้นที่ต่ำ ทำให้ประสบปัญหาน้ำท่วมบ่อยครั้ง โดยในช่วงเดือนธันวาคม 2559-มกราคม 2560 ที่ผ่านมา เกษตรกรได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมอย่างมาก เนื่องจากเป็นลักษณะน้ำท่วมขัง ส่งผลให้ส้มโอทับทิมสยามร้อยกว่าไร่ยืนต้นตาย และต้องได้รับการฟื้นฟูอีกจำนวนมาก ทำให้ผลผลิตลดลงกว่า 30-40% และผลผลิตออกล่าช้ากว่าปกติ โดยปีนี้เลื่อนมาออกช่วงปลายเดือนสิงหาคม-กันยายน

ทั้งนี้ หลังจากสถานการณ์น้ำท่วม ภาครัฐได้เข้าไปช่วยเหลือและส่งเสริมในรูปแบบเกษตรแปลงใหญ่กว่า 1,000 ไร่ เป็นการรวบรวมการผลิต และมุ่งเน้นเรื่องคุณภาพให้ดี มีมาตรฐานเดียวกัน รวมทั้งวางแผนการขาย ลดต้นทุนการผลิตด้วยการรวมกันซื้อปัจจัยการผลิต และพยายามใช้ชีวภาพให้มากขึ้น เพื่อลดการใช้สารเคมี และเข้าสู่มาตรฐาน GAP 100% ในอนาคตจะมุ่งไปสู่เกษตรอินทรีย์ ขณะเดียวกัน ทางชลประทานได้เข้ามาดูแลในเรื่องของระบบน้ำให้ด้วย

“เกษตรกรที่จะเข้ามาร่วมทำเกษตรแปลงใหญ่ ต้องสมัครสมาชิกเข้ามาเอง เพราะต้องการเกษตรกรที่มีความต้องการที่จะพัฒนาในรูปของกลุ่มรวมตัวกัน ไม่อยากให้เป็นลักษณะบังคับกัน ซึ่งภาคราชการก็สามารถเข้าไปส่งเสริมได้สะดวก หลักการคือให้รวมกันผลิต รวมกันขาย ซึ่งสามารถแก้ปัญหาการนำเอาส้มโอไม่มีคุณภาพมาขายได้ โดยในอนาคตจะพัฒนาคิวอาร์โค้ด เพื่อใช้ตรวจสอบผลผลิตแบบย้อนกลับด้วย” นายชลินทร์กล่าว

พิษน้ำท่วม – จากเหตุการณ์น้ำท่วมเดือน ธ.ค.59-ม.ค.60 ได้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ปลูกส้มโอทับทิมสยามของ จ.นครศรีธรรมราชส่งผลให้ผลผลิตลดลงกว่า 40% ราคาสูงขึ้นถึง 600-650 บาท/ลูก และไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด


ด้านนายฉัตรชัย ศีลประเสริฐ เจ้าของสวนลุงน้อยส้มโอทับทิมสยาม ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ปัจจุบันมีพื้นที่สวนส้มโอทับทิมสยาม ประมาณ 10 กว่าไร่ และมีของลูกสวนอีกประมาณ 6 ราย พื้นที่รวมทั้งหมด 60 ไร่ จำหน่ายในประเทศ เช่น ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต และต่างประเทศ ได้แก่ จีน ฮ่องกง โดยจะมีพ่อค้าคนกลางมารับซื้ออีกทอดหนึ่ง ซึ่งผลผลิตที่ส่งออกจะต้องมีมาตรฐาน GAP ผิวเรียบ สวย ผิวเขียวอมเหลือง เนื้อในต้องเป็นสีแดงสด และมีรสชาติหวาน แต่ปัจจุบันผลผลิตยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ เพราะจีนเข้ามากว้านซื้อไปเกือบหมด

สำหรับปีที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในเดือนธันวาคม 2559-มกราคม 2560 เกษตรกรบางส่วนขาดทุนย่อยยับ เพราะว่าท่วมหนักกว่าทุกปี ถ้าหากท่วมประมาณ 10-15 วัน ก็สามารถอยู่ได้ แต่ที่ผ่านมาน้ำท่วมนานเดือนกว่า ทำให้ต้นส้มโอตาย ส่วนต้นที่เหลือต้องตัดผลผลิตทิ้งหมด เพื่อรักษาและฟื้นฟูต้นไว้ ใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ปี ส่วนต้นที่ปลูกใหม่ใช้เวลา 3-4 ปีกว่าจะได้ผลผลิต เกษตรกรบางรายจึงถอดใจเพราะต้องลงทุนใหม่ทั้งหมด ทั้งระบบน้ำ ถมดินใหม่ และต้นทุนสูง เช่น กิ่งพันธุ์ ราคา 200-350 บาท/กิ่ง


“ในปี 2560 คาดว่าผลผลิตจะลดลงกว่าครึ่ง ส่งผลให้ราคาส้มโอทับทิมสยามสูงขึ้น ปกติราคาจำหน่ายปลีก ไซซ์ใหญ่ ขนาด 2.5 กิโลกรัม ราคา 450-500 บาท/ลูก แต่ตอนนี้ราคาสูงขึ้นอยู่ที่ 600-650 บาท/ลูก ขณะที่ราคาหน้าสวนก็สูงขึ้นเช่นกัน เฉลี่ยอยู่ที่ 150-180 บาท/ลูก จากเดิม 120-150 บาท/ลูก” นายฉัตรชัยกล่าว