โควิดเชียงรายทะลุ 140 ราย ชายแดนแม่สายพุ่ง เร่งหาเชื้อยกอำเภอ

สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดเชียงราย รายงานสถานการณ์โควิด-19 พบมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 17 ราย รวมยอดสะสมระ ลอกเดือน เม.ย. จำนวน 140 ราย แบ่งเป็นผู้ติดเขื้อภายในจังหวัด 51 ราย ติดเชื้อจากต่างจังหวัด 89 ราย

จำนวนยอดรวมสะสม 140 ราย แบ่งเป็นผู้ติดเชื้ออยู่ในเขต

  • อำเภอเมืองเชียงราย 71 ราย
  • อำเภอแม่สาย 36 ราย
  • อำเภอเชียงของ 5 ราย
  • อำเภอเชียงแสน 4 ราย
  • อำเภอเทิง 4 ราย
  • อำเภอแม่สรวย 3 ราย
  • อำเภอแม่ลาว 3 ราย
  • อำเภอพาน 3 ราย
  • อำเภอแม่จัน 3 ราย
  • อำเภอเวียงป่าเป้า 2 ราย
  • อำเภอพญาเม็งราย 2 ราย
  • อำเภอขุนตาล 2 ราย
  • อำเภอเวียงชัย 1 ราย
  • อำเภอแม่ฟ้าหลวง 1 ราย

ทำให้ คณะกรรมการโรคติด่อ จังหวัดเชียงราย ได้มีการเพิ่มโรงแรมใกล้โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ที่ใช้ในการรักษาผู้ติดเชื้อเป็นจำนวน 2 แห่ง สามารถรองรับผู้ติดเชื้อที่มีอาการไม่มากหรือไม่มีอาการได้อีกกว่า 100 ราย ขณะที่ภายในโรงพยาบาลสามารถรองรับผู้ป่วยได้จำนวน 90 รายทำให้เตียงนอนสำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังคงเพียงพอ

อย่างไรก็ตามเนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันยังคงเพิ่มขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจความพร้อมห้องรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) ต.ท่าสุด อำเภอเมืองเชียงราย จำนวน 200 เตียง และโรงพยาบาลชุมชนอำเภอต่างๆ รวมทั้งศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงหรือจีเอ็มเอส ต.ริมกก อำเภอเมืองเชียงราย ที่สามารถปรับเป็นโรงพยาบาลสนามได้ประมาณ 400-800 เตียงแล้ว

ด้านศูนย์ปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุข อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ได้ประกาศแผนปฏิบัติการเพื่อคัดกรองกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ อำเภอแม่สาย ครั้งใหญ่โดยมีกำหนดดำเนินการตั้งแต่วันที่ 19-21 เม.ย.  ณ หอประชุมพระเจ้าพรหมมหาราช ที่ว่าการ อำเภอแม่สาย หลังจากที่พบว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในวันที่ 19 เม.ย.จะทำการตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงจำนวน 150 คนเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงและมาจากพื้นที่เสี่ยง ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่พบผู้ป่วยคือ ต.แม่สาย ต.เวียงพางคำ และ ต.โป่งงาม รวมถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ

ส่วนวันที่ 20 เม.ย. จะทำการตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงที่ ต.โป่งงาม ต.ห้วยไร้ ต.บ้านด้าย ต.ศรีเมืองชุมน และ ต.เกาะช้าง รวมถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้านที่มีความเสี่ยง จำนวน 200 คน และวันที่ 21 เม.ย. เป็นกลุ่มองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.ป ข้าราชการที่มีความเสี่ยง อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) อาสาสมัครกู้ชีพกู้ภัยต่างๆ จำนวน 200 คน ตามลำดับ