ผู้ตรวจการแผ่นดินลงพื้นที่”วังน้ำเขียว”สางปมพื้นที่ทับซ้อน2.6แสนไร่ ประชาชนนับร้อยร่วมรับฟัง

ผู้ตรวจการแผ่นดินลงพื้นที่อำเภอวังน้ำเขียว โคราช แก้ไขปัญหาพื้นที่ทับซ้อนกว่า 260,000 ไร่ โดยขอให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องนำการสำรวจแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลานปี 2543 เป็นหลักในการแก้ไขปัญหาการทับซ้อน

วันนี้ (21 กรกฎาคม 2560) พลเอกวิทวัส รชตะนันทน์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม และตัวแทนจากอีกหลายหน่วยงาน ได้ลงพื้นที่ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา เพื่อติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการครอบครองที่ดินที่มีแนวเขตทับซ้อนในพื้นที่ของ ส.ป.ก. พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าภูหลวง ป่าสงวนแห่งชาติป่าแก่งดินสอ และพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 5 อำเภอ ใน 2 จังหวัด ประกอบด้วย อำเภอวังน้ำเขียว อำเภอปักธงชัย อำเภอครบุรี และอำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา และอำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี รวมพื้นที่ที่มีปัญหาจำนวนกว่า 260,000 ไร่ หลังการแก้ไขปัญหาดังกล่าวดำเนินการยืดเยื้อมานานหลายปี โดยมีประชาชนในพื้นที่จำนวนมากเดินทางไปร่วมรับฟังแนวทางการแก้ไขปัญหาในครั้งนี้

โดยคณะของผู้ตรวจการแผ่นดินได้ประชุมร่วมกับตัวแทนหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และผู้แทนประชาชนในพื้นที่ ซึ่งได้สรุปแนวทางการดำเนินการแก้ปัญหาออกเป็น 5 ข้อ ประกอบด้วย ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องบูรณาการแก้ไขข้อมูลหรือแผนที่ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติฯ ให้ถูกต้องตามข้อเท็จจริง ทำให้กฎหมายมีความถูกต้องชอบธรรมไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน และรักษาผลประโยชน์ของรัฐ, ให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องนำการสำรวจแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลานปี 2543 และแนวกันไฟเป็นหลักในการแก้ไขปัญหาการทับซ้อนของเขตพื้นที่, ให้กรมป่าไม้รับข้อคิดเห็นกรณีการกำหนดพื้นที่เขาแผงม้าให้เป็นป่าโซนซีนั้นให้มีความถูกต้องสอดคล้องกับสภาพข้อเท็จจริง เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาเขตป่าสงวนแห่งชาติในอำเภอวังน้ำเขียว, ผู้ตรวจการแผ่นดินจะประสานงานกับอัยการสูงสุดให้มีการชะลอดำเนินคดีกับประชาชนที่ถูกฟ้องร้อง ในระหว่างการดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริงกรณีปัญหาแนวเขตทับซ้อนของอุทยานแห่งชาติทับลานกับเขตที่ดินของราษฎร และผู้ตรวจการแผ่นดินจะนัดหมายหารือกับปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาดังกล่าวว่าจะมีขั้นตอน และกรอบเวลาในการดำเนินการอย่างไร

พลเอกวิทวัส รชตะนันนท์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามแก้ไขปัญหาดังกล่าวหลายครั้ง และได้เสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาต่อนายกรัฐมนตรีเมื่อปี 2555 ต่อมาคณะรัฐมนตรีได้มีมติให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นหน่วยงานหลักในการนำข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดินไปเป็นแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว และต่อมาในปี 2559 หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ได้ข้อยุติทางกฎหมาย แต่จนถึงขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ยังไม่สามารถนำแนวทางการปรับปรุงแก้ไขแนวเขตแผนที่ของอุทยานแห่งชาติทับลานที่มีการดำเนินการไว้ตั้งแต่ปี 2543 ซึ่งเป็นแนวทางที่ยอมรับ และสามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างเป็นธรรมมาดำเนินการ ทำให้ประชาชนในพื้นที่ยังได้รับความเดือดร้อน และร้องเรียนปัญหาไปยังผู้ตรวจการแผ่นดินอย่างต่อเนื่อง

และในเวลาต่อมาคณะของผู้ตรวจการแผ่นดินได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพพื้นที่ที่มีปัญหาจำนวนทั้งหมด 4 จุด ประกอบด้วย จุดที่ 1 บริเวณทางเข้าวัดบ้านไร่ 2 จุดที 2 บริเวณถนนระหว่างหมู่บ้านสุขสมบูรณ์ และหมู่บ้านไทยสามัคคี จุดที่ 3 บริเวณที่มีการปักแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน ซึ่งมีการรังวัดเมื่อปี 2543 และจุดสุดท้ายบริเวณศาลาประชาคมหมู่บ้านไทยสามัคคี เพื่อให้เห็นสภาพปัญหาที่แท้จริงของประชาชนในพื้นที่ด้วย