ตลาดรถมือสองบูม เต็นท์รถรายใหญ่ในอีสานยอดขายพุ่ง 2 ทุนภูธรรายใหญ่อีสาน “ประเสริฐผลรุ่งเรืองนครพนม-มงคลคาร์เซ็นเตอร์” ทำตลาด 14 จังหวัด ขายออนไลน์ฮอต เหตุรถใหม่ส่งมอบช้า ชะลอผลิต เผยตลาดออนไลน์บูม ทำทุนข้ามชาติ อินเดีย-มาเลเซีย-สิงคโปร์ สมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว คาดตลาดโต 15%
นายดิเรก คำไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ประเสริฐผลรุ่งเรืองนครพนม จำกัด ผู้ประกอบการรถมือสองรายใหญ่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภายใต้โชว์รูมชื่อ “ประเสริฐผลยูสคาร์” เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้โชว์รูมของบริษัททั้งหมด 14 สาขาที่กระจายตัวอยู่ในภาคอีสาน ประกอบด้วยจังหวัดเลย หนองบัวลำภู ขอนแก่น ยโสธร ร้อยเอ็ด มุกดาหาร บึงกาฬ อุดรธานี และนครพนม มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นมาก
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- อย.เปิดชื่ออาหารเสริม พบสารอันตราย ร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิต เตรียมดำเนินการตามกฎหมาย
- BITE SIZE : ขึ้นค่าแรง 10 จังหวัด-ปรับเงินเดือนข้าราชการ เพิ่มขึ้นเท่าไร
โดยเฉพาะการทำตลาดออนไลน์ตั้งแต่ช่วงเกิดโควิด-19 ที่ผ่านมาถึงปัจจุบันมีสัดส่วนลูกค้าออนไลน์ 60% และเดินเข้ามาดูรถที่โชว์รูมด้วยตัวเองอีก 40% ซึ่งลูกค้าที่วอล์กอินเหล่านี้ส่วนใหญ่ดูผ่านออนไลน์มาแล้วระดับหนึ่ง ทั้งนี้ ปี 2564 บริษัทมีอัตราการเติบโตประมาณ 30% มียอดขายรถเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 1,900 คัน ในปี 2563 เพิ่มเป็น 2,500 คัน
ตั้งเป้าปี 2565 จะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอีก 30% คาดว่ายอดขายเฉลี่ยจะเพิ่มจาก 2,500 คัน ในปีก่อน เป็น 3,000 คัน ในปีนี้ โดยลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า หรือคนที่หารถคันแรก ประเภทรถที่ขายดีเป็นรถอีโคคาร์หรือรถเก๋งเล็ก และรถกระบะ ราคาอยู่ระหว่าง 250,000-400,000 บาท/คัน
“ตลาดออนไลน์ถือว่าบูมขึ้นมาตั้งแต่ช่วงโควิด-19 ระลอกแรกที่คนไม่ออกจากบ้าน พฤติกรรมคนเปลี่ยนไปมาก ใช้ระบบขนส่งสาธารณะน้อยลง และหันมาใช้รถยนต์ส่วนตัวมากขึ้นด้วยการเลือกรถมือสอง ประจวบเหมาะกับการผลิตรถใหม่ทำได้ไม่ตามเป้า ยอดขายรถมือสองจึงเติบโตขึ้น”
นายมงคล จุลทัศน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มงคลคาร์เซ็นเตอร์ จำกัด จ.อุบลราชธานี เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ภาวะการแข่งขันของธุรกิจรถมือสองแข่งขันกันทั่วประเทศบนตลาดออนไลน์ มีทุนจากต่างชาติเข้ามาด้วย เช่น ทุนจากอินเดีย CARS24 (คาร์สทเวนตี้โฟร์) ทุนจากมาเลเซีย และทุนจากสิงคโปร์ แสดงให้เห็นว่าตลาดรถมือสองของประเทศไทยยังสามารถเติบโตได้อีกมาก
“ผมมองว่ากำลังซื้อรถมือสองในประเทศไทยค่อนข้างสูงและยังสูงต่อเนื่อง สถาบันการเงินยังปล่อยสินเชื่อด้านนี้มาก หากเครดิตลูกค้าดี แบงก์ปล่อยให้ถึง 100% ซึ่งดูแล้วยังมีช่องทางให้ทำกำไรได้ อีกปัจจัยที่ทำให้รถมือสองขายดี คือหลายบริษัทไม่มีรถใหม่ส่งให้ลูกค้า เพราะโรงงานผลิตหรือประกอบรถยนต์ชะลอตัว ลูกค้าบางรายที่ไม่สามารถทนรอได้ก็หันมาซื้อรถมือสอง”
ตลาดรถมือสองในต่างจังหวัด กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่นิยมรถกระบะ หรือรถเก๋งอีโคคาร์ที่ราคาไม่สูงมาก เนื่องจากไฟแนนซ์รถยนต์ดอกเบี้ยสูง ฉะนั้นลูกค้าจะเลือกในวงเงินที่สามารถผ่อนได้เฉลี่ย 3,000-4,000 บาท/เดือน โดยรถกระบะมักจะเป็นที่นิยมของลูกค้ากลุ่มเกษตรกร และรถอีโคคาร์ได้รับความนิยมในกลุ่มลูกค้าที่ไม่อยากมีภาระหนี้สินมากจนเกินไป ความนิยมรถกระบะและรถอีโคคาร์น่าจะอยู่ที่ 80% ที่เหลือเป็นประเภทฟอร์จูนเนอร์ 20%
สำหรับมงคลคาร์เซ็นเตอร์ ส่วนใหญ่ขายรถอเนกประสงค์ SUV, MPV, Fortuner, Ford Everest และกระบะ 4 ประตู ซึ่งมีสัดส่วนใกล้เคียงกันประมาณ 50% ราคา 500,000-1,200,000 บาท/คัน ยอดขายเฉลี่ย 700 คัน/ปี กลุ่มลูกค้าเป็นตลาดบน เช่น เจ้าของธุรกิจหรือเจ้าของกิจการ ข้าราชการ การขายเน้นไปด้านออนไลน์เป็นหลัก ที่ค่อนข้างเติบโตขึ้นสูงกว่า 80% ขณะที่การวอล์กอินเข้ามาโชว์รูมมีเพียง 20%
นายภิญโญ ธนวัชรภรณ์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว เปิดเผยถึงสถานการณ์ตลาดรถยนต์มือสองว่า ตอนนี้บางรุ่นขาดตลาด เนื่องจากไม่มีการหมุนเวียนรถเข้ามา ประกอบกับรถป้ายแดงขาดเซมิคอนดักเตอร์ ผลิตไม่ทัน ทำให้ผู้บริโภคหันมาซื้อรถมือสองมาก คาดว่าตลาดรถยนต์มือสองจะเติบโตขึ้น 15% หรือมากกว่านั้น
ปัจจุบันมีผู้ประกอบการรถมือสองในประเทศประมาณ 10,000 ราย ขณะนี้สมาคมได้ร่วมมือกับ สคบ. วันทูคาร์ และขายดี ในการตรวจรถ เพื่อยกระดับให้มีการตรวจสอบ และมีแพลตฟอร์มในการขายผ่านออนไลน์ ปัจจุบันมีสมาชิกสมาคม 400 ราย
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยวิเคราะห์ว่า แนวโน้มสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือสองในระบบธนาคารพาณิชย์ ปี 2565 มีโอกาสขยายตัวเป็นบวกต่อจากปีก่อน ยอดขายในตลาดรถยนต์มือสองปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโตได้ในช่วง 3-5% หรือคิดเป็นปริมาณการซื้อขายรถยนต์มือสองราว 6-7 แสนคัน ทำให้ยอดคงค้างสินเชื่อรถยนต์มือสองมีโอกาสขยายตัวเพิ่มขึ้นได้ ประมาณ 5-7%
