โตชิบา ปลุกยอดยาวข้ามปี ขนสินค้า IOT อีเวนต์ยึดตลาดกลาง-บน

โตชิบา

“โตชิบา” ทุ่มงบฯโค้งท้ายโหมปลุกเครื่องทำน้ำอุ่น-ชิ้นเล็ก ชิงดีมานด์ช่วงเทศกาลปีใหม่ จัดเต็มกิจกรรม-โปรโมชั่นลด-แถม-ผ่อน ใน 100 ร้านค้าทั่วประเทศ หวังปั้นยอดจนนาทีสุดท้าย มั่นใจรายได้ปี’65 เติบโตแน่นอน ส่วนปี’66 พาเหรดสินค้าใหม่โฟกัสไอโอที ทั้งไมโครเวฟ เครื่องฟอกอากาศ เครื่องกรองน้ำ พร้อมลุยปรับโฉมร้านค้าโมเดิร์นเทรด ย้ำจุดขายราคาจับต้องได้ ตามเป้าเจาะตลาดกลาง-บน

นายอเล็กซ์ มา รองประธานบริษัท บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงแนวโน้มตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าช่วงโค้งท้ายปี 2565 นี้ และทิศทางของบริษัทในเดือน ธ.ค. และต้นปี 2566 ว่า ช่วงไตรมาส 4 นี้ มีปัจจัยบวกหลายด้าน อาทิ มหกรรมฟุตบอลโลก การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว การผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 รวมไปถึงการทุ่มงบฯสื่อสาร จัดกิจกรรม แคมเปญและโปรโมชั่นอย่างคึกคักจากแบรนด์ต่าง ๆ สะท้อนจากคิวการใช้สื่อโฆษณา อย่างสื่อบนรถไฟฟ้าบีทีเอสและพื้นที่จัดกิจกรรมในห้างที่เต็มปรี่จนต้องจองคิวรอนาน

มร.อเล็กซ์ มา_Toshiba

โดยปัจจัยบวกเหล่านี้ที่กระตุ้นให้ผู้บริโภคกลับมาจับจ่ายอีกครั้ง เมื่อร่วมกับจังหวะการช็อปปิ้งท้ายปีที่เป็นไฮซีซั่นของบรรดาเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็กที่ผู้บริโภคซื้อเพื่อเป็นของขวัญ และเครื่องทำน้ำอุ่นซึ่งมีดีมานด์จากทั้งภาคครัวเรือนและโครงการอสังหาริมทรัพย์ คาดว่าจะช่วยกระตุ้นให้ตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าปี 2565 เติบโตได้ประมาณ 5-8%

ถล่มโปรฯ ปลุกโค้งท้าย

สำหรับทิศทางของโตชิบา นายอเล็กซ์กล่าวว่า เพื่อใช้จังหวะช่วงที่ตลาดฟื้นตัวผลักดันยอดขายให้มากที่สุดก่อนปิดปี เดือน ธ.ค.นี้จะทุ่มงบฯมากกว่าปีก่อน ๆ โหมทำการตลาดเต็มที่ในทุกด้านทั้งการเปิดตัวสินค้าใหม่ การสื่อสารในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด รวมถึงกิจกรรม-โปรโมชั่นส่งเสริมการขาย ไม่ว่าจะเป็นสื่อบนรถไฟฟ้าบีทีเอสสร้างการรับรู้ให้เครื่องทำน้ำอุ่น เดินสายโรดโชว์โปรโมตเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็กในศูนย์การค้า อาทิ เซ็นทรัลเวสต์เกต เซ็นทรัลลาดพร้าว รวมถึงจัดสเปเชียลดิสเพลย์ที่ร้านค้ากว่า 100 แห่งทั่วประเทศ

พร้อมด้วยโปรโมชั่นครบทุกรูปแบบทั้งลดราคา ผ่อน 0% แถมของพรีเมี่ยม ฯลฯ ต่อเนื่องจากการโฆษณาผ่านบิลบอร์ดเมื่อเดือน พ.ย. และส่งทัพพนักงานขายเข้าไปประจำในช่องทางโมเดิร์นเทรดต่าง ๆ ตั้งแต่ช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค.ที่ผ่านมาสำหรับผลักดันยอดขาย ไปจนถึงสำรองสินค้าเพิ่มเป็นพิเศษเพื่อรองรับดีมานด์ไม่ให้เกิดปัญหาสินค้าขาดสต๊อกจนไม่สามารถทำตลาดได้เต็มที่เหมือนเมื่อปี 2564

ทั้งนี้จะเน้นการโปรโมตสินค้าตามฤดูกาล เช่น เครื่องทำน้ำอุ่นโดยเฉพาะรุ่น EX series ที่เป็นรุ่นพรีเมี่ยมซึ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นเดือน พ.ย. ด้วยจุดขายหม้อต้มทองแดง ระบบความป้องกันไฟดูด พร้อมด้วยโปรโมชั่นราคา ผ่อน 0% นาน 6 เดือน และแถมของพรีเมี่ยม ควบคู่กับกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็ก ที่มีบริการพิเศษเป็นจุดบริการห่อของขวัญสไตล์ญี่ปุ่น เพื่อดึงดูดความสนใจ สร้างความแตกต่างจากคู่แข่งและย้ำโพซิชั่นการเป็นแบรนด์ญี่ปุ่น

นอกจากนี้ยังเตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่อีกหลายรายการ อาทิ ตู้เย็นและเครื่องซักผ้าที่มีฟังก์ชั่น IOT ซึ่งสามารถตรวจสอบ-ควบคุมการทำงานผ่านแอปได้, หม้อระบบอินดักชั่นหรือหม้อที่ทำความร้อนด้วยการเหนี่ยวนำ ตามแผนเร่งเติมไลน์อัพสินค้าระดับกลาง-บนและสินค้ารุ่น IOT ให้ครอบคลุมโจทย์ของลูกค้าทุกรูปแบบ ต่อเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาของปีนี้ทยอยเปิดตัวสินค้า IOT ไปแล้ว 8 รายการ เช่น เครื่องซักผ้าฝาหน้าและฝาบนซึ่งต่างเป็นรุ่น IOT ที่พาเหรดเปิดตัวมาตั้งแต่เดือน ก.ย. และตู้เย็น ที่เปิดตัวเมื่อเดือน ต.ค.

“นอกจากความเข้มข้นของการทำตลาด และการเปิดตัวสินค้าไปกว่า 30 รายการ ปีนี้เรายังเริ่มทำการตลาดเร็วขึ้นด้วย โดยเริ่มตั้งแต่เดือน พ.ย. จากปกติที่จะเริ่มกลาง ธ.ค. เพื่อรับกระแสการฟื้นตัวของการจับจ่าย หลังเริ่มเห็นการซื้อสินค้าเพื่อเป็นของขวัญบ้างแล้วพร้อม ๆ กับการเปิดประเทศ แต่ยังไม่มากนักจึงต้องเร่งกระตุ้นเพิ่ม เชื่อว่า ด้วยแนวโน้มการฟื้นตัวของตลาด และไลน์อัพสินค้าใหม่ รวมถึงการโหมทำตลาดเต็มที่ในช่วง 3 เดือนสุดท้าย จะช่วยให้รายได้ของบริษัทในปี 2565 นี้เติบโตจากปีก่อนแน่นอน โดยจะมากน้อยเพียงใดต้องจับตาในช่วง ธ.ค. ที่เป็นหน้าขายสำคัญ”

เปิดตัวไอโอทีราคาจับต้องได้

นายอเล็กซ์ มา กล่าวด้วยว่า สำหรับทิศทางในช่วงต้นปี 2566 ที่จะถึงนี้ เบื้องต้นจะโฟกัสขยายไลน์อัพและทำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฟังก์ชั่น IOT เป็นหลัก เนื่องจากขณะนี้ตลาดมีความพร้อมหลังผู้บริโภคไทยรู้จักและเข้าใจการใช้งานเทคโนโลยีมากขึ้นแล้ว อย่างการเปิดแอร์ล่วงหน้าก่อนถึงบ้าน

อีกทั้งต้นทุนของเทคโนโลยีนี้ลดลงมามาก จึงเป็นโอกาสที่จะนำมาเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า ในขณะที่ราคายังอยู่ในระดับจับต้องได้ง่าย ต่างจากในอดีตที่ฟังก์ชั่นเหล่านี้จะพบได้เพียงในรุ่นราคาระดับบนเท่านั้น ทำให้เกิดช่องว่างในระดับกลางที่บริษัทสามารถรุกเข้าไปได้

เช่นเดียวกับการเพิ่มไลน์อัพระดับกลาง-บน พร้อมด้วยจุดขายการนำฟังก์ชั่นที่เคยมีเฉพาะในเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับบน-พรีเมี่ยมมาใส่ในรุ่นระดับกลาง ตัวอย่างเช่น ที่กดน้ำของตู้เย็น ซึ่งเดิมจะมีในรุ่นราคาสูงอย่างตู้เย็น 4 ประตู หรือมัลติดอร์ แต่บริษัทนำมาใส่ในตู้เย็น 2 ประตู ขนาด 8.8 คิว และตั้งราคาประมาณ 9 พันบาท เมื่อช่วงปลายปี 2565

ทั้งนี้เพื่อเพิ่มตัวเลือกให้ลูกค้า และขยายฐานให้ครอบคลุมผู้บริโภคทุกกลุ่ม จากเดิมที่มีไลน์อัพระดับแมสครบครันอยู่แล้ว โดยมีแผนยกทัพสินค้ามาเปิดตัวหลายรายการจากหลายหมวด ทั้งไมโครเวฟ เครื่องฟอกอากาศและเครื่องกรองน้ำที่มีฟังก์ชั่นไอโอที รวมถึงตู้เย็น 2 ประตูแบบช่องแช่แข็งด้านล่าง ตู้เย็นมัลติดอร์ ตู้เย็นไซด์บายไซด์ เครื่องซักผ้า ฯลฯ

ส่วนแนวทางการทำตลาดจะเน้นหนักการทำกิจกรรมให้มากขึ้นอีก ด้วยกลยุทธ์ O2O หรือออนไลน์ทูออฟไลน์ โดยสื่อสาร-จัดกิจกรรมบนโซเชียลดึงผู้บริโภคไปที่ร้านค้า ซึ่งบริษัทจะเดินสายโรดโชว์ไปจัดกิจกรรมที่หน้าร้านค้าพร้อมกัน เพื่อสร้างการรับรู้และให้ผู้บริโภคจับต้องทดลองสินค้า ไปจนถึงการปิดการขาย

รวมถึงกำลังศึกษาโอกาสจัดโรดโชว์เน้นโปรโมตสินค้า IOT โดยเฉพาะ หลังช่วงที่ผ่านมาเดินหน้าเปิดตัวต่อเนื่อง จนใกล้มีสินค้าครบทุกหมวดและขนาดพร้อมที่จะทำการตลาดแบบเต็มที่แล้ว พร้อมทั้งเตรียมจัดแคมเปญโปรโมชั่น รวมถึงสำรองสินค้าล่วงหน้าเพื่อรับมือดีมานด์ช่วงตรุษจีน รวมถึงการหยุดยาวของกิจการต่าง ๆ ในจีน

นอกจากนี้ยังลงทุนปรับโฉมจุดจำหน่ายในร้านให้เน้นสินค้า IOT ตามไลน์อัพสินค้าใหม่ รวมถึงเพิ่มจำนวนสินค้าตัวโชว์ในหน้าร้านและพื้นที่โปรโมชั่นต่าง ๆ ของโมเดิร์นเทรดและร้านดีลเลอร์ให้มากขึ้น

“เชื่อว่าอนาคต IOT จะเป็นฟังก์ชั่นที่คนใช้งานกันเป็นปกติ เพียงแต่ตอนนี้ต้องสร้างการรับรู้ด้านประโยชน์ที่ได้รับ โดยเฉพาะในกลุ่มตู้เย็น-เครื่องซักผ้า หลังปัจจุบันผู้บริโภคคุ้นเคยกับการใช้งาน IOT ในแอร์แล้ว เพราะปัจจุบันราคาสินค้ารุ่นที่มี IOT นั้นไม่แตกต่างจากรุ่นที่ไม่มีมากนัก จึงมีโอกาสสูงที่จะจูงใจให้ผู้บริโภคลงทุนเพิ่มเพื่อแลกกับความสะดวกได้ง่ายขึ้น” รองประธานบริษัท บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์กล่าว