
คอลัมน์ : สัมภาษณ์พิเศษ
เบโค (Beko) แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าตุรกี ภายใต้เครืออาร์เซลิก ซึ่งมีสาขาใน 53 ประเทศทั่วโลก มีโรงงานผลิต 30 แห่งใน 9 ประเทศ ชูไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตสินค้าส่งออกในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และยุโรป
“ประชาชาติธุรกิจ” สัมภาษณ์ “นายอุทกู บาริช พาซาร์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านกลยุทธ์และงานดิจิทัล บริษัท อาร์เซลิก จำกัด และ “นายแอเรียล อทากูล” ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก บริษัท เบโค ไทย จำกัด ถึงทิศทางธุรกิจ ในโอกาสเยี่ยมชมโรงงานที่ จ.ระยอง
ชูไทยฐานผลิตสำคัญ
นายอุทกู บาริช พาซาร์ กล่าวว่า ปัจจุบันอาร์เซลิกถือเป็น 1 ใน 3 บริษัทผู้ผลิตสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับครัวเรือนที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดในยุโรป ซึ่งแบ่งตามยอดของการจำหน่าย โดยในปี 2564 มีรายได้รวม 6,500 ล้านยูโร
“เบโคเลือกประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิต ทุ่มงบฯลงทุนในไทยกว่า 6,000 ล้านบาท จากที่ภูมิศาสตร์เป็นศูนย์กลางในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ทั้งยังมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดี”
ปี’65 โต 37%
ธุรกิจของเราในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกเติบโตถึง 20% ในปี 2564 มีกำลังการผลิต 350,000 หน่วย ปัจจุบันมีกำลังการผลิต 600,000 หน่วยต่อปี สามารถผลิตตู้เย็นได้ 1,080 ตู้ต่อวัน ต่อการทำงาน 1 กะ ใช้คนงาน 250 คน
ในการประกอบชิ้นส่วนบางขั้นตอน เพราะทางโรงงานมีการนำหุ่นยนต์โรบอตช่วยผ่อนแรงคนในขั้นตอนการประกอบแผ่นเหล็กหรือพลิกตู้ เพราะมีน้ำหนักมากและป้องกันอันตรายในการทำงานส่วนนี้ด้วย
“ปีนี้เบโคตั้งเป้าเติบโต 37% โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์ตู้เย็น เครื่องซักผ้า และเครื่องปรับอากาศ ภายในปี 2024 จะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 750,000 หน่วยต่อปี”
ชูเป้า Net Zero 2050
บริษัทยึดมั่นในวิสัยทัศน์ เคารพโลก เพื่อเป็นที่เคารพทั่วโลก เป็นตัวจุดประกายที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเราตั้งเป้าลดคาร์บอนไดออกไซด์ ให้ได้ 50% ภายในปี 2030 และตั้งเป้า Net Zero ภายในปี 2050
“บริษัทให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อม ทั้งการใช้ไบโอพลาสติกหรือกระดาษสำหรับบรรจุภัณฑ์เป็นการรีไซเคิล 100% มีการกักเก็บน้ำที่ช่วยประหยัดน้ำได้ถึง 40% จัดทำพลังงานหมุนเวียน โครงการอาคารสีเขียว ติดตั้งแผงโซลาร์ผลิตไฟฟ้าใช้ในโรงงานได้ 15-20% นอกจากนี้ดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์เป็นปีที่ห้าติดต่อกัน โดยบริษัทได้รับคะแนนสูงสุดในภาคธุรกิจเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน”
ส่วนแบ่งตลาด 5.3%
ด้าน นายแอเรียล อทากูล กล่าวว่า การตลาดของไทยและเอเชีย-แปซิฟิก มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในครึ่งปีแรกของปี 2565 ตลาดของสินค้าตู้เย็นยังขยายตัว 18% เครื่องซักผ้าขยายตัว 22% และในปีนี้ แบรนด์เบโคในประเทศไทย
ตั้งเป้าว่าจะได้ส่วนแบ่งการตลาดถึง 5.3% โดยมีผลมาจากส่วนของตู้เย็น 2 doors top freezer 7.5% ตู้เย็น side-by-side และตู้เย็น combi 13.5% ในส่วนของตู้เย็น 2 doors top freezer ซึ่งนำเทคโนโลยี HarvestFresh มาใช้ จะช่วยให้มีส่วนแบ่งการตลาด 12% ภายในปีนี้
“เครื่องซักผ้าปีนี้มีการนำเทคโนโลยีเรือธง aquatech และ steamcure มาใช้ จึงตั้งเป้าว่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 9% ทั้งในส่วนของฝาหน้า และเครื่องซักผ้าที่มีเครื่องอบตัวเดียวกัน”
เพิ่มช่องทางการค้า
8 ปีที่เราดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ได้รับกระแสตอบรับที่ดีน่าพึงพอใจโดยผลิตภัณฑ์ที่เป็นหัวใจหลักของเราในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก คือ ตู้เย็น ซึ่งมียอดขายมากกว่า 40% รองลงมาจะเป็นเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้าตามลำดับ เราตั้งเป้าที่จะเพิ่มช่องทางการจำหน่ายมากขึ้นอีก 40% คือ มากกว่า 700 ร้าน อาศัยความสัมพันธ์ที่แข็งแรงของเรากับคู่ค้าทั้งปัจจุบันและคู่ค้าใหม่
“การค้าขายของบริษัทจะเน้นการส่งออกไปยังตลาดยุโรปถึง 80% และขายในประเทศอีก 20% และด้วยการเติบโตของคนชั้นกลาง
และการเปลี่ยนแปลงในหลาย ๆ ด้าน ทำให้ความต้องการการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น เห็นได้ชัดจากยอดการจับจ่ายทางออนไลน์สำหรับเครื่องใช้ในครัวเรือนเติบโตจาก 82 เป็น 100 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตถึง 18% เราจึงเร่งขยายช่องทางการค้าเพื่อผลักดันธุรกิจให้เติบโตมากยิ่งขึ้น”
ปั๊มยอด 2 เท่าใน 2 ปี
“เบโควางแผนจะเพิ่มการเติบโตทางธุรกิจ 2 เท่า ภายในปี 2024 ปัจจัยที่จะผลักดันไปสู่เป้าหมาย คือ การสร้างสรรค์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกสู่ตลาด
อาทิ เครื่องซักผ้าและเครื่องล้างจาน ที่ประหยัดพลังงานและประหยัดน้ำ รวมถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อการประกอบอาหาร ทั้งเตาไฟฟ้าที่มาพร้อมเครื่องดูดควันในตัว เครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่พร้อมเทคโนโลยี GoClean และตู้เย็น HarvestFresh ตู้เย็นขนาดใหญ่แบบบานคู่และแบบหลายประตู”
ซึ่งปัจจุบันลงทุนผลิตตู้เย็นระดับพรีเมี่ยมที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ ใช้งบประมาณ 130 ล้านบาท กำลังจะเปิดตัวที่โรงงานจังหวัดระยอง ซึ่งตู้เย็นระดับพรีเมี่ยมออกแบบตอบโจทย์ 3 ประเภท คือ 1) ตู้เย็นบานเปิดสะวิงช่องแช่แข็งด้านล่างเป็นแบบลิ้นชัก 2) ตู้เย็นบานเปิดสะวิงทั้งด้านบนและล่างพร้อมมือจับ 3) ตู้เย็นบานเปิดแบบฝรั่งเศสช่องแช่แข็งด้านล่างเป็นแบบลิ้นชัก
จุดเด่นคือ เทคโนโลยีจำลองการสังเคราะห์แสงอาทิตย์ 24 ชั่วโมง ด้วยแสง 3 สี ช่วยคงคุณค่าวิตามินของผักผลไม้และรักษาความสดได้ยาวนานขึ้น 30% หรือเรียกว่าเป็นการหลอกผักผลไม้ให้รู้สึกเหมือนยังอยู่ที่ต้น
โควิดเปลี่ยนผู้บริโภค
ปี 2022 (2565) ถือเป็นปีที่ยากลำบากสำหรับทุกคน จากผลกระทบโควิด-19 แต่เรายังคงทำยอดขายเติบโตเฉลี่ย 25% เพราะการจัดการระบบหลังบ้านได้ดี
สถานการณ์โควิดได้เปลี่ยนรูปแบบพฤติกรรมผู้บริโภคให้ซื้อสินค้าทางออนไลน์มากขึ้น โดยเฉพาะฐานลูกค้ากลุ่ม Gen Z กำลังเติบโต และจะกลายมาเป็นผู้ตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ ส่งผลให้ทางแบรนด์ต้องวิเคราะห์พฤติกรรมการเลือกซื้อที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาบนแพลตฟอร์มดิจิทัล เพื่อให้แน่ใจว่าเราสามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้มากที่สุด
“เราต้องการที่จะเติบโตไปพร้อมกับชื่อเสียงด้านคุณภาพที่ดี และเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว เป็นเครื่องใช้ภายในบ้านที่เป็นหนึ่งในใจของผู้บริโภคแถบเอเชีย-แปซิฟิกในอนาคต”