อาร์เอส มิวสิค-ยูนิเวอร์แซล มิวสิก ลุยสร้างบิ๊กอิมแพ็กต์ปั้นรายได้ 1,200 ล้านใน 3 ปี

RS
RS

อาร์เอส มิวสิค จับมือพาร์ตเนอร์ระดับโลก “ยูนิเวอร์แซล มิวสิค กรุ๊ป” สร้างบิ๊กอิมแพ็กต์วงการเพลง ลุยปั้นรายได้ 1,200 ล้านบาท ใน 3 ปี พร้อมตั้งเป้าปี 2566 กวาดรายได้กว่า 720 ล้านบาท

วันที่ 12 กรกฎาคม 2566 นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมเพลงในปัจจุบันแตกต่างจากในอดีตมาก เพราะเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีช่องทางออนไลน์ ซึ่งแพลตฟอร์มมิวสิก สตรีมมิง จะช่วยให้ธุรกิจเพลงมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ผ่านการฟังเพลงที่สามารถทำได้จากทั่วทุกมุมโลก และสามารถคาดการณ์รายได้ระยะยาวได้แม่นยำมากขึ้น

“ทำให้วันนี้ อาร์เอส มิวสิค ทรานส์ฟอร์มครั้งใหญ่ ด้วยเล็งเห็นว่าอุตสาหกรรมเพลงมีโอกาสการสร้างรายได้ในหลากหลายมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากช่องทางดิจิทัลที่เติบโตตามพฤติกรรมผู้บริโภค”

ซึ่งจากข้อมูลของสมาพันธ์ผู้ผลิตสิ่งบันทึกเสียงระหว่างประเทศ (IFPI) พบว่า ในปี 2565 รายได้จากมิวสิก สตรีมมิงทั่วโลกมีมากถึง 67% และมีอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปีกว่า 5% ในขณะที่ประเทศไทย ผู้ฟังใช้เวลาฟังเพลงผ่านระบบสตรีมมิงมีระยะเวลานานถึงวันละ 1.8 ชั่วโมง

โดยบริษัทตั้งเป้าผลิตเพลงใหม่กับศิลปินเดิมที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว พัฒนาศิลปินใหม่ และร่วมมือกับศิลปินภายนอก ในขณะเดียวกัน ก็มองหาโอกาสใหม่ ๆ เพื่อต่อยอดความแข็งแกร่งของธุรกิจร่วมกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ

ล่าสุดจับมือกับพาร์ตเนอร์ค่ายเพลงชั้นนำอันดับหนึ่งของโลก ‘ยูนิเวอร์แซล มิวสิก กรุ๊ป’ (Universal Music Group หรือ UMG) เพื่อเป็นการขยายโอกาสและเติมเต็มศักยภาพของ อาร์เอส มิวสิค แบบก้าวกระโดด

ทั้งนี้ เป็นการร่วมกันจัดตั้งกิจการร่วมค้า (Joint Venture) โดย ยูนิเวอร์แซล มิวสิก กรุ๊ป ใส่เงินลงทุน 1,600 ล้านบาท เพื่อร่วมบริหารลิขสิทธิ์เพลงของ อาร์เอสที่มีมากกว่า 13,000 เพลง โดยถือหุ้น 70%

โดยความร่วมมือนี้จะทำให้ผู้คนจากทั่วโลกเข้าถึงคอนเทนต์ด้านดนตรีของเราได้อย่างหลากหลายยิ่งขึ้น ผ่านช่องทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น YouTube, Facebook, Instagram, TikTok หรือแพลตฟอร์มสตรีมมิง ได้แก่ Spotify, Apple Music, JOOX และอื่น ๆ

ในขณะที่อาร์เอส มิวสิค จะบริหารลิขสิทธิ์เพลงภายในประเทศในช่องทางออฟไลน์ ทั้งร้านอาหาร ผับ บาร์ คาราโอเกะ การทำมิวสิก มาร์เก็ตติ้ง และการใช้งานรูปแบบอื่น ๆ อาทิ การจัดคอนเสิร์ต และโชว์บิซ

นายสุรชัยกล่าวเสริมว่า การเข้าลงทุนของยูนิเวอร์แซล มิวสิก กรุ๊ป ในครั้งนี้ จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับ อาร์เอส มิวสิค ทั้งในด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการสร้างรายได้ออนไลน์

“โดยคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้น 30-40% และมี Impressions เพิ่มขึ้น 15-20% จากแพลตฟอร์ม OTT ต่าง ๆ ผ่านการบริหารของ ยูนิเวอร์แซล มิวสิก”

และขยายช่องทางการเผยแพร่งานเพลงผ่านตลาดต่างประเทศและมีเครือข่ายที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นการสร้างโอกาสให้แก่ศิลปินในสังกัดและคอนเทนต์ของ อาร์เอส มิวสิค ในตลาดต่างประเทศ

รวมถึงใช้ทรัพยากรของ ยูนิเวอร์แซล มิวสิก ในการพัฒนาศิลปินและคอนเทนต์ของ อาร์เอส มิวสิค ผ่านการใช้เทคโนโลยี Data Analytics ที่ทันสมัยในการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค รวมถึงความร่วมมือในอนาคตเพื่อสร้างสรรค์คอนเทนต์ร่วมกับศิลปินของ ยูนิเวอร์แซล มิวสิก

นอกจากนั้น อาร์เอส มิวสิค ยังยกเครื่องปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ทั้งหมด เพื่อให้สอดคล้องกับการดำเนินงานภายใต้โมเดลธุรกิจใหม่ โดยแบ่งเป็น

1.Digital Monetization ผลิตผลงานเพลงทั้งจากศิลปินรุ่นใหม่และศิลปินระดับตำนานของอาร์เอส รวมถึงสร้างผลงานเพลงร่วมกับศิลปินชื่อดังจากภายนอก

2.Copyright Revenue การจัดเก็บและต่อยอดทรัพย์สินทางภูมิปัญญา (IP) ลิขสิทธิ์เพลง ของ อาร์เอส มิวสิค

3.Marketing Projects & Campaigns การทำมิวสิก มาร์เก็ตติ้ง หรือแคมเปญการตลาดต่าง ๆ กับคู่ค้า

4.Showbiz & Concerts การจัดกิจกรรม อีเวนต์ เฟสติวัล และคอนเสิร์ต

5.Talent Management การบริหารและดูแลศิลปิน

“สำหรับเป้ารายได้ในปี 2566 นี้ ตั้งไว้ที่ประมาณ 720 ล้านบาท”

ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินงานและรายได้เป็นไปตามแผนที่วางไว้  อาร์เอส มิวสิค จึงประกาศแต่งตั้งนางพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

ซึ่งนางพรพรรณเป็นผู้บริหารที่มีความรู้และความสามารถสูง ทั้งยังเข้าใจธุรกิจสื่อและบันเทิงของ อาร์เอส กรุ๊ป เป็นอย่างดี จึงเป็นกำลังสำคัญในการวางแผนกลยุทธ์ และทรานส์ฟอร์มธุรกิจเพลงให้แข็งแกร่ง โดดเด่น และสอดรับกับเป้าหมายในระยะยาว

รวมทั้งการนำธุรกิจเพลงภายใต้ อาร์เอส มิวสิค เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ และสร้างรายได้ให้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 1,200 ล้านบาท ภายใน 3 ปี

“โดยคาดว่ารายได้จากผลงานเพลงใหม่และการบริหารลิขสิทธิ์จะมีสัดส่วนมากที่สุดหรือประมาณ 40% ของรายได้ทั้งหมด” นายสุรชัยกล่าวปิดท้าย