“ถ้วยทอง” ผุดช็อปจับทัวริสต์ ลุยส่งออกแก้ปมยาหม่อง 2 พันล้านอิ่มตัว

ถ้วยทองพลิกกลยุทธ์เร่งโตก้าวกระโดดแก้ปมตลาดยาหม่อง 2 พันล้านอิ่มตัว ผุดช็อปเป็นครั้งแรก นำร่องโชว์ดีซีจับตลาดทัวริสต์จีน เล็งขยายสาขาตามทำเลท่องเที่ยวใจกลางเมือง จ่อลอนช์สินค้าใหม่ยาหม่องน้ำสเปรย์-ลูกกลิ้งเขย่าตลาด เล็งรีลอนช์คิดดี้บาล์ม ซุ่มพัฒนาสินค้าสูตรใหม่จูงใจ พร้อมเพิ่มความเข้มข้นออกบูทเจาะตลาดรัสเซีย-ตะวันออกกลาง

นายเมธัส ลีลารัศมี ผู้จัดการโรงงาน บริษัท ถ้วยทองโอสถ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาหม่องและยาหม่องน้ำตราถ้วยทอง เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาไทยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนจีนเป็นตลาดใหญ่มหาศาล บริษัทจึงได้ลงทุนเปิดช็อปถ้วยทองเป็นครั้งแรก นำร่องสาขาโชว์ดีซี ขนาดพื้นที่ 5×6 เมตร และจากนี้มีแผนจะขยายสาขาใหม่ ๆ เพิ่มเติมในทำเลที่เป็นจุดนักท่องเที่ยวในกรุงเทพฯที่มีทราฟฟิกหนาแน่น โดยสนใจเข้าไปเปิดในเทอร์มินอล 21 และบิ๊กซี ราชประสงค์ พื้นที่เฉลี่ยประมาณ 3×3 เมตร หรือ 4×3 เมตร ใช้งบฯลงทุนไม่ถึงล้านบาท

สอดคล้องกับแนวทางดังกล่าว วางแผนต่อเนื่องในปี 2561 จะรุกตลาดนักท่องเที่ยวและส่งออกไปต่างประเทศมากขึ้น อาทิ เพิ่มทีมดูแลตลาดทัวริสต์ เพื่อขยายช่องทางวางสินค้าตามจุดท่องเที่ยว, สร้างภาพลักษณ์แบรนด์และสร้างการรับรู้ผ่านบริษัททัวร์ โฆษณาผ่านสื่อในสนามบินและในเครื่องบิน ทั้งนี้ยังอยู่ระหว่างพัฒนาสินค้าสูตรใหม่เจาะนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนปี 2561 พร้อมปรับแพ็กเกจจิ้งให้สวยงาม เหมาะเป็นของฝากและออกบูทต่างประเทศมากขึ้น โดยแต่ละปีเตรียมงบฯการตลาดไว้ 60-70 ล้านบาท ทำการตลาดครบวงจร โดยปีนี้ได้โยกงบฯจากทีวีมาใช้ทำตลาดต่างประเทศ อาทิ ในฟิลิปปินส์ใช้สื่อวิทยุและกิจกรรมออนกราวนด์และค่าวางสินค้าในเชลฟ์ใช้งบฯ 15 ล้านบาท กัมพูชาใช้งบฯ 1-2 ล้านบาท เป็นต้น

ปีหน้ามีแผนออกบูทเพิ่มเติมในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และรัสเซีย ปัจจุบันยอดขายต่างประเทศมีสัดส่วน 5% ของรายได้รวม จำหน่ายผ่านตัวแทนใน 10 ประเทศทั่วโลก อาทิ สาธารณรัฐเช็ก ฮ่องกง ฮอลแลนด์ เยเมน กัมพูชา ลาว สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ที่เพิ่งเข้าไปทำตลาดจริงจังใน 2 ปีนี้ ล่าสุดเพิ่งเซ็นสัญญาตัวแทนจำหน่ายในอันดอร์รา ส่วนเมียนมายังเป็นลักษณะการขายผ่านค้าชายแดน ซึ่งบางประเทศได้ผลิตแพ็กเกจจิ้งเป็นภาษาท้องถิ่น อาทิ สาธารณรัฐเช็ก ฮ่องกง และฟิลิปปินส์

“เรายังโตได้ 5-10% แต่ถ้าจะให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดต้องโตจากตลาดต่างประเทศและการออกสินค้าใหม่ ถ้าอยู่ในประเทศอย่างเดียวก็ไปเรื่อย ๆ น่าจะลองไปต่างประเทศสร้างแบรนด์ติดตลาดโลก เราอยู่ในตลาดมา 67 ปี มีผลิตภัณฑ์ยาหม่องถ้วยทองเป็นสินค้าหลัก และครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ที่ผ่านมามีลูกค้าหลักเป็นคนไทย แต่ตลาดคนไทยค่อนข้างอิ่มตัวในแง่ของการบริโภคไม่ได้เพิ่มขึ้น คนรุ่นใหม่ยังใช้น้อย การกระจายสินค้าเข้าตลาดมีความครอบคลุมทุกช่องทางขายทั่วประเทศและผู้เล่นรายใหม่ที่เป็นรายใหญ่ ๆ ไม่ค่อยมี ส่วนใหญ่เป็นรายเล็กที่เข้ามา”

สำหรับตลาดในประเทศ นายเมธัสกล่าวว่า เตรียมจะลอนช์ผลิตภัณฑ์ยาหม่องน้ำในรูปแบบสเปรย์และลูกกลิ้งในเดือนกันยายนนี้ พร้อมรีลอนช์ผลิตภัณฑ์คิดดี้บาล์ม สำหรับเด็กในปี 2561 ซึ่งอยู่ระหว่างปรับปรุงแพ็กเกจจิ้งให้ทันสมัยมากขึ้น และมุ่งสร้างการรับรู้ในคนรุ่นใหม่มากขึ้นผ่านสื่อโซเซียล ซึ่งล่าสุดเพิ่งลอนช์เฟซบุ๊ก คาดว่าปีนี้จะมียอดขายแตะ 300 ล้านบาท โดยรายได้หลัก 85% มาจากยาหม่อง ยาเม็ดและน้ำ 10% ยาหม่องน้ำ 5% มีส่วนแบ่งตลาดกว่า 50% จากตลาดยาหม่อง 2,000 ล้านบาท