โรงพยาบาลเวชธานี ชูครบเครื่องดึงต่างประเทศ เพิ่มดีกรีเจาะคนไข้เวียดนาม

ดร.นพ.ตุลวรรธน์ พัชราภา
ดร.นพ.ตุลวรรธน์ พัชราภา

โรงพยาบาเวชธานี เปิดเกมรุกรับศักราชใหม่ เดินหน้าขยายตลาดธุรกิจสุขภาพสู่ซีแอลเอ็มวี ร่วมมือกับบริษัท VIET HEALTH เปิดสำนักงานตัวแทน ขยายฐานลูกค้าในเวียดนาม ชูมาตรฐาน JCI ศูนย์รักษาแบบครบวงจร หลากหลายโรค ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญประสบการณ์สูง ตั้งเป้าเติบโตเบาะ ๆ 20% เล็งหาพาร์ตเนอร์ใหม่ช่วยขยายตลาด เพิ่มสัดส่วนคนไข้ต่างประเทศเป็น 50%

ดร.นพ.ตุลวรรธน์ พัชราภา ผู้อำนวยการปฏิบัติการ โรงพยาบาลเวชธานี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคต ส่งผลให้ช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยกลายเป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ (Medical Tourism) สำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก

โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากกลุ่ม CLMV กลุ่มตะวันออกกลาง และจีน ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญ และ รพ.เวชธานีก็ถือเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำที่มีความพร้อมในการให้บริการดูแลรักษาผู้ป่วย ด้วยมาตรฐานสากล Joint Commission International (JCI) ซึ่งมีทีมแพทย์เฉพาะทางหลากหลายสาขา พร้อมด้วยเทคโนโลยีตรวจวินิจฉัยและรักษาที่ทันสมัย

ที่ผ่านมา เวชธานีมีผู้ป่วยชาวต่างชาติมาใช้บริการจำนวนมาก ทั้งกลุ่มตะวันออกกลาง กลุ่ม CLMV (กัมพูชา, ลาว, เมียนมา และเวียดนาม) จีน และแถบแอฟริกา โดยเฉพาะเวียดนามที่ปัจจุบันเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพและกำลังซื้อสูง จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ต่อหัวของประชากร และอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่เติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และส่งผลให้ชาวเวียดนามมีความต้องการด้านสุขภาพเพิ่มสูงขึ้น ทั้งจากกลุ่มวัยทำงาน และผู้สูงอายุที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว

จากข้อมูลในปี 2566 พบว่ามีจำนวนผู้ป่วยชาวเวียดนามเดินทางมารักษาที่เวชธานีมากถึง 4,000 ราย และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุก ๆ ปี ส่วนใหญ่จะเข้ามาพบแพทย์ด้วยเรื่องกระดูกและข้อ เป็นต้น

ดร.นพ.ตุลวรรธน์กล่าวว่า ล่าสุดเวชธานีจึงเล็งเห็นโอกาสในการขยายตลาดธุรกิจสุขภาพสู่ประเทศเวียดนาม จึงได้ร่วมมือกับบริษัท VIET HEALTH เปิดสำนักงานตัวแทน ที่นครโฮจิมินห์ เพื่อขยายฐานลูกค้าในประเทศเวียดนาม โดยสำนักงานตัวแทนนี้จะเป็นจุดประสานงานและส่งต่อคนไข้ที่ต้องการเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเวชธานี เบื้องต้นจะมีการสอบถามประวัติ และอาการคนไข้ผ่านทาง Telemedicine ก่อนที่เดินทางมารักษาที่ไทย ซึ่งตั้งเป้าว่าจะช่วยเพิ่มจำนวนลูกค้าชาวเวียดนามได้อีก 20%

ขณะเดียวกัน นอกจากการขยายตลาดที่ประเทศเวียดนามแล้ว ในอนาคตเวชธานีก็มีแผนจะขยายไปยังประเทศอื่น ๆ ที่มีศักยภาพเช่นเดียวกัน โดยจะเน้นมองหาพาร์ตเนอร์รายใหม่ ๆ ในต่างประเทศ เพื่อที่จะเข้ามาเสริมแกร่ง และสร้างการเติบโตให้กับตัวธุรกิจโรงพยาบาล โดยคาดว่าในอนาคตสัดส่วนคนไข้ต่างชาติจะเพิ่มขึ้นได้ถึง 50%

ทั้งนี้ ปัจจุบันนอกจากศูนย์รักษาโรคกระดูกแบบครบวงจร เวชธานียังมีศักยภาพการรักษาโรคต่าง ๆ อีกมากมาย เช่น VFC ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร ที่ให้การบริการแบบครบวงจร One Stop Service พร้อมทีมแพทย์มากประสบการณ์ และมีอัตราความสำเร็จมากกว่า 81% ศูนย์สมองและระบบประสาทที่ให้การรักษาผ่าตัดด้วยเทคโนโลยี Biplane DSA ในห้องผ่าตัดอัจฉริยะ (Hybrid OR) สำหรับโรคทางสมองที่มีความซับซ้อนในการรักษา เพื่อการผ่าตัดที่แม่นยำ ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูงสุด

รวมถึงศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู ซึ่งเวชธานีเป็นโรงพยาบาลที่มีหุ่นยนต์ช่วยกายภาพบำบัด เพื่อการฟื้นฟูผู้ป่วยกลุ่มหลอดเลือดสมอง และผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหว ศูนย์สุขภาพสตรี ซึ่งมีเทคโนโลยีการผ่าตัดไร้แผลสำหรับโรคทางนรีเวช ซึ่งช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้ไวขึ้น และศูนย์มะเร็ง ที่มีเทคโนโลยีการตรวจวินิจฉัยและรักษาที่ทันสมัย เพื่อการรักษาที่ตรงจุดและผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ยืนยาว เป็นต้น

“เวชธานีเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่มีแนวคิดการทำธุรกิจ ที่เน้นสร้างความยั่งยืนในระยะยาวมานานกว่า 10 ปี โดยไม่ได้มองตลาดในประเทศเพียงอย่างเดียว แต่ขยายให้กว้างขึ้นเป็นทั้งโลก ทำให้ตลาดลูกค้าชาวต่างชาติมีสัดส่วนที่เพิ่มสูงขึ้น และเกือบจะใกล้เคียงกับลูกค้าชาวไทย ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำคุณภาพระดับสูงในการให้บริการแก่ผู้รับบริการทั่วโลกที่เดินทางมารับการรักษาพยาบาลที่ รพ.เวชธานี ขณะเดียวกัน ก็พร้อมเดินหน้าสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็น Medical Hub อย่างแท้จริง” ดร.นพ.ตุลวรรธน์กล่าว