
สกอลล์ กางแผนรุกปี 2567 เร่งเดินหน้าขยายฐานลูกค้า-เพิ่มช่องทางการวางจำหน่ายทั้งไทย-เทศ ลุยเอเชีย-แปซิฟิก พร้อมสโลแกนใหม่ “The Most Aesthetic Comfort Shoes-รองเท้าสกอลล์ สวย ใส่สบาย” ที่ปรับลุกเพิ่มดีกรีแฟชั่น หวังขยายฐานลูกค้าอายุ 18-35 ปี เพิ่ม 20% ภายใน 3 ปี ตั้งเป้าสิ้นปีกวาดรายได้ 710 ล้านบาท เติบโต 6.2%
นางสาวจิณณา อัศวเหม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอช แอนด์ เอฟ ชูส์ (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดรองเท้าในไทยตั้งแต่ปี 2019-2023 ตลาดเติบโตติดลบอยู่ที่ประมาณ 1.2% เนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งในปี 2024 ตลาดเริ่มกลับมาฟื้นตัว โดยปัจจุบันตลาดรองเท้ามีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 98,000 ล้านบาท เติบโต 6%
ซึ่งในแง่ของการแข่งขันสำหรับตลาดรองเท้า โดยเฉพาะรองเท้าเพื่อสุขภาพ ในช่วงที่ผ่านมาก็มีผู้เล่นรายใหม่เข้ามาเพิ่มประมาณ 2-3 ราย ซึ่งก็ถือว่าทำให้ตลาดมีความคึกคักมากยิ่งขึ้น
สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2567 บริษัทยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจในกลุ่มคนรุ่นใหม่ตั้งแต่อายุ 18-35 ปี มากขึ้น ซึ่งจากเดิมกลุ่มลูกค้าหลักจะเป็นกลุ่มอายุ 35 ปีขึ้นไป และสร้างการเติบโตให้แบรนด์ด้วยการเสริมดีไซน์สไตล์แฟชั่นเข้ามาร่วมกับสุขภาพที่เป็นจุดแข็งเดิม
เนื่องมาจากเล็งเห็นว่าคนรุ่นใหม่เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพมากขึ้น แต่มักกลัวว่ารองเท้าสุขภาพจะมีดีไซน์ที่ไม่เข้ากับการใช้งาน เช่น การทำงานหรือการเที่ยวที่สบาย ๆ โดยล่าสุดเปิดตัวสโลแกนใหม่ “The Most Aesthetic Comfort Shoes รองเท้าสกอลล์ สวย ใส่สบาย” พร้อมนำเสนอรองเท้าคุณภาพสูง ภายใต้มาตรฐานวัสดุและดีไซน์จากอิตาลี ที่มีเทคโนโลยีที่เป็นจุดเด่นเรื่องความสบายของสกอลล์ อาทิ
เทคโนโลยี Biomechanics เสริมอุ้งเท้า เทคโนโลยี Bioprint ออกแบบเพื่อรองรับส่วนโค้งของสรีระเท้า เทคโนโลยี General Comfort ที่เบาสบาย รวมถึงเทคโนโลยี Massage ด้วยพื้นที่เป็นคลื่นหรือปุ่มเพื่อช่วยนวด และเทคโนโลยี Memory Cushion เพิ่มความสบาย รองรับแรงกระแทก เป็นต้น
นอกจากนี้ยังเตรียมลอนช์คอลเล็กชั่นใหม่อีกกว่า 90 แบบในปี 2024 แบ่งเป็นครึ่งปีแรก 45 แบบ และครึ่งปีหลังอีก 45 แบบ โดยมีสินค้าหลากหลายทั้งรองเท้าแตะ รองเท้าลำลอง รองเท้ารัดส้นแฟชั่น และรองเท้าผ้าใบ เป็นต้น โดยจะมาในรูปแบบดีไซน์ที่ทันสมัยและมีความแฟชั่นมากขึ้น เพื่อให้เข้ากับสไตล์การแต่งตัวของกลุ่มคนรุ่นใหม่
คาดว่าหลังจากที่ปรับลุกและลอนช์สินค้าใหม่ที่มีความแฟชั่นมากขึ้นจะทำให้ภายใน 3 ปี จะมีสัดส่วนลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่เพิ่มขึ้น 20% จากเดิมมีสัดส่วนอยู่ 10%
“มั่นใจว่าคอลเล็กชั่นใหม่ปี 2024 จะตอบโจทย์คนไทยทั้งในด้านความสวยและความใส่สบายเข้ากับทุกสไตล์ เพราะในปีนี้เรานำทัพด้วยคอลเล็กชั่นใหม่ทั้ง Italy Collection และเสริมทัพด้วย Thai Collection ที่เป็นรูปแบบใหม่มีความเป็น Aesthetic สวยงาม แบบลงตัวมากขึ้น และยังคงเอาใจคนรักสุขภาพเท้าเหมือนเดิม”
นอกจากแผนการดำเนินธุรกิจดังกล่าว ในปีนี้บริษัทก็มีแผนเดินหน้าขยายธุรกิจผ่านการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น รวมถึงมีแผนขยายตลาดไปในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกด้วยเช่นกัน โดยตั้งเป้าสิ้นปีกวาดรายได้ 710 ล้านบาท เติบโต 6.2% จากก่อนหน้ามีรายได้ 666 ล้านบาท เติบโต 5%
ทั้งนี้ ปัจจุบันรองเท้าสกอลล์มีวางจำหน่ายอยู่กว่า 90 ประเทศทั่วโลก โดยประเทศไทยมีจัดจำหน่ายผ่าน 3 ช่องทางหลัก ได้แก่ เคาน์เตอร์รีเทลกว่า 150 สาขาในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ ตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่กว่า 100 ราย และช่องทางอีคอมเมิร์ซอย่างเป็นทางการ 5 ช่องทาง ได้แก่ Shopee, Lazada, TikTok Shop, Central Online และเว็บไซต์ Scholl เป็นต้น
พร้อมกันนี้ บริษัทยังขับเคลื่อนการทำธุรกิจควบคู่ไปกับความยั่งยืน ผ่านการเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและดำเนินการผลิตโดยคำนึงถึงการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แบรนด์ยังคงเดินหน้ารังสรรค์เทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อสุขภาพเท้า พร้อมนำเสนอดีไซน์ที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ในฐานะแบรนด์รองเท้าชั้นนำของโลกจากอิตาลี
“แบรนด์ของเรายังคงยึดมั่นในคุณภาพควบคู่ไปกับการนำเสนอดีไซน์ทันสมัยจากประเทศอิตาลี มั่นใจว่าคอลเล็กชั่นใหม่ล่าสุดจะถูกใจลูกค้าสกอลล์ทุกเพศทุกวัย รวมไปถึงคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจทั้งเรื่องสไตล์และสุขภาพมากขึ้น”
- อาดิดาสอวดโฉมรองเท้าวิ่ง Supernova ซูเปอร์โฟมแบบใหม่เพิ่มความนุ่ม
- Nike ฟ้อง New Balance – Skechers ละเมิดสิทธิบัตรเทคโนโลยีผลิตรองเท้า