
“ลัคกี้ สุกี้” กางแผนปี 2568 ทุ่มฯงบ 300 ล้านบาท สปีดปูพรมสาขาเพิ่ม 16-20 สาขา แบ่งเป็นลัคกี้ สุกี้ 60% และ ลัคกี้ บาร์บีคิว 40% โดยจะเน้นทำเลกรุงเทพฯ และปริมณฑล-หัวเมืองหลัก หวังขยายฐานลูกค้าใหม่ พร้อมรักษาฐานลูกค้าเดิม ด้วยโปรโมชั่น-เมนูซีซั่นนอล ตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคปัจจุบันที่เน้นความคุ้มค่า คาดสิ้นปี 2568 รายได้เกิน 2,000 ล้านบาท เติบโต 100% ก่อนเตรียมเข้าตลาดหุ้นใน 3-5 ปี
นายวิรัตน์ โรจยารุณ กรรมการบริหาร ร่วมกับ นางสาวรสรินทร์ ติยะวราพรรณ กรรมการบริหาร บริษัท มิราเคิล แพลนเนท จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดสุกี้ในประเทศไทยมีการแข่งขันดุเดือดจากทั้งแบรนด์เก่า และแบรนด์ใหม่ ที่เข้ามาร่วมชิงส่วนแบ่งทางการตลาดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จึงส่งผลให้ตลาดสุกี้ในประเทศไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 23,000-25,000 ล้านบาท
โดยในปี 2567 ที่ผ่านมา “ลัคกี้ สุกี้” สามารถสร้างการเติบโตได้แบบก้าวกระโดด โดยมียอดขายอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท หรือเติบโต 148.66% เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่มีรายได้อยู่ที่ประมาณ 409 ล้านบาท (ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์) ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้าที่มีมาอย่างต่อเนื่อง
มุ่งรักษาฐานลูกค้าเก่า-ใหม่
สำหรับในปี 2568 บริษัทเน้นให้ความสำคัญกับการรักษาฐานลูกค้าเก่า และขยายฐานลูกค้าใหม่ไปพร้อมกัน ด้วยการจัดแคมเปญ THEMATIC Campaign “รักเธอไม่มีหมด” ที่จะพัฒนาการให้บริการ เพื่อสร้างประสบการณ์การรับประทานอาหารที่พิเศษกว่าเดิม
ควบคู่ไปกับการทำโปรโมชั่นเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับลูกค้า ทั้งการทำน้ำซุปซีซั่นนอลทุก ๆ 3 เดือน หรือโปรโมชั่นราคาในแต่ละเดือน และแต่ละไตรมาส เพื่อให้เกิดการกลับมาใช้บริการซ้ำ จากปกติความถี่ในการใช้บริการจะอยู่ที่ประมาณ 2-3 ครั้งต่อเดือน
“อย่างไรก็ตาม ด้วยปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจที่ซบเซา ประกอบกับเทรนด์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป จาก YOLO (YOU ONLY LIVE ONCE) ไปสู่ YONO (YOU ONLY NEED ONE) ถือเป็นทั้งความท้าทายและโอกาสทางธุรกิจ แม้จะอยู่ในสงครามแดงเดือด เพราะผู้บริโภคจะต้องการในสิ่งที่ดีที่สุด คุ้มค่าที่สุด ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของแบรนด์ ลัคกี้”
ปูพรมสาขา-ดันยอดโต 100%
นอกจากนี้ ในปี 2025 นี้ บริษัทตั้งเป้าที่จะขยายสาขาภายใต้แบรนด์ลัคกี้เพิ่มอีก 16-20 สาขา แบ่งเป็น ลัคกี้ สุกี้ 60% และลัคกี้ บาร์บีคิว 40% โดยวางงบฯการลงทุนไว้ประมาณ 300 ล้านบาท เน้นการเปิดในคอมมิวนิตี้มอลล์ และห้างสรรพสินค้า ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงหัวเมืองต่าง ๆ ที่มีศักยภาพ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่จะสามารถสร้างการรับรู้ในวงกว้างให้กับแบรนด์ได้ ช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างทั่วถึง ส่วนสแตนด์อะโลนขณะนี้ยังไม่มีการขยาย
ทั้งนี้ ปัจจุบันแบรนด์ลัคกี้ มีฐานสมาชิกอยู่ประมาณ 200,000 ราย เติบโตกว่า 100% และเป็นกลุ่มลูกค้าชาวไทยเป็นหลัก โดยเบื้องต้นวันที่ 27 มกราคม 2568 บริษัทเปิดสาขาใหม่ในแบรนด์ “ลัคกี้ บาร์บีคิว” สาขา แม็คโคร จรัญสนิทวงศ์ เป็นสาขาแรกของปี 2568 และในเดือนมีนาคม จะเปิดอีกหนึ่งสาขาที่จังหวัดสระบุรี
รวมถึงในไตรมาสที่ 2 มีแพลนที่จะเปิดในโซนพื้นที่ภาคตะวันออกเพิ่ม ขณะที่สาขาอื่น ๆ กำลังอยู่ระหว่างดูโลเกชั่น โดยสิ้นปี 2568 ตั้งเป้ายอดขายเกิน 2,000 ล้านบาท หรือเติบโต 100% และวางเป้าหมายระยะยาว 3-5 ปี เตรียมเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ทั้งนี้ ปัจจุบันลัคกี้ สุกี้ มีสาขาอยู่ทั้งหมด 15 สาขา ได้แก่ อ่อนนุช พลาซ่า คอมมิวนิตี้มอลล์, โลตัสบางนา-ตราด, ท็อปส์ สาธุประดิษฐ์ 49, โลตัสคลองหลวง, The ForRest พหลโยธิน-รังสิต, โลตัสบางกะปิ, Paradise Park, อิมพีเรียลเวิลด์สำโรง, Charn แจ้งวัฒนะ, โลตัสบางใหญ่, อยุธยาซิตี้พาร์ค, เดอะพร้อม ดินแดง, เอ็มที คูคต ไลฟ์สไตล์มอลล์, แม็คโคร จรัญสนิทวงศ์ และเดอะสเฟีย เพชรเกษม
ขณะที่ลัคกี้ บาร์บีคิว มีสาขาอยู่ทั้งหมด 6 สาขา ได้แก่ Paradise Park ศรีนครินทร์, โลตัสบางใหญ่, เอ็มที คูคต ไลฟ์สไตล์มอลล์, อยุธยา ซิตี้ พาร์ค, ท็อปส์ สาธุประดิษฐ์ 49 และสาขาล่าสุด แม็คโคร จรัญสนิทวงศ์