เทรนด์แฟชั่นวนครบรอบ ถึงคิว “ยีนส์ขาเดฟ” กลับมาฮิต

เทรนด์แฟชั่นวนครบรอบ ถึงคิว “ยีนส์ขาเดฟ” กลับมาฮิต
คอลัมน์ : Market Move

กางเกงยีนส์ทรงสกินนี่ หรือที่ชาวไทยเรียกติดปากว่า ขาเดฟ ซึ่งเป็นกางเกงยีนทรงแนบชิดติดขา แฟชั่นสุดฮิตในยุคมิลเลนเนียล(Millennial) (ปี 1981-1995) และแฟชั่นวายทูเค (Y2K) (ปี 1990 จนถึงช่วงต้นปี 2000) อาจกำลังกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งในปี 2025 นี้

สำนักข่าวซีเอ็นบีซี (CNBC) รายงานว่า ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เสื้อผ้าสไตล์สกินนี่หรือเสื้อผ้ารัดรูปทั้งกางเกงขายาวและกางเกงยีนส์กำลังกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งทั้งบนเวทีเดินแบบ, วิดีโอของอินฟลูเอนเซอร์ และเทรนด์การค้นหาบนกูเกิล

ปรากฏการณ์เหล่านี้สะท้อนว่า เสื้อผ้าสไตล์สกินนี่ อาจกลับมาเข้าไปอยู่ในตู้เสื้อผ้าของผู้คนอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้

“จานีน สติชเทอร์” (Janine Stichter) นักวิเคราะห์ธุรกิจค้าปลีก และกรรมการผู้จัดการของบีทีไอจี (BTIG) กล่าวว่า กระแสการกลับมาของกางเกงยีนส์ทรงสกินนี่ เริ่มเห็นชัดในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา โดยตามข้อมูลเกี่ยวกับกางเกงยีนส์สกินนี่ในกูเกิล เทรนด์ (Google Trend) เทรนด์ดังกล่าวพุ่งสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงวันที่ 12 มกราคม 2025 และได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ช่วงปลายเดือนมกราคม กระแสสกินนี่ยีนส์ ยังได้แรงหนุนจาก “อลิซ เอิร์ล” (Alix Earle) ดาราติ๊กต๊อกและอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังในกลุ่ม Gen Z ซึ่งเปิดตัวกางเกงยีนส์สกินนี่รุ่นเอ็กคลูซีฟกับเฟรม (Frame) แบรนด์กางเกงเดนิม

การคอลแลบส์นี้ส่งผลให้ 1 สัปดาห์ภายหลังจาก “อลิซ เอิร์ล” เปิดตัวกางเกงยีนส์ทรงสกินนี่ภายใต้ความร่วมมือกับแบรนด์เฟรม การค้นหาเกี่ยวกับสกินนี่ยีนส์เพิ่มขึ้นถึง 50% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า (YOY) แต่จำนวนการค้นหานี้ยังคงห่างจากจุดพีกในปี 2009 อยู่

ADVERTISMENT

“กระแสความนิยมที่พุ่งสูงนี้ ทำให้มีความเป็นได้สูงที่ผู้ค้าปลีกจะหันมาให้ความสนใจ ดึงสกินนี่ยีนส์เข้าสู่สต๊อกของตนเองมากขึ้น”

สอดคล้องกับ “เจนนิเฟอร์ ฟอยล์” (Jennifer Foyle) ประธานและเจ้าหน้าที่ฝ่ายครีเอทีฟของบริษัท อเมริกัน อีเกิ้ล (American Eagle) ที่ให้ความเห็นในการสัมภาษณ์กับซีเอ็นบีซีว่า ขณะนี้ในวงการแฟชั่นมีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเสื้อผ้าสไตล์สกินนี่สูงมาก เช่น การใส่รองเท้าบูตทรงสูง กับกางเกงยีนส์สกินนี่ ซึ่งน่าจะติดตลาดไปอีกระยะหนึ่ง

ADVERTISMENT

ความเคลื่อนไหวเหล่านี้แม้จะยังเป็นเพียงกลุ่มเล็ก ๆ แต่บริษัทเตรียมเข้าร่วมกระแสด้วยการส่งสินค้าเข้าทดสอบตลาด และหากผลตอบรับดีจะขยายสเกลให้ใหญ่ขึ้นต่อไป

อย่างไรก็ตาม การกลับมาของกระแสแฟชั่นสไตล์สกินนี่ในครั้งนี้ อาจมีความแตกต่างจากเมื่อยุควายทูเค หลังบรรดาดีไซเนอร์รายใหญ่มีการตีความสกินนี่ยีนส์แตกต่างออกไป โดยเห็นได้จากผลงานบนเวทีเดินแบบในช่วงที่ผ่านมา

โดย “ชอว์น เกรน คาร์เตอร์” (Shawn Grain Carter) ศาสตราจารย์ด้านการจัดการธุรกิจแฟชั่นจาก Fashion Institute of Technology in New York (FIT) กล่าวว่า จากผลงานบนเวทีเดินแบบของแบรนด์พราด้า (Prada), อิซาเบล มาร็องต์ (Isabel Marant) และท็อดส์ (Tod’s) นั้น ความแตกต่างของกางเกงทรงสกินนี่ในปัจจุบันกับในอดีตจะอยู่ที่เนื้อผ้า ซึ่งนอกจากผ้าสีพื้นแล้ว ยังมีการใช้ผ้าแพลด (Plaid) หรือผ้าลายสกอต รวมถึงผ้าคุณภาพสูงอื่น ๆ แบบเดียวกับเสื้อผ้าสั่งตัด และตอนนี้จะเริ่มเห็นคนดังบางคนสวมกางเกงยีนส์ทรงสกินนี่ แต่ไม่ได้เข้ารูปมากนัก ซึ่งแตกต่างจากกางเกงทรงเจกกิ้ง (jegging) ที่เห็นเมื่อช่วงระหว่างปี 2009 และ 2011

ในช่วงฤดูร้อนปี 2025 นี้ เสื้อผ้าสไตล์สกินนี่อาจเริ่มปรากฏในร้านต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น และกลับมาอย่างชัดเจนในช่วงใกล้ฤดูใบไม้ร่วงเมื่อผู้บริโภคต่างออกไปหาซื้อกางเกงและกางเกงยีนส์มากขึ้น

“ถือเป็นข่าวที่น่ายินดีสำหรับผู้ค้าปลีกเสื้อผ้าและรองเท้า เพราะว่าเมื่อใดก็ตามที่เทรนด์มีการเปลี่ยนแปลง ความต้องการเสื้อผ้าใหม่ ๆ ก็จะเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน”

ไปในทิศทางเดียวกับความเห็นของ “เจนนิเฟอร์ สติชเทอร์” ที่กล่าวว่า ทุกครั้งที่เทรนด์แฟชั่นเปลี่ยนนั้น จะส่งผลบวกต่อผู้ค้าปลีกแฟชั่นในภาพรวม เช่น รองเท้า เสื้อ ฯลฯ เพราะผู้บริโภคต้องเลือกซื้อรองเท้า และเสื้อให้เข้ากับกางเกงด้วย

พร้อมแนะนำว่า สำหรับผู้ที่เพิ่งซื้อกางเกงยีนส์ทรงหลวม ยังไม่ต้องกังวล เพราะวงการแฟชั่นในปัจจุบันนั้น ผู้บริโภคแต่ละกลุ่มอายุและสไตล์นั้นล้วนมีความแตกต่างกัน

ด้าน “มิเชลล์ แกสส์” (Michelle Gass) ซีอีโอของลีวายส์ (Levi’s) ยืนยันว่า ปัจจุบันผู้บริโภคสามารถใส่ยีนส์ได้ทุกทรงทั้งทรงหลวมธรรดา และหลวมมาก