ทีวีแก้โจทย์หินดึงคนดูคืนจอ “3-7-เวิร์คพอยท์” เพิ่มดีกรีบุกออนไลน์

ศึกนี้…ไม่มีถอย ฟรีทีวีช่องใหญ่ เร่งเครื่องพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ประกบออฟไลน์ ช่อง 7 เปิดเกมรุกส่งคอนเทนต์กระจายทุกช่องทาง รับพฤติกรรมคนดูเปลี่ยนช่อง 3 ยกเครื่องใหม่ ดึงทีมอินทัชเสริมแกร่งสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์ Mello ฟาก เวิร์คพอยท์ทีวีŽ ลุยพัฒนารายการแนวใหม่ จับพฤติกรรมคนดูยุคมัลติสกรีน

ปรับเกมรุกเกมรับกันอย่างคึกคัก สำหรับผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล โดยเฉพาะความเคลื่อนไหวของ 2 ช่องใหญ่ ช่อง 3-7 ที่ต้องเร่งปรับตัวเพื่อให้สอดรับสภาพตลาดที่เปลี่ยนไป และรองรับการแข่งขันจากน้องใหม่มาแรง เวิร์คพอยท์Ž ซึ่งสะท้อนจากรายงานเรตติ้งเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา จากการสำรวจของบริษัท นีลเส็น (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า ช่อง 7 มีเรตติ้ง 2.440 ช่อง 3 เรตติ้ง 1.825 และเวิร์คพอยท์ 1.486 ขณะที่ไพรมไทม์ (18.00-24.00 น.) เวิร์คพอยท์มีเรตติ้ง 2.764 ขึ้นเป็นเบอร์ 2 รองจากช่อง 7 ที่มีเรตติ้ง 4.404 และช่อง 3 มีเรตติ้ง 2.678 และจากพฤติกรรมคนดูที่เปลี่ยนไป โดยหันรับชมรายการย้อนหลังจากออนไลน์เพิ่มขึ้น ทั้งดูหน้าจอคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน แท็บเลต เป็นการเข้าสู่ยุคมัลติสกรีนเต็มรูปแบบ ทำให้คนดูหน้าจอทีวีลดลง อีกทั้งแนวโน้มการใช้เม็ดเงินโฆษณาของสินค้าที่ยิงตรงเข้าสู่สื่อดิจิทัลเพิ่มขึ้น

ช่อง 7 กระจายทุกแพลตฟอร์ม

นายพลากร สมสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด ผู้บริหารช่อง 7 กล่าวกับ ประชาชาติธุรกิจŽ ว่า วันนี้ช่อง 7 พยายามพาตัวเอง พาคอนเทนต์ของช่อง กระจายเข้าไปอยู่ในทุก ๆ แพลตฟอร์ม ทุก ๆ ช่องทางที่มีผู้ชม ทั้งเฟซบุ๊ก แอปพลิเคชั่นบนโมบาย มีการไลฟ์คอนเทนต์สดผ่านเฟซบุ๊กมากขึ้น เพราะพฤติกรรมคนดูเปลี่ยนไป และให้ความสำคัญกับสื่อออนไลน์มากขึ้น ซึ่งขณะนี้บริษัทก็มีช่องทางต่าง ๆ ที่สามารถรองรับพฤติกรรมคนดูทุกกลุ่ม

ปัจจุบันสื่อใหม่ที่ขยายตัวขึ้น แต่ที่ผ่านมาช่อง 7 ได้เริ่มทำเรื่องพวกนี้มานานแล้ว ภายใต้การบริหารงานของบริษัท บีบีทีวี นิวมีเดีย จำกัด ที่เปิดมาแล้วเกือบ 10 ปีแล้ว โดยสื่อใหม่ที่ช่อง 7 มีก็ค่อนข้างครบ เช่น บักกาบูทีวี แอปพลิเคชั่น สำหรับดูคอนเทนต์ย้อนหลังของ www.Ch7.com สำหรับประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ เป็นต้น

”เรามีทุกอย่างรออยู่แล้ว เพียงแต่ว่า วันนี้ช่องทางการรับชมคอนเทนต์ผ่านออนไลน์กำลังได้รับความนิยม เทคโนโลยีกำลังบูม สิ่งที่ช่อง 7 ต้องทำในขณะนี้ก็คือ การเสริมศักยภาพให้แก่ช่องมากขึ้น เพื่อรักษาฐานผู้ชมŽ”

นายพลากรย้ำว่า ช่อง 7 พยายามอยู่ทุกแพลตฟอร์ม เพราะความเคลื่อนไหวของทีวีถือเป็น Best Practice ที่ต้องศึกษากันทั่วโลก เนื่องจากพฤติกรรมคนเปลี่ยน บริษัทเองก็ต้องนำคอนเทนต์ไปหาผู้ชมในทุก ๆ แพลตฟอร์ม

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมา ช่อง 7 ได้เริ่มเพิ่มช่องทางใหม่ คือ ทดลอง Live Video ผ่านเฟซบุ๊กตั้งแต่กลางปี 2559 เริ่มต้นด้วยไลฟ์สดการบวงสรวงละคร และค่อย ๆ พัฒนาขึ้นมาไลฟ์สดรายการข่าว ละครหลังข่าว ซึ่งได้รับผลตอบรับดีจากผู้ชม อย่างไรก็ตาม แต่การไลฟ์สดของช่อง 7 ยังไม่สามารถจะไลฟ์สดออนไลน์ได้ทุกรายการ เพราะมีข้อจำกัดเรื่องของลิขสิทธิ์รายการ ปัจจุบันช่อง 7 มีแฟนเพจถึง 9 ล้านไลก์ และมีนิวมีเดีย (New Media) ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์ม เช่น DO 7 HDŽ แอปพลิเคชั่นโซเชียลทีวีอินเตอร์แอ็กทีฟ กับรายการทีวีกระตุ้นให้ผู้ชมมีส่วนร่วมระหว่างชม พร้อมสะสมแต้มแลกรับสิทธิพิเศษ, www.ch7.com สำหรับประชาสัมพันธ์กิจกรรม ตามด้วยบักกาบูทีวี แพลตฟอร์มออนไลน์รวมคอนเทนต์และรายการย้อนหลัง

ช่อง 3 ยกเครื่องบุกออนไลน์

นายประชุม มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) และรองประธานกรรมการ บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังปรับโครงสร้างใหม่เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ช่อง 3 ได้วางกลยุทธ์ใหม่ หนึ่งในกลยุทธ์หลัก คือ การสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ แบ่ง 2 ส่วน การเปิดตัวสื่อใหม่ เพื่อการสนับสนุนช่องทีวีดิจิทัล และต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ทรัพยากรที่มีอยู่ให้แก่บริษัท โดยเปิดตัว 2 แพลตฟอร์มออนไลน์ ได้แก่ Mello เพื่อการรับชมคอนเทนต์รีรัน และ Ch3Thailand สำหรับออกอากาศสดบนออนไลน์พร้อมทีวี รองรับพฤติกรรมคนดูรุ่นใหม่

โดยแต่งตั้งให้นางอาภัทรา ศถุงคารินกุล อดีตผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานเทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส เป็นหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคโนโลยีและสื่อใหม่ รับผิดชอบคุมด้านสื่อออนไลน์ทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ช่อง 3 ยังได้มีการปรับโครงสร้างผู้บริหารใหม่ ด้วยการแต่งตั้งนายนพดล เขมะโยธิน เป็นหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการลงทุน ตามด้วยแต่งตั้งนายภัทรศักดิ์ อุตตมะโยธิน เป็นหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคล และนางสาวน้ำทิพย์ พรมเชื้อ เป็นหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกลยุทธ์ โดยทีมผู้บริหารใหม่ดังกล่าวล้วนมาจากกลุ่มอินทัช อาจสะท้อนได้ว่า ช่อง 3 เตรียมบุกออนไลน์มากขึ้น

ลองของใหม่…จับพฤติกรรมคนดู

นายชลากรณ์ ปัญญาโฉม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานดิจิทัลทีวี บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารช่อง เวิร์คพอยท์ทีวีŽ กล่าวกับ ประชาชาติธุรกิจŽ ว่า พฤติกรรมคนดูตอนนี้รับชมคอนเทนต์ผ่านสื่อดิจิทัลเพิ่มขึ้น ซึ่งฟรีทีวีเองก็ต้องเพิ่มช่องทางออกอากาศผ่านออนไลน์ให้เหมาะสมกับกลุ่มผู้ชม โดยที่ผ่านมาบริษัทได้ออกอากาศคอนเทนต์บนทีวีควบคู่กับช่องทางออนไลน์อย่างชัดเจน ทั้งผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ ยูทูบ เว็บไซต์ และคนดูกลุ่มนี้ก็มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตาม ในแง่ของช่องทีวีนั้น ตอนนี้อาจจะยังไม่สามารถวัดผลได้อย่างชัดเจนว่ากลุ่มคนดูออนไลน์เป็นกลุ่มไหน

ขณะเดียวกันเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาได้ทดลองรายการใหม่ สถานีแข่งไลฟ์ (Battle TV)Ž รายการรูปแบบใหม่ ออกอากาศสดผ่านออนไลน์และทีวีคู่กันไป ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับรูปแบบรายการอยู่เรื่อย ๆ เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมคนดูที่เปลี่ยนเร็ว พัฒนาออนไลน์ประกบออฟไลน์

นางสาวพเยาว์ ธรรมธีรสุนทร หัวหน้าฝ่ายวางแผนกลยุทธ์สื่อทีวี บริษัท มายด์แชร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวกับ ประชาชาติธุรกิจŽ ว่า แม้สื่อทีวียังมีความสำคัญอันดับต้น ๆ ในการวางแผนสื่อโฆษณาของสินค้า แต่ปัจจุบันด้วยพฤติกรรมการรับสื่อผู้บริโภคเปลี่ยนไป เสพสื่อดิจิทัลมากขึ้น ก็ทำให้สินค้าหลาย ๆ กลุ่มเริ่มย้ายเม็ดเงินโฆษณาไปสื่อดิจิทัลอย่างชัดเจน ทำให้ช่องทีวีเองก็ต้องปรับตัว ด้วยการใช้สื่อดิจิทัลเข้ามาประกบควบคู่ไปกับสื่อออฟไลน์ โดยเฉพาะช่อง 3 และช่อง 7 ที่มีการปรับตัวด้านนี้อย่างต่อเนื่อง เช่น ช่อง 3 ที่อยู่ระหว่างการทดสอบ Mello และเตรียมจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคมนี้ ขณะที่ช่อง 7 ก็มีบักกาบู ซึ่งข้อดีของการมีแพลตฟอร์มเอง คือ สามารถต่อยอดทางธุรกิจได้คล่องตัวมากกว่าการนำคอนเทนต์ไปวางไว้ในแพลตฟอร์มอื่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันสินค้าเริ่มลงโฆษณาผ่านสื่อดิจิทัลมากขึ้น โดยเฉพาะเฟซบุ๊ก ยูทูบ ซึ่งสมาคมโฆษณาดิจิทัลประเทศไทย คาดว่าปีนี้เม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อดิจิทัลจะเพิ่มเป็น 11,774 ล้านบาท แต่สำหรับสื่อทีวีนั้น อาจจะยังวัดผลได้ไม่ชัดเจนสำหรับการขายโฆษณาบนช่องทางออนไลน์ อย่างไรก็ตาม คาดว่าเมื่อระบบวัดเรตติ้งแบบมัลติสกรีนของสมาคมวิจัยเพื่อพัฒนาสื่อ (ประเทศไทย) เสร็จสมบูรณ์ ทุกอย่างน่าจะชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะเม็ดเงินโฆษณาผ่านช่องทางนี้ก็น่าจะเพิ่มขึ้น