ตลาดยาโตไม่หยุด “สมูท-อี” ปิดดีลซื้อร้านขายยา “P&F” ชูกลยุทธ์เน้นคุณภาพ-การบริการ เดินหน้าทุ่ม2,000ล้าน ปูพรม120สาขาทั่วประเทศ พร้อมลุยรีโนเวท ปรับโลโก้ งัดบริการปรึกษาออนไลน์24ชม. มัดใจผู้บริโภค เชื่อมั่นโกยรายได้ 4ปีโตพร้อมเข้าตลาด
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
ภร.ดร.แสงสุข พิยานุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทสยามเฮลท์ กรุ๊ป จำกัด เภสัชกร ผู้ผลิตและปลุกปั้นเวชสำอางค์จากธรรมชาติ แบรนด์ สมูทอี เดนทิสเต้ เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดยาในไทยมูลค่า 1.77 แสนล้านบาท มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ5-6% ซึ่งมูลค่ายาจากตลาดร้านขายยามีสัดส่วนสูงถึง20%ของตลาดยาทั้งระบบ และมีแนวโน้มเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากเป็นหนึ่งทางเลือกที่ผู้บริโภคสามารถใช้บริการเมื่อมีอาการเจ็บป่วยเบื้องต้น ราคายาและสินค้าทางการแพทย์ถูกกว่าการใช้บริการในโรงพยาบาลเอกชน บวกกับเทรนด์การรักษาสุขภาพของคนรุ่นใหม่ที่นิยมเลือกซื้ออาหารเสริมเพิ่มขึ้น
เช่นเดียวกับธุรกิจร้านขายยาเริ่มมีการแข่งขันสูง โดยส่วนใหญ่จะแข่งขันในเรื่องของราคา ทั้งลดราคาสินค้า ลดการจ้างเภสัชกร ส่งผลให้คุณภาพในร้านขายยาลดลงตามด้วย
ล่าสุดบริษัทฯได้เข้าซื้อกิจการร้านขายยาP&F ร้านขายยาที่เปิดดำเนินการมากว่า35 ปี โดยจะเร่งปรับแบรนด์ดิ้งและโลโก้ใหม่ให้มีความน่าเชื่อถือ ทั้งการรับยา การบริการที่มีคุณภาพ ด้วยการให้ข้อมูลโดยเภสัชกรประจำร้านที่จะสามารถเลือกยาและอาหารเสริมให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคได้
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจจากนี้ไป เตรียมขยายการจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งจะเจาะจงผู้บริโภคเฉพาะกลุ่มมากขึ้น และยังลงทุนระบบสมาชิก (Membership) วางระบบคอมพิวเตอร์เพื่อบันทึกข้อมูลเบื้องต้นของลูกค้า ได้แก่ ประวัติการใช้ยา การแพ้ยา และโรคประจำตัว ซึ่งอนาคตจะเชื่อมต่อข้อมูลกับโรงพยาบาลและระบบประกันสุขภาพต่างๆ
รวมทั้งยังเตรียมเปิดคลินิกแพทย์ เพื่อให้ผู้บริโภคเข้ามาตรวจและได้รับคำปรึกษาโดยตรงจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ คาดว่าจะเปิดให้บริการในวันอังคารหรือวันศุกร์ เฉพาะบางสาขาเท่านั้น พร้อมเพิ่มบริการให้คำปรึกษาออนไลน์ 24 ชั่วโมง จากเภสัชกรโดยตรงด้วยเช่นกัน
พร้อมเตรียมงบลงทุน 2,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการขยายสาขาร้านขายยาS&P ทั่วประเทศ ในรูปแบบร้านสแตนอะโลน มีพื้นที่ 30-40ตารางเมตร โดยจะเน้นเปิดในทำเลที่มีศักยภาพ ได้แก่ ย่านธุรกิจ ชุมชน แหล่งสถานศึกษา แหล่งท่องเที่ยว ปัจจุบัน ร้านขายยา P&F มีทั้งหมด 75สาขา และมีเป้าหมายจะขยายสาขาให้ครบ 120สาขา ในระยะ 1-3 ปี และเตรียมแผนระยะยาวเปิดให้ครบทุกจังหวัด ทุกอำเภอเพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภค
อย่างไรก็ตาม จากการขยายสาขาให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เชื่อมั่นว่าจะสามารถเพิ่มสัดรายได้มากถึง10% จากรายได้รวมปัจจุบันอยู่ที่ 2.5% และภายใน4ปี คาดว่าจะสามารถนำกิจการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้