“ฟิลิปส์” ขนทัพสมาร์ทไลต์ย้ำเจ้าแสงสว่าง

ฟิลิปส์ “ซิกนิฟาย” ปรับกลยุทธ์มุ่งทำตลาดโคมไฟ หวังชิงดีมานด์โครงการอสังหาฯภาครัฐ-เอกชนผุดพรึ่บยันท้ายปี พร้อมลุยเพิ่มสินค้าสมาร์ทไลต์ฟูลไลน์อัพ 12 เอสเคยู ก่อนจับมือกูรูไอทีผลิตคอนเทนต์สร้างการรับรู้รับเทรนด์สมาร์ทโฮม-ไอโอทีมาแรง

นายเผดิมศักดิ์ รัตนเรืองศักดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ซิกนิฟาย คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าแสงสว่างแบรนด์ “ฟิลิปส์” ฉายภาพตลาดแสงสว่างในครึ่งหลังของปีนี้ว่า ตลาดรวมมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องประมาณ 5-10% สูงกว่าช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ที่เติบโตเฉลี่ย 3-5% ด้วยปัจจัยบวกหลายด้านทั้งโครงการค้าปลีกขนาดใหญ่ที่จ่อคิวก่อสร้างอยู่หลายแห่งเป็นตัวสร้างดีมานด์ทั้งส่วนที่ใช้ในโครงการและพื้นที่โดยรอบ ส่วนโครงการภาครัฐยังต้องจับตาความมั่นคงทางการเมือง หากราบรื่นอาจทำให้มีดีมานด์จากโครงการรัฐเข้ามาหนุนด้วย ซึ่งจะหนุนการเติบโตของเซ็กเมนต์โคมที่เป็นสัดส่วนหลักของตลาดแสงสว่าง

นอกจากนี้ในเซ็กเมนต์หลอดไฟยังมีเทรนด์ “สมาร์ทไลติ้ง” หรือหลอดไฟที่สามารถเชื่อมต่อ-สั่งงานผ่านอินเทอร์เน็ตได้เข้ามาสร้างดีมานด์และกระตุ้นการตัดสินใจเปลี่ยนสินค้าของผู้บริโภคในตลาดบน หลังหลายธุรกิจหันชูเทคโนโลยีไอโอที เอไอและสมาร์ทโฮม ที่สามารถสั่งงานด้วยเสียงได้เป็นจุดขาย รวมถึงราคาที่ขยับลดลงอย่างต่อเนื่อง คาดว่าปีนี้ราคาเฉลี่ยอาจลดลงอีก 20-30%

“แม้ปัจจุบันกระแสสมาร์ทไลต์ จะยังมีสัดส่วนไม่ถึง 1% ของตลาดรวมเพราะนิยมเฉพาะในกลุ่มผู้สนใจเทคโนโลยี แต่มีผู้ใช้มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยปีนี้คาดว่าจะเติบโตถึงเท่าตัว และในระยะยาวน่าจะเป็นตัวแปรที่ช่วยเพิ่มมูลค่าตลาดได้เนื่องจากราคาต่อชิ้นที่สูงกว่าอุปกรณ์แสงสว่างธรรมดา และผู้ผลิตสามารถใส่ฟังก์ชั่นใหม่ ๆ เพื่อเป็นจุดขายได้อีกมาก”

นายเผดิมศักดิ์แสดงความเห็นด้วยว่า ด้านการแข่งขันยังคงดุเดือดทั้งเซ็กเมนต์โคมไฟ หลอดไฟรวมถึงสมาร์ทไลต์ ที่มีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง พร้อมจุดขายทั้งด้านราคา เทคโนโลยีและอื่น ๆ

สำหรับบริษัทปีนี้จะปรับกลยุทธ์หันโฟกัสทำตลาดสร้างการรับรู้แบรนด์ในเซ็กเมนต์โคมไฟมากขึ้นจากเดิมที่เน้นขายสินค้าเพียงอย่างเดียวและหันไปทำตลาดในกลุ่มหลอดไฟเป็นหลัก พร้อมรับเทรนด์สมาร์ทไลต์ด้วยการเพิ่มความหลากหลายของสินค้าแบรนด์ “ฟิลิปส์ ฮิวส์” ให้ฟูลไลน์อัพจาก 7 เอสเคยูในปัจจุบันเป็น 12 เอสเคยูภายในสิ้นปี เพื่อรับดีมานด์พร้อมย้ำความเป็นผู้นำตลาดแสงสว่างและสมาร์ทไลติ้ง

ขณะเดียวกันจะเดินหน้าทำตลาดผ่านออนไลน์เข้มข้นขึ้น เน้นชูจุดขายด้านการทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มสมาร์ทโฮม ทั้งกูเกิล-อเมซอน และความสะดวกจากการใช้งาน ด้วยการดึงกูรูด้านเทคโนโลยีมาช่วยสร้างคอนเทนต์กระตุ้นการรับรู้ เช่น ทำรีวิว-สาธิตการใช้งานสินค้า เป็นต้น รวมถึงจับมือพันธมิตรในธุรกิจต่าง ๆ เพื่อร่วมกันทำตลาด เช่น เอไอเอส ที่พยายามสร้างตลาดโซลูชั่นสมาร์ทโฮม และเจบีแอล ที่มีสินค้ากลุ่มลำโพงอัจฉริยะ รวมถึงแบรนด์อื่น ๆ

โดยเซ็กเมนต์โคมไฟและสมาร์ทไลต์ยังถือเป็นบลูโอเชียนที่มีการแข่งขันต่ำกว่าเซ็กเมนต์หลอดไฟ และบริษัทมีข้อได้เปรียบด้านความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสะท้อนจากรางวัล Marketeer No.1 Brand Thailand Awards 2018-2019 ในกลุ่มผลิตภัณฑ์แสงสว่าง ซึ่งจะช่วยให้สามารถต่อยอดได้ง่ายขึ้น

แหล่งข่าวในวงการแสงสว่างระบุ ปี 2561 ที่ผ่านมาตลาดมีมูลค่า 2.6 หมื่นล้านบาท มีแนวโน้มอิ่มตัวช่วงปี 2561-2563 หลังจำนวนผู้เล่นเพิ่มขึ้นกว่า 100 ราย และอัตราใช้งานหลอดแอลอีดีของผู้บริโภค-หน่วยงานสูงขึ้นจากการตื่นตัวเรื่องการประหยัดไฟ