‘ทศ จิราธิวัฒน์’ ประกาศความพร้อม นำ’เซ็นทรัล’เข้าตลาดหุ้น

โดดเด้ง!! “เซ็นทรัล รีเทล” ยกพอร์ตเข้าตลาดจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ หวังระดมทุนต่อยอดธุรกิจค้าปลีกระดับโกลบอล

นายทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทฯมีความพร้อมที่จะนำ “เซ็นทรัลรีเทล” เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อต่อยอดความสำเร็จจากการบริหารงานตลอด 72 ปีที่ผ่านมา และการก้าวเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ฯครั้งนี้ ถือเป็นก้าวใหม่ของ “เซ็นทรัล รีเทล” และวงการค้าปลีกของไทย และสร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ในตลาดค้าปลีกระดับโลก

“อาณาจักรค้าปลีกของเซ็นทรัล รีเทล เริ่มจากธุรกิจครอบครัวเมื่อ 72 ปีก่อน โดยมุ่งมั่นนำเสนอประสบการณ์ช้อปปิ้งใหม่ ๆที่สามารถครอบคลุมทุกความต้องการของผู้บริโภคในฐานะผู้นำตลาดค้าปลีกและเทรนด์เซ็ตเตอร์ โดยเป็นผู้ริเริ่มการทำห้างสรรพสินค้าแห่งแรกของไทยไปจนถึงการทำธุรกิจค้าปลีกแบบ Multi-format ผ่านการเปิดร้านค้าเฉพาะทางและธุรกิจค้าปลีกหลายรูปแบบและปัจจุบันได้ต่อยอดจากช่องทางออฟไลน์สู่ Omnichannel เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุม”

 

สอดรับกับ นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล จำกัด กล่าวว่า ช่วง3 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้ปรับโครงสร้างธุรกิจ ใหม่ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจรวม ทั้งการขยายธุรกิจรูปแบบใหม่จากการมองเห็นโอกาสทางธุรกิจที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงไปของเทคโนโลยีและพฤติกรรมของลูกค้า เพื่อเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับเซ็นทรัลรีเทลในการเตรียมพร้อมเข้าตลาดหลักทรัพย์ ฯ ภายใต้วิสัยทัศน์และพันธกิจที่มุ่งหวังความเป็นเลิศในธุรกิจค้าปลีกที่สร้างความพึงพอใจและประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าผ่านช่องทางที่หลากหลายในทุกประเทศที่ดำเนินธุรกิจโดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ปัจจุบันเซ็นทรัล รีเทล แบ่งเป็นกลุ่มธุรกิจ 3 หลัก ได้แก่ กลุ่มแฟชั่น ฮาร์ดไลน์ และฟู้ด (Multi-category)ในหลากหลายรูปแบบ (Multi-format) ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งทั้งหมดนี้ได้พัฒนา ต่อยอดและเชื่อมทุกประสบการณ์ช้อปปิ้งของลูกค้าด้วยการสร้างประสบการณ์ใหม่ ที่เรียกว่า “Central Retail Experience”ด้วยการพัฒนาโครงสร้างองค์กร การสร้างธุรกิจใหม่ๆ โดยเฉพาะการพัฒนาแพลตฟอร์มสู่ Customer-Centric Omni channel Platform รวมถึงการพัฒนาธุรกิจหลักที่ได้กลายเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งของเซ็นทรัล รีเทล สู่ยุค New Central New Retailที่พร้อมเติมเต็มทุกประสบการณ์ของลูกค้ายุคดิจิทัล เพื่อให้มั่นใจว่าเซ็นทรัล จะเป็นศูนย์กลางสำหรับการใช้ชีวิตที่ดีที่สุดให้กับทุกคนภายใต้แนวคิด Central of Life

สำหรับ ธุรกิจค้าปลีกของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุม 51จังหวัดทั่วไทยด้วย ด้วยเครือข่ายห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อร้านขายสินค้าเฉพาะทาง ซูเปอร์มาร์เก็ต ฯลฯ รวม 1,979 แห่ง มีห้างสรรพสินค้า 9 แห่งใน 8 เมืองยุทธศาสตร์ของอิตาลีรวมทั้งมีไฮเปอร์มาร์เก็ต และร้านขายสินค้าเฉพาะทางรวม 125 แห่งใน 37 เมืองในเวียดนาม (ข้อมูลจำนวนร้านค้า ณ วันที่ 31 มีนาคม2562)

“ความแข็งแกร่งของเครือข่ายห้างร้านของกลุ่มเซ็นทรัลเป็นข้อได้เปรียบทางธุรกิจที่เสริมให้องค์กรเติบโตอย่างต่อเนื่อง เมื่อก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลกลุ่มเซ็นทรัลเปิดตัวเว็บไซต์ central.co.th เป็นจุดเริ่มต้นของการค้าออนไลน์และอีคอมเมิร์ซที่เปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคเข้าสู่การค้าปลีกยุคใหม่จากรากฐานที่มั่นคงของเครือข่ายห้างสรรพสินค้าและร้านค้าผนวกกับการขยายตัวสู่โลกดิจิทัลในทุกแบรนด์ค้าปลีกที่สำคัญที่กลายเป็นส่วนผสมที่ผลักดันให้การดำเนินธุรกิจบน Customer-Centric Omni channel Platform ของเซ็นทรัล รีเทลได้เชื่อมต่อและครอบคลุมโลกแห่งการช้อปปิ้งทั้งออนไลน์และออฟไลน์เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว เพื่อสร้างโอกาสในทางธุรกิจแบบไร้รอยต่อและสร้างประสบการณ์ในการช้อปปิ้งให้กับผู้บริโภคแบบไร้ขีดจำกัด ซึ่งสามารถสร้างรายได้รวม (Total Gross Revenue) 240,297 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา”

นายญนน์  ย้ำว่า รากฐานอันแข็งแกร่งของ เซ็นทรัล รีเทล นำไปสู่ความพร้อมในการต่อยอดและยกระดับศักยภาพการแข่งขันและเติบโตครั้งใหม่ ที่เรียกว่า Central Retail Economy ประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่1. Business Highlights ความโดดเด่นในฐานะผู้นำตลาดค้าปลีก 2.Thriving Ecosystem ระบบนิเวศที่เชื่อมโยงแต่ละโมเดลทางธุรกิจเข้าไว้ด้วยกันจนนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนของทุกผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และ 3. Clear Positioning to Win กลยุทธ์ที่ชัดเจนเพื่อนำไปสู่ความสำเร็จตามที่เราตั้งเป้าหมายไว้ ซึ่งทั้งหมดนี้ คือ จุดแข็งและกลยุทธ์การเติบโตของ เซ็นทรัล รีเทลที่จะมุ่งไปข้างหน้าสู่ New Central New Retail เพื่อการตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดค้าปลีกระดับภูมิภาคและก้าวต่อไปสู่การเป็นผู้นำในตลาดค้าปลีกระดับโลก ด้วยก้าวย่างก้าวแรกที่สำคัญกับแผนการเดินหน้าเข้าสู่การเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย