สมาร์ทโฮม-IOT เดือดหนัก พานาฯ-ชาร์ป เพิ่มดีกรีบุก

การที่ไทยจะได้เริ่มใช้เครือข่าย 5G ในปี 2563 นี้ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้เซ็กเมนต์สมาร์ทโฮมและไอโอทีในไทยคึกคักขึ้นแบบก้าวกระโดด เนื่องจากเครือข่ายใหม่นี้ช่วยให้อุปกรณ์ต่าง ๆ สามารถรับ-ส่งข้อมูลได้รวดเร็วและปริมาณมากขึ้น รวมถึงมีความเสถียรมากกว่า 4G หรือไวไฟ แต่ใช้พลังงานต่ำกว่า ซึ่งจะทำให้อุปกรณ์สมาร์ทโฮมมีความหลากหลาย และสามารถทำงานได้ราบรื่นยิ่งขึ้น ส่งผลให้แบรนด์สินค้า รวมไปถึงช่องทางขาย ต่างจับตามองความเคลื่อนไหวและหาจังหวะเริ่มทำตลาดอย่างใกล้ชิดมาตั้งแต่ปีที่แล้วเพียงช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ จึงมีแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าออกมาประกาศแผนรุกเซ็กเมนต์สมาร์ทโฮมแล้ว 2-3 ราย ไม่ว่าจะเป็นพานาโซนิค ชาร์ป และซัมซุง

“พานาโซนิค” ยักษ์เครื่องใช้ไฟฟ้าสัญชาติญี่ปุ่น เตรียมใช้สมาร์ทโฮม ในฐานะหนึ่งในไฮไลต์ของแผนขยายฐานลูกค้าองค์กรหรือบีทูบี ไปยังภาคอสังหาริมทรัพย์

“ไดโซะ อิโตะ” รองประธานกรรมการอาวุโส และผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดต่างประเทศ บริษัท พานาโซนิค คอร์ปอเรชั่น ไลฟ์ โซลูชั่น ผู้ผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าและโซลูชั่นที่อยู่อาศัย ฉายภาพถึงกระแสไอโอที-สมาร์ทโฮม ถือเป็นเซ็กเมนต์ที่กำลังมาแรง เพราะผู้บริโภคชาวไทยสนใจเทคโนโลยีนี้กันมาก เมื่อร่วมกับแนวโน้มการเติบโตของอสังหาฯระดับบน ทำให้มีดีมานด์จากผู้พัฒนาอสังหาฯ หรือดีเวลอปเปอร์สูงไม่แพ้ประเทศอื่น ๆ

“คนไทยมีไลฟ์สไตล์และดีมานด์ใกล้เคียงกับประเทศพัฒนาแล้ว ทำให้ต้องการสินค้าที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น”

เพื่อตอบโจทย์ดังกล่าวและเพิ่มรายได้จากฐานลูกค้าองค์กร ทำให้ปีนี้พานาโซนิคจะเพิ่มความเข้มข้นการทำตลาดบีทูบีมากขึ้น นำโดยหน่วยธุรกิจไลฟ์โซลูชั่น พร้อมผนึกบียูต่าง ๆ ในเครือ เช่น กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า, กล้องวงจรปิด และอื่น ๆ พร้อมขนทัพสินค้าและโนว์ฮาวจากญี่ปุ่น มาสร้างโซลูชั่นแบบครบวงจร ตอบโจทย์ดีเวลอปเปอร์ด้านโครงการที่อยู่อาศัย

โดยจะมีตั้งแต่การให้คำปรึกษา การก่อสร้างด้วยชิ้นส่วนสำเร็จรูป เช่น ห้องน้ำ ชุดครัว อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ อย่างสายไฟ, ปลั๊ก, ระบบแสงสว่าง-อากาศ และเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมไปถึงระบบสมาร์ทโฮม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชั่น รวมถึงการบำรุงรักษาหลังการขาย โดยจะเน้นการจับมือกับพาร์ตเนอร์ในไทยเพื่อพัฒนา ผลิตสินค้า และจัดจำหน่าย

ทั้งนี้ ได้เตรียมสินค้าที่จะเปิดตัวไว้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นสุขภัณฑ์อัจฉริยะที่สามารถตรวจสุขภาพผู้ใช้งานได้ ระบบไฟอัจฉริยะ และอื่น ๆ หลังจากล่าสุดได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ห้องอาบน้ำสำเร็จรูปที่สามารถสร้างเสร็จได้ใน 1 วันไปไม่นานมานี้

นอกจากนี้ยังเข้าไปจับมือกับ “บ๊อกซ์ 24” (BOX24) ผู้ให้บริการตู้ล็อกเกอร์อัจฉริยะ 24 ชั่วโมง สำหรับเป็นจุดรับส่งเสื้อผ้าสำหรับบริการซักอบรีดหรือเป็นจุดรับส่งพัสดุ เพื่อทดสอบสมาร์ทบอกซ์ตู้ล็อกเกอร์แบบไอโอที (IOT) ที่สามารถปลดล็อกด้วยแอปในสมาร์ทโฟนได้ โดยเริ่มติดตั้งและทดลองใช้งานแล้ว 30 จุดใน กทม. เน้นทำเลคอนโดฯ-หอพัก ก่อนจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือน เม.ย.ที่จะถึงนี้

ขณะที่ความเคลื่อนไหวจากยักษ์ใหญ่อีกรายอย่าง “ชาร์ป” นั้น ล่าสุดได้ประกาศเข้าซื้อหุ้นจำนวนหนึ่งของ “ไฮไฟ โอเรียนท์ ไทย” บริษัทสัญชาติไทยเจ้าของแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้า

“อะโคนาติก” ซึ่งมีไลน์อัพสินค้าทั้งทีวี, เครื่องเสียง, แอร์เคลื่อนที่ และอื่น ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนโนว์ฮาวสำหรับรุกตลาดสมาร์ทโฮมอีโคซิสเต็มแบบครบวงจร

“โรเบิร์ต อู๋” กรรมการผู้จัดการ ชาร์ป ไทย และชาร์ป มาเลเซีย อธิบายความเคลื่อนไหวครั้งนี้ว่า ไฮไฟ โอเรียนท์ ไทย มีความเชี่ยวชาญในตลาดประเทศไทยทั้งด้านข้อมูลอินไซต์ผู้บริโภค ช่องทางการจัดจำหน่ายและการทำการตลาดในท้องถิ่นต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยเสริมแกร่งให้กับการทำตลาดและการกระจายสินค้าสมาร์ทโฮมของชาร์ปได้ ส่วนบริษัทเองจะแชร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการพัฒนาสินค้าสมาร์ทโฮมให้กับไฮไฟ โอเรียนท์ ไทย เพื่อพัฒนาสินค้าสมาร์ทโฮมของตนเอง

ด้าน “อานนท์ บัวดี” ผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท ไฮไฟ โอเรียนท์ ไทย จำกัด ได้กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ก่อนหน้านี้ว่า บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาการทำตลาดสินค้าสมาร์ทโฮมเพื่อรับเทรนด์ 5G พร้อมกับปรับโพซิชั่นของแบรนด์ไปสู่ตลาดไฮเอนด์ โดยมีสินค้าอย่างสมาร์ททีวีระบบแอนดรอยด์เวอร์ชั่น 9 ซึ่งรองรับระบบเอไอที่มีราคาถูกกว่าอินเตอร์แบรนด์ 10-20% และการรับประกัน 3-5 ปี เป็นสินค้าหัวหอกในการบุกตลาด

และก่อนหน้านี้ 2 ยักษ์เครื่องใช้ไฟฟ้าเกาหลีอย่าง “ซัมซุง” และ “แอลจี” ต่างออกมาเคลื่อนไหวเพื่อรับกับเทรนด์นี้เช่นกัน

โดย “เฉลิมพงษ์ ดรงค์สุวรรณ” รองประธานธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้า บริษัทไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด ระบุว่า จะมุ่งทำตลาดสมาร์ทโฮมมากขึ้นอีก เนื่องจากตลาดมีทิศทางการเติบโตชัดเจนขึ้น ด้วยการนำ “สมาร์ทติงส์ ฮับ” อุปกรณ์เชื่อมต่อแพลตฟอร์มสมาร์ทโฮมของซัมซุงและของแบรนด์อื่น ๆ เข้าด้วยกัน วางขายในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ พร้อมกับชุดเซ็นเซอร์สำหรับทำโฮมออโตเมชั่น รวมถึงตู้เย็นรุ่นแฟมิลี่ฮับ โดยขณะนี้เริ่มประสานงานกับเชนร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อสร้างการรับรู้ให้กับผู้บริโภค

ในขณะที่ “แอลจี” เดินหน้าเพิ่มไลน์อัพสินค้าสมาร์ทโฮมของตนอย่างต่อเนื่อง อาทิ เครื่องฟอกอากาศ ทีวี ลำโพงไร้สาย เครื่องดูดฝุ่น เครื่องซักผ้า หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ฯลฯ พร้อมย้ำว่าบริษัทเป็นแบรนด์ที่มีไลน์อัพสินค้าสมาร์ทโฮมมากที่สุดในตลาดประเทศไทย

จัดเต็มกันทุกรายแบบนี้ วงการเครื่องใช้ไฟฟ้าสมาร์ทโฮมปี”63 สนุกแน่