“ส.ขอนแก่น” ส่งฟู้ดทรักบุก สปีดแฟรนไชส์ร้านอาหาร

“ส.ขอนแก่นฯ” เพิ่มน้ำหนักธุรกิจร้านอาหาร งัดแฟรนไชส์ ขยายสาขา “แซ่บคลาสสิก-ข้าวขาหมูยูนนาน” ตั้งเป้าสิ้นปีทะลุ 50 สาขา ส่งโมเดลใหม่ “ฟู้ดทรัก” บุกมหาวิทยาลัย-อาคารสำนักงาน เพิ่มน้ำหนักดีลิเวอรี่รับกระแสโควิด-19 มั่นใจ “มีตสแน็ก” อนาคตสดใส เร่งเครื่องขยายช่องทางขาย พร้อมรุกส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูปตีตลาดยุโรป-อเมริกา-เกาหลี-ญี่ปุ่น

นายจรัสภล รุจิราโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจอาหารพร้อมรับประทาน บริษัท ส.ขอนแก่นฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจจากนี้ไปว่า บริษัทจะเพิ่มน้ำหนักในการขยายธุรกิจร้านอาหาร ภายใต้แบรนด์ร้านแซ่บคลาสสิก อาหารไทยอีสาน และข้าวขาหมูยูนนาน ในรูปแบบการขายแฟรนไชส์เพิ่ม มีเป้าหมายขยายร้านอาหารทั้ง 2 แบรนด์ให้ครบ 50 สาขาภายในปีนี้ จากปัจจุบันแซ่บคลาสสิกมี 12 สาขา ข้าวขาหมูยูนนาน 17 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯและปริมณฑล โดยบริษัทจะซัพพอร์ตตั้งแต่การช่วยหาทำเล การฝึกอบรมทำเมนูต่าง ๆ เพื่อให้ร้านอาหารมีมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด

พร้อมกันนี้ก็จะเน้นขยายร้านในลักษณะของโมเดลฟู้ดทรัก หรือรถจำหน่ายอาหารเคลื่อนที่ขนาดเล็ก เข้าไปเปิดในพื้นที่ที่มีทราฟฟิกสูง เช่น มหาวิทยาลัย อาคารสำนักงานต่าง ๆ และชุมชนที่มีประชากรหนาแน่น เพื่อขยายฐานลูกค้าและตอบโจทย์ในแง่ของการเข้าถึงง่าย สะดวก รวดเร็ว รวมทั้งจะยังใช้โมเดลฟู้ดทรักในการซัพพอร์ตบริการดีลิเวอรี่ เพื่อให้ครอบคลุมและเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาพฤติกรรมบริโภคแต่ละพื้นที่และเก็บข้อมูล รวมทั้งอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อทำเป็นแฟรนไชส์ด้วย นอกจากนี้ บริษัทยังจะให้ความสำคัญกับช่องทางขายที่เป็นออนไลน์และดีลิเวอรี่มากขึ้น ด้วยการจับมือกับแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น ฟู้ดแพนด้า ไลน์แมน แกร็บ เป็นต้น

“ตอนนี้จากปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้น แม้จะทำให้ร้านอาหารไม่สามารถเปิดให้บริการในร้านได้ และมีบริการเฉพาะซื้อกลับบ้าน แต่อีกด้านหนึ่งก็ทำให้ยอดขายดีลิเวอรี่ของบริษัทเติบโตขึ้นค่อนข้างมาก ส่วนหนึ่งน่าจะมาจาก ส.ขอนแก่น มีผลิตภัณฑ์อาหารหลากหลายเมนู มีทั้งอาหารพื้นเมือง แหนม หมูหย็อง หมูยอ รวมถึงร้านอาหารไทยอีสานและข้าวขาหมู ราคาจับต้องได้”

นายจรัสภลกล่าวต่อไปว่า สำหรับธุรกิจหลัก ได้แก่ อาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์ เช่น อาหารพื้นเมือง ขนมขบเคี้ยว และอาหารแช่แข็งพร้อมทาน บริษัทมีแผนจะยกระดับอาหารพื้นเมืองให้เข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันมากขึ้น เริ่มจากการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น ทั้งแพ็กเกจจิ้ง ขนาดของสินค้า ให้เหมาะกับการใช้งานของผู้บริโภค ควบคู่กับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ อาหารพื้นเมือง อาหารขบเคี้ยว สินค้าของฝาก และอาหารพร้อมรับประทาน พร้อมพัฒนาสูตรใหม่ ๆ ให้ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ วัยทำงาน และเน้นเรื่องกระบวนการผลิตที่สะอาดตามหลักมาตรฐานสากล พร้อมทำแคมเปญส่งเสริมการตลาดผ่านช่องทางมาร์เก็ตเพลซเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค

นอกจากกลุ่มธุรกิจร้านอาหารแล้วก็จะเดินหน้าโฟกัสขนมขบเคี้ยว ภายใต้แบรนด์อองเทร่ และ ส.ขอนแก่น ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเนื้อหมูและไก่ หรือเรียกว่า meat snack มีผลิตภัณฑ์หลากหลาย เช่น หมูแผ่นกรอบ หมูปรุงรส และแคบหมู เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภค ตลอดจนการเพิ่มช่องทางจำหน่ายให้ครอบคลุม ทั้งโมเดิร์นเทรดที่เป็นช่องทางขายหลัก และเทรดิชั่นนอลเทรด ซึ่งมีบริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) เป็นตัวแทนจำหน่าย ซึ่งที่ผ่านมาผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ยังสามารถเติบโตได้ดี และมีผู้ประกอบการรายใหม่ ๆ เข้ามาในตลาดมากขึ้น

ด้านการส่งออกไปยังต่างประเทศ ปัจจุบันได้ส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูป อาทิ ลูกชิ้นปลาลูกชิ้นกุ้ง ผ่านตัวแทนจำหน่าย เพื่อกระจายสินค้าไปในร้านค้าปลีกในแต่ละประเทศ โดยประเทศที่ส่งออกหลัก ๆ ได้แก่ อเมริกา ญี่ปุ่น ฮ่องกง จีน ออสเตรเลีย และประเทศในกลุ่มประชาคมยุโรป เป็นต้น และต่อไปมีแผนนำแบรนด์ขนมขบเคี้ยว แบรนด์อองเทร่ เข้าไปเปิดตลาดในประเทศอีอีซี รวมถึงไต้หวัน เกาหลี ญี่ปุ่น เนื่องจากผู้บริโภคมีวัฒนธรรมการกินใกล้เคียงกับไทย เชื่อมั่นว่ารสชาติและคุณภาพของผลิตภัณฑ์จะสามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้

อย่างไรก็ตาม จากภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันไม่ค่อยดีนัก และปัจจัยลบต่าง ๆ ที่มีเข้ามากระทบอย่างต่อเนื่อง บริษัทมีนโยบายที่จะกระจายและลดความเสี่ยงทางธุรกิจ โดยจะพยายามบาลานซ์ผลิตภัณฑ์ให้มากขึ้น โดยจะไม่เน้นหรือให้น้ำหนักกับการผลิตผลิตภัณฑ์จากหมูหรือไก่เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง จากเดิมที่เน้นผลิตภัณฑ์จากหมูก็จะหันมาให้น้ำหนักกับผลิตภัณฑ์จากไก่เพิ่มขึ้น เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงในเรื่องของต้นทุน เนื่องจากบางปีราคาหมูจะค่อนข้างสูง ทั้งนี้ เพื่อรักษาระดับการเติบโตของบริษัทให้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาที่มีรายได้รวม 2,865 ล้านบาท หรือเติบโตเพิ่มขึ้น 73 ล้านบาท