องค์การเภสัชฯ เพิ่มสำรองฟาวิพิราเวียร์ รับนโยบายให้ยาผู้ป่วยโควิดเร็วขึ้น

ยาฟาวิพิราเวียร์

องค์การเภสัชกรรม เดินหน้าปรับแผนเพิ่มการสำรองฟาวิพิราเวียร์ ส.ค.-ก.ย. 120 ล้านเม็ด ต.ค.-ธ.ค. 300 ล้านเม็ด รับลูกมาตรการ สธ. ให้ยาผู้ติดเชื้อโควิดเร็วขึ้น สกัดป่วยหนัก

วันที่ 9 สิงหาคม 2564 นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) เปิดเผยว่า  ขณะนี้องค์การฯได้เร่งปรับแผนการสำรองยาฟาวิพิราเวียร์มากขึ้น เพื่อรองรับการปรับเกณฑ์แนวทางการรักษาใหม่โดยหารจ่ายยาให้ผู้ป่วยโควิดเร็วขึ้น ได้อย่างเพียงพอและต่อเนื่อง ทั้งนี้ การสำรองจะแบ่งอกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ยาที่องค์การฯผลิตเอง และยาที่จัดหาจากต่างประเทศ 

ฟาวิพิราเวียร์ส่อขาดซ้ำรอยวัคซีน จี้เปิดโรงพยาบาลนำเข้า-จ้างผลิต

โดยในเดือนสิงหาคม-กันยายน จะมียาฟาวิพิราเวียร์สำรองสูงถึง 120 ล้านเม็ด  ส่วนเดือนตุลาคม-ธันวาคม ได้เพิ่มการสำรองเฉลี่ยเดือนละ 100 ล้านเม็ด รวมทั้งสิ้น 300 ล้านเม็ด 

เบื้องต้น องค์การเภสัชฯ จะติดตามและประเมินสถานการณ์ความต้องการใช้อย่างใกล้ชิด เพื่อปรับแผนการสำรองให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งจำนวนยาทั้งหมดในข้างต้นจะมีการทยอยผลิตเองและจัดหาเข้ามาสำรองอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ในเดือนสิงหาคมได้จัดหายาแรมเดซิเวีย (Remdesivir) เป็น 2 แสนขวด และจะพิจารณาจัดหาเพิ่มอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เพียงพอตามเกณฑ์การรักษาใหม่

โดยยาเรมเดซิเวียร์นั้น แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะพิจารณาฉีดให้กับผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด ที่เป็นหญิงตั้งครรภ์ ผู้มีปัญหาในการดูดซึมยา ผู้ป่วยที่มีอาการปอดบวมอย่างรุนแรง  ผู้ป่วยที่ไม่สามารถใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ได้

ทั้งนี้ ยาฟาวิพิราเวียร์ทั้งหมดจะมีจัดสรรให้กับหน่วยบริการหรือโรงพยาบาลแม่ข่ายต่างๆ ตามการบริหารจัดการของศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข (PHEOC) โดยกลุ่มภารกิจสำรองเวชภัณฑ์และส่งกำลังบำรุง ผ่านระบบการบริหารคลังสินค้า  หรือ VMI  (Vender Management Inventory) ขององค์การเภสัชกรรม และองค์การฯเป็นผู้ดำเนินการจัดส่งกระจายตามการจัดสรรให้กับหน่วยบริการแม่ข่ายในแต่ละพื้นที่  ซึ่งหลังจากนั้น หน่วยงานแม่ข่ายจะทำการบริหารจัดการและกระจายให้แก่หน่วยบริการลูกข่ายในแต่ละพื้นที่ต่อไป