ช่อง 5 โต้ดึงท็อปนิวส์ผลิตข่าว แค่ ทีมกนก-ธีระ-สันติสุข เสนอแผนงาน

ช่องห้ายันไม่ได้ดีลท็อปนิวส์

ช่อง 5 ปฏิเสธข่าวท็อปนิวส์ผลิตข่าว กรรมการผู้อำนวยการใหญ่เผย แค่ ทีมกนก-ธีระ-สันติสุข เสนอแผนงาน คาดรู้ผล พ.ย.นี้

วันที่ 30 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วง 1-2 วันมานี้มีกระแสข่าวว่า ธุรกิจสื่อกลุ่มหนึ่งติดต่อขอร่วมผลิตรายงานการข่าวให้สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก หรือ ททบ. 5 เอชดี 1 ตั้งแต่วันจันทร์ถึงศุกร์ จำนวน 4 ช่วง รวมวันละ 8 ชั่วโมง

โดยมีการระบุด้วยว่า ทีมข่าวช่อง 5 ยังทำหน้าที่กำหนดทิศทางเหมือนเดิม เพียงแต่ “ผู้ดำเนินรายการ” และ “โปรดิวเซอร์” จะเป็นของธุรกิจสื่อดังกล่าว ซึ่งมีความสามารถในการขายโฆษณาให้กับช่อง 5 ด้วย

หลังเพจเฟซบุ๊ก IZocial รายงานข้อมูลดังกล่าว มีผู้ใช้เฟซบุ๊กบางส่วนแสดงความเห็นว่า กลุ่มธุรกิจสื่อที่ถูกอ้างถึงคือ สำนักข่าวท็อปนิวส์ ที่ก่อตั้งโดย นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ผู้ก่อตั้งสถาบันทิศทางไทย

ล่าสุด “มติชนออนไลน์” สัมภาษณ์ พล.ท.รังษี กิติญาณทรัพย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ในประเด็นนี้ ซึ่ง พล.ท.รังษี ยืนยันว่า ที่คุยกันเรื่องแผนงานดังกล่าว ไม่ได้เป็นของช่องท็อปนิวส์

“ไม่ใช่ช่องท็อปนิวส์ เป็นทีมของคุณกนก คุณสันติสุข และคุณธีระ” พลโทรังษีกล่าวและว่า การนำเสนอแผนดังกล่าวถือเป็นเรื่องปกติ ที่ทุกช่วงใกล้สิ้นปี จะมีผู้ผลิตรายการต่าง ๆ ติดต่อมา โดยกว่าจะรู้ผลว่าจะร่วมมือกับผู้จัดรายใดคาดว่าเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้

“ผมก็จะเน้นในเรื่องผลประโยชน์ของสถานีเป็นหลัก กับประชาชนว่าจะได้รับข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์ ตอนนี้เป็นขั้นตอนตรงนี้เท่านั้น เพราะว่าเรามีเวลาเหลืออีกประมาณ 3-4 เดือน”

“ได้คุยกับทางทีมงานของเขา ว่านโยบายผม หนึ่งจะต้องไม่สร้างความแตกแยก สองผมต้องการข่าวที่เป็นข้อเท็จจริง ให้ความรู้ประชาชน แล้วก็อย่าชี้ว่าใครถูก ใครผิด คือเอาข้อมูล ข้อเท็จจริงให้ประชาชนทราบ แล้วประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน เพราะวันนี้คุณจะทำไอโออะไรมันไม่มีผลหรอก เพราะว่าโซเชียลมีเดีย มันควบคู่กับทีวี คนที่เอาข้อมูลที่ไม่จริงมาออก ฆ่าตัวตายชัด ๆ นะครับ”

“นโยบายของ ททบ.5 คือผมต้องการเอาข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และข้อมูลที่จริงเพื่อที่จะให้ประชาชนได้รับรู้ข้อมูล แล้วจะได้รู้ว่าตัวเองจะอยู่ยังไงกับสภาวะวิกฤตแบบนี้ นี่คือความตั้งใจและปณิธานของผมในยุคที่ผมเป็นผู้คุมช่อง 5 ตอนนี้ ผมจะไม่เอาข่าวที่ไม่จริงมาให้ประชาชนเสพ เพราะผมถือว่าผิดจรรยาบรรณของสื่อ ซึ่งวันนี้ผมก็เป็นสื่อเหมือนกัน”

ผู้บริหารช่อง 5 กล่าวปิดท้ายด้วยว่า หากเจรจาสำเร็จจะมีการแถลงข่าวแน่นอน เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องอ่อนไหวสำหรับวงการ

“แต่ผมคิดว่าคนเรานี่ ถ้าเขาผิดพลาด หรือเคยผิดพลาด หรือว่าไม่ถูกใจประชาชน ไม่ว่าจะส่วนใดส่วนหนึ่ง แต่ถ้าเขาปรับตัวแล้วมาเป็นประโยชน์กับวงการสื่อ ผมว่าน่าจะได้รับการยกย่อง”