ธุรกิจรีสตาร์ตรับเปิดประเทศ กระตุกเศรษฐกิจไตรมาสสุดท้าย

ธุรกิจเด้งรับเปิดประเทศเฟส 2 ท่องเที่ยว-ห้าง-ร้านอาหาร ประกาศพร้อมลุย ชี้ปัจจัยสำคัญช่วยฟื้นเศรษฐกิจไตรมาสสุดท้าย ลั่นเข้มมาตรการป้องกัน-สู้โควิด ส่วนโรงหนังยังลุ้น ศบค.ไฟเขียวคลายล็อก สมาคมแอตต้า จับเข่าคุย “รมต.พิพัฒน์” เร่งผู้ประกอบการทำมาตรฐาน SHA+ เตรียมความพร้อมรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ หอการค้า “เพชรบุรี-ประจวบฯ” เร่งผนึกกำลังรัฐ-เอกชน ลุยฉีด
วัคซีนเพิ่ม มั่นใจไฮซีซั่นปลายปีนี้คึกคัก

หลังการขับเคลื่อนแผนเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ประเดิมด้วยโครงการนำร่อง ภูเก็ตแซนด์บอกซ์ ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ตัดริบบิ้นไปเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา

โดยในช่วงตลอดเวลากว่า 2 เดือนที่ผ่านมา อาจจะกล่าวได้ว่าการเริ่มต้นโครงการดังกล่าวประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง แต่อีกด้านหนึ่งก็ถือเป็นการทดลองเพื่อจะนำข้อบกพร่องต่าง ๆ ไปปรับปรุงแก้ไขการเปิดประเทศในเฟสต่อ ๆ ไปให้ดีขึ้น

และวันที่ 1 ตุลาคมนี้จะก้าวเข้าสู่แผนการเปิดประเทศในเฟส 2 ในอีก 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และเชียงใหม่ นอกจากนี้รัฐบาลยังวางแผนกระตุ้นให้คนไทยเดินทางเที่ยวในประเทศผ่านโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ระยะที่ 3 คาดว่าจะสามารถเปิดลงทะเบียนภายในกันยายนนี้ เพื่อรองรับซีซั่นของฤดูการท่องเที่ยวไทย

ห้างเข้มมาตรการรับ 1 ตุลาฯ

นายอมร อมรกุล ผู้จัดการใหญ่สายปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาในประเทศจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยปลุกกำลังซื้อในประเทศในช่วงโค้งท้ายให้คึกคักขึ้น ซึ่งลูกค้าหลักของห้างหรือศูนย์การค้าในกรุงเทพฯ จะเป็นกลุ่มชาวต่างชาติ และเนื่องจากกรุงเทพฯเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก และเป็นแหล่งรวมนักธุรกิจต่างชาติ

การเปิดประเทศในเฟส 2 นี้ หากมีชาวต่างชาติเข้ามาเป็นจำนวนมากก็จะเป็นการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม การเปิดประเทศนี้ก็จะต้องมีการลาบานซ์ระหว่างการฟื้นเศรษฐกิจ และด้านสาธารณสุขควบคู่กันไป เพื่อให้เกิดผลกระทบตามมาจนต้องล็อกดาวน์อีกระลอก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างมหาศาล

สำหรับเดอะมอลล์เอง ทั้งในส่วนของศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า มีความพร้อมเต็มที่ในการเปิดให้บริการ ภายใต้มาตรการที่เข้มงวด ตามไกด์ไลน์ข้อปฏิบัติของกรมอนามัย และข้อกำหนดของกรุงเทพมหานครอย่างเคร่งครัด ทั้งในเรื่องความสะอาด การจัดพื้นที่นั่งร้านอาหารตามเกณฑ์ COVID free setting มากขึ้นกว่าที่กำหนด รวมถึงพนักงานก็จะต้องได้รับวัคซีนและมีการตรวจโควิด ขณะที่ผู้ใช้บริการก็จะมีการคัดกรองความเสี่ยงก่อนเข้าร้านด้วยแพลตฟอร์ม “ไทยเซฟไทย” หรือแอปพลิเคชั่นอื่นที่ทางการกำหนด

นอกจากนี้ เดอะมอลล์ยังได้พัฒนาแบบประเมินความเสี่ยงเข้ามาใช้ในศูนย์สำหรับผู้ประกอบการภายในแต่ละศูนย์บนมาตรฐานของไทยเซฟไทย เพื่อประเมินความพร้อม เป็นการรีเช็กความปลอดภัยอีกระลอก

ขณะที่นายสมพล ตรีภพนารถ กรรมการผู้จัดการธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) กล่าวในเรื่องเดียวกันนี้ว่า การเปิดประเทศในเฟส 2 นี้ จะทำให้ศูนย์การค้ากลับมาเปิดบริการได้เกือบครบทุกอย่าง และคาดว่าจะทำให้บรรยากาศมีความคึกคักมากขึ้น และจะเป็นปัจจัยที่ช่วยให้เศรษฐกิจค่อย ๆ ฟื้นตัว เช่นเดียวกับโครงการภูเก็ตแซนด์บอกซ์ อย่างไรก็ตาม ศูนย์การค้าทุกแห่งก็ได้มีการเตรียมความพร้อม ภายใต้เงื่อนไขของกรมอนามัยและสมาคมค้าปลีกไทยอย่างเคร่งครัด

นอกจากนี้ หาก ศบค.อนุญาตให้โรงภาพยนตร์ และการคลายล็อกจังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม 5 จังหวัด รวมถึงการเปิดเงื่อนไขให้ต่างชาติสามารถเข้ามาในกรุงเทพฯได้ในช่วงปลายปี (ภายใต้มาตรการที่เข้มงวด) ก็จะยิ่งทำให้ภาพรวมจะยิ่งคึกคักมากยิ่งขึ้น และโดยส่วนตัวมองว่า การกระจายฉีดวัคซีนที่เริ่มครอบคลุมมากขึ้น รวมถึงแผนการนำเข้าวัคซีนในการฉีดกลุ่มนักเรียนเพื่อเตรียมจะเปิดภาคเรียน ถือเป็นสัญญาณบวกที่จะทำให้สถานการณ์ค้าปลีกรวมถึงเศรษฐกิจของประเทศในไตรมาส 4 จะค่อย ๆ ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ร้านอาหารเด้งรับพร้อมหน้า

นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย กล่าวในเรื่องนี้ว่า สมาชิกของสมาคมภัตตาคารไทยพร้อมจะปฏิบัติตามข้อบังคับของกรมอนามัยและประกาศของกรุงเทพมหานคร และหวังว่าการกลับมาเปิดให้บริการได้มากขึ้นหรือเต็มรูปแบบ จะทำให้ธุรกิจร้านอาหารค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้นมา

รวมทั้งได้มีการเตรียมแผนการฉีดวัคซีนให้แรงงานของกลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหารทั้งไทยและต่างชาติ รวมประมาณ 1 หมื่นร้านค้า หรือประมาณ 1 แสนคน ภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดประเทศในเฟส 2

นอกจากนี้ สมาคมยังได้ยื่นข้อเสนอต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อลดค่าใช้จ่ายแก่ผู้ประกอบการ คือ ให้ร้านอาหารสามารถนำบิลค่าใช้จ่ายจากการซื้อชุดตรวจ ATK สำหรับพนักงาน มาใช้ลดหย่อนภาษีได้ 1.5 เท่า, การเติมเงินเข้าแอปพลิเคชั่นเป๋าตังเพิ่ม สำหรับร้านค้า-ประชาชนในการจัดซื้อ ATK ผ่านโครงการคนละครึ่ง และการขอให้ปลดล็อกช่องทางการจำหน่าย ATK จากเดิมที่อนุญาตเฉพาะร้านขายยา และขยายไปยังร้านค้าโมเดิร์นเทรดทั่วไปได้

ขณะที่นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านอาหารญี่ปุ่น เซ็น, ร้านปิ้งย่าง อากะ, มูฉะข้าวหน้าล้น, ออน เดอะ เทเบิล อาหารสไตล์ฟิวชั่น, อาหารตามสั่ง เขียง ฯลฯ กล่าวในเรื่องนี้ว่า การเปิดภูเก็ตแซนด์บอกซ์ และสมุยพลัส ธุรกิจที่ได้รับอานิสงส์หลัก ๆ จะเป็นผู้ประกอบการภาคการท่องเที่ยวและโรงแรม

สำหรับธุรกิจร้านอาหารที่ผ่านมามีเปิดเพียงบางร้านและบางแบรนด์เท่านั้น เนื่องจากลูกค้าต่างชาติยังไม่ได้เข้ามาใช้บริการมากนัก ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นคนในพื้นที่ ส่วนศูนย์การค้าที่เปิดในภูเก็ต นักท่องเที่ยวก็ยังมีไม่มากนัก

สำหรับการเปิดเฟส 2 ที่จะเริ่มตั้งแต่ 1 ตุลาคม และขยายเพิ่มมาอีก 5 จังหวัด ธุรกิจร้านอาหารส่วนใหญ่ได้มีการเตรียมพร้อมมาตั้งแต่ช่วงต้นเดือน 1 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยเฉพาะพนักงานได้ทยอยฉีดวัคซีนเข็ม 1 เข็ม 2 ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ประเมินว่า การเปิดเฟส 2 ในช่วงแรกนี้อาจจะยังไม่ได้รับผลการตอบรับมากนัก แต่ฟีดแบ็กน่าจะเกิดขึ้นระยะยาวมากกว่า

โรงหนังลุ้น ศบค.ไฟเขียว

เช่นเดียวกับความเคลื่อนไหวของผู้ประกอบการโรงหนังที่ต่างก็ได้มีการเตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่องของความปลอดภัยและลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาด ในกรณีที่ ศบค.อนุญาตให้กลับมาเปิดให้บริการได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป พร้อม ๆ กับการเปิดประเทศในเฟส 2

นายนรุตม์ เจียรสนอง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการตลาด บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลัก ๆ จะเน้นไปที่เรื่องของการสร้างความมั่นใจ โดยขณะนี้ได้มีการฉีดวัคซีนให้แก่พนักงานครบ 2 เข็ม 100% รวมถึงการตรวจโควิดด้วย ATK สำหรับบุคลากรและผู้ที่มาติดต่องาน

รวมไปถึงการทำความสะอาดโรงภาพยนตร์ด้วยการอบยูวี และการเว้นระยะห่างทุก 2 ที่นั่ง การลดการสัมผัสระหว่างบุคคล ด้วยตู้ซื้อตั๋วอัตโนมัติใน 59 สาขา ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และหัวเมืองใหญ่ และไม่มีพนักงานตรวจตั๋วก่อนเข้าโรง รวมทั้งมีแผนจะนำภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ใหม่เข้าฉายในทุกสัปดาห์ ทั้งหนังต่างประเทศและหนังไทย

ขณะที่นางสาวพิมสิริ ทองร่มโพธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอส เอฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เอส เอฟฯได้ปรับตัวและปฏิบัติตามคำสั่งของภาครัฐอย่างเคร่งครัด ทั้งการทำความสะอาด ลดการสัมผัส และเว้นระยะห่าง ส่วนพนักงานก็ได้รับวัคซีนเรียบร้อยแล้ว และจะมีการตรวจคัดกรองด้วย ATK ก่อนเริ่มปฏิบัติงาน ตามมาตรฐาน THAI STOP COVID PLUS (TSC+) ของกรมอนามัย

“ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ภาครัฐมีมาตรการช่วยเหลือเยียวยาธุรกิจ และผ่อนปรนมาตรการให้โรงหนังกลับมาเปิดให้บริการได้อีกครั้งโดยเร็วที่สุด” นางสาวพิมสิริกล่าว

ท่องเที่ยวเร่งทำมาตรฐาน SHA+

ดร.อดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) เปิดเผยว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา สมาคมได้ประชุมร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ (นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ) โดยได้หารือร่วมกันในหลายประเด็นถึงแผนการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว

หลังจากนี้สมาคมจะโฟกัสในเรื่องของความพร้อมของผู้ประกอบการเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในอนาคต โดยกระตุ้นให้บุคลากรในภาคการท่องเที่ยวได้รับการฉีดวัคซีนทั้งหมด รวมถึงระดมสมาชิกเตรียมพร้อมสำหรับการทำมาตรฐาน SHA+ ซึ่งขณะนี้ผู้ประกอบการมีความตื่นตัวและเริ่มให้ความสนใจกับการทำมาตรฐาน SHA+ มากขึ้น

ดร.อดิษฐ์กล่าวว่า เบื้องต้นคาดว่าตลาดที่มีขนาดใหญ่และมีความพร้อมสำหรับการออกเดินทางท่องเที่ยวภายในสิ้นปีนี้ คือ อินเดีย รัสเซีย และอาเซียน ส่วนตลาดจีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่นั้น จากการหารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ พบว่าปัจจุบันจีนยังมีมาตรการห้ามคนจีนเดินทางออกนอกประเทศ ทำให้คาดว่าเร็วที่สุดสำหรับตลาดจีนน่าจะเป็นช่วงประมาณกลางปี 2565

อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้ให้ข้อมูลว่า เมื่อถึงเวลานายกรัฐมนตรี (พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา) น่าจะต้องเข้าเจรจากับผู้นำจีนด้วยตัวเอง และเปิดประเทศในลักษณะแทรเวลบับเบิลต่อไป

“ในเวลานี้สมาคมยังไม่กล้าประเมินตัวเลขหลังประกาศเปิดประเทศระยะ 2 และ 3 ในเดือนตุลาคมนี้แล้ว จะทำให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเท่าไหร่ แต่มองว่าคงยังมีไม่มากนัก” ดร.อดิษฐ์กล่าว

เพชรบุรี-ประจวบฯ พร้อม

นายพันธุ์ธัช หิรัญจิรวงศ์ ประธานหอการค้าเพชรบุรี กล่าวว่า เพชรบุรีถือว่ามีความเป็นไปได้ในการเปิดเมืองในระดับหนึ่ง ตอนนี้โรงแรม ร้านอาหาร ร้านขายของฝาก ก็ได้มีการอบรมและรับมอบเครื่องหมาย SHA+ จำนวนหนึ่ง โดยเฉพาะโรงแรมที่ได้รับเครื่องหมาย SHA+ แล้วประมาณ 60-70% โดยนักท่องเที่ยวของเพชรบุรีส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวในประเทศ

นายสายัณต์ สิทธิโชคธรรม นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเพชรบุรี กล่าวในเรื่องนี้ว่า เนื่องจากการฉีดวัคซีนในพื้นที่ยังไม่ถึง 70% ขณะนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดและเอกชนทุกภาคส่วนกำลังเร่งผลักดันเรื่องขอวัคซีนเข้ามาในพื้นที่ทุกช่องทาง และคาดว่าปลายเดือนกันยายนนี้จะมีวัคซีนเข้ามาในพื้นที่อีกจำนวนหนึ่ง

ขณะที่นายศุรอัฐ ณรงค์ฤทธิ์ ประธานหอการค้าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ประจวบคีรีขันธ์มีความพร้อมมากพอสมควร โดยได้มีการระดมฉีดวัคซีนเข็มแรกไปได้กว่า 70% และเข็มที่ 2-3 กำลังเร่งดำเนินการ ขณะที่ผู้ประกอบการก็ได้รับเครื่องหมาย SHA+ กว่า 50% แล้ว

อย่างไรก็ตาม เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว รัฐอาจจะต้องมีมาตรการต่าง ๆ มาควบคุมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ขณะที่ทางจังหวัดก็กำลังเร่งหารือกันเพื่อให้ได้ข้อสรุปในเร็ว ๆ นี้ ปัจจุบันนักท่องเที่ยวชาวไทยนั้นเริ่มกลับเข้ามาในพื้นที่หัวหินแล้ว และหวังว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะสามารถกลับเข้ามาในช่วงที่เป็นไฮซีซั่นในปลายปีนี้

เสียงสะท้อนผู้ประกอบการ

แหล่งข่าวระดับสูงจากสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ที่ผ่านมาแม้ว่ารัฐบาลจะประกาศนโยบายเปิดประเทศมาเป็นระยะ ตั้งแต่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา (ภูเก็ต, สมุย) แต่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในทุกเซ็กเตอร์ ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว รถนำเที่ยว บริษัททัวร์ ฯลฯ เกินครึ่งยังคงปิดให้บริการชั่วคราว และไม่มีกำหนดว่าจะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งเมื่อไหร่

“กรณีการเปิดภูเก็ต ช่วงแรกหลายฝ่ายคาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาน่าจะไต่ระดับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเพียง 1.2-1.3 หมื่นต่อเดือน เมื่อเทียบกับในภาวะปกติที่มีจำนวนราว 1 ล้านคน จึงยังไม่เพียงพอสำหรับการเปิดให้บริการ จึงเชื่อว่าผู้ประกอบการในเมืองท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่อยู่ในแผนเปิดประเทศจะยังคงรอดูดีมานด์ให้มีความชัดเจนก่อนที่จะลงทุนกลับมาเปิดอีกครั้ง” แหล่งข่าวกล่าว

สอดรับกับนางพัณณิน กิติพราภรณ์ เจ้าของและประธานเจ้าหน้าที่บริหารโรงละครสยามนิรมิต กรุงเทพฯ และสยามนิรมิต ภูเก็ต ที่กล่าวในเรื่องนี้ว่า ปัจจุบันโรงละครสยามนิรมิต ภูเก็ต ยังคงปิดชั่วคราวต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 และยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะกลับมาเปิดอีกครั้งเมื่อไหร่ เนื่องจากวอลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามายังมีปริมาณที่น้อยมาก

“การเปิดภูเก็ตแซนด์บอกซ์ถือเป็นนโยบายที่ดีและน่าสนับสนุน แต่ตอนนี้นักท่องเที่ยวเข้ามาเพียงแค่หลักหมื่นคนต่อวันเท่านั้น ยังไม่เป็นนัยสำคัญ ดังนั้น สิ่งที่ต้องทำในตอนนี้ คือ หยุดและอยู่นิ่ง ๆ เมื่อไหร่ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติในปริมาณที่มากพอค่อยกลับมาเปิดอีกครั้ง ซึ่งไม่รู้ว่าจะกี่ปี ซึ่งจากงานวิจัยต่าง ๆ ทั่วโลกบอกชัดว่าอย่างต่ำน่าจะประมาณ 3 ปีหรือมากกว่านั้น” นางพัณณินกล่าว

ขณะที่นายมนัส มีพงษ์ ผู้บริหารตลาดน้ำ 4 ภาค จังหวัดชลบุรี ระบุว่า ตลาดน้ำ 4 ภาค ยังไม่มีความพร้อมในการเปิดเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว เนื่องจากไม่มั่นใจในสถานการณ์ ประกอบกับการฉีดวัคซีนในเมืองพัทยาขณะนี้ทำได้เพียง 40-50% เท่านั้น จากประชากรไม่ต่ำกว่า 300,000 คน และกังวลว่าหากเปิดแล้วและโควิดกลับมาระบาดใหม่จะทำให้ควบคุมยาก เพราะว่าทางเข้าพัทยาไม่เหมือนเกาะ โอกาสที่พลาดมีสูง

“การจะเปิดหรือไม่คงต้องรอดูสถานการณ์หลังจากเดือนตุลาคมไปก่อน ถ้าเปิด-ปิดบ่อย ๆ ผู้ประกอบการเสียหาย”