เครือสหพัฒน์ปักธงโครงการ KingBridge Tower ไอคอนิกใหม่บน ถ.พระราม 3

เครือสหพัฒน์ปักธงโครงการใหม่ “KingBridge Tower” Smart Building สูงที่สุดในประเทศไทย ประกอบไปด้วย สำนักงาน, Co-working Space, ห้องประชุม, Healthy Canteen, สวนแนวตั้ง, ลู่วิ่ง, Rooftop Restaurant บนพื้นที่สีเขียวภายใต้แนวคิด “The Spirit of Synergy” ปั้นไอคอนิกใหม่บนถนนพระราม 3 คาดแล้วเสร็จในปี 2567

วันที่ 16 กันยายน 2564 นายวิชัย กุลสมภพ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) และกรรมการผู้จัดการ บริษัท สห แคปปิตอล ทาวเวอร์ จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับโครงการ KingBridge Tower มีการออกแบบภายใต้แนวคิด “The Spirit of Synergy” ที่เชื่อว่า การผสานรวมกันจะก่อให้เกิดพลังและสิ่งที่ยิ่งใหญ่ การทำงานและใช้เวลาร่วมกันของคนในองค์กร ซึ่งเป็นสิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญ

เพราะจะทำให้ธุรกิจ องค์กร สังคม เติบโตไปในทิศทางที่ดียิ่งขึ้น แนวคิดดังกล่าวถูกใช้ในการออกแบบ KingBridge Tower ภายในอาคารประกอบด้วย พื้นที่สำนักงาน, Co-working Space, ห้องประชุม, Healthy Canteen, สวนแนวตั้ง, ลู่วิ่ง และ Rooftop Restaurant

โดยมีการผสมผสานเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบงานกระจกและอะลูมิเนียมอาคาร (Façade) ก็ได้นำเทคโนโลยีโซลาร์เซลล์ที่ช่วยดูแลสิ่งแวดล้อม มาผสานกับการออกแบบให้คงความสวยงามไว้ได้อย่างกลมกลืน พร้อมมีการออกแบบพื้นที่สีเขียว (Lush Co-working Space) เพื่อให้ทุกคนสามารถมาใช้ร่วมกันตอบรับแนวโน้มการทำงานรูปแบบใหม่ พร้อมทั้งผสานรวมการทำงานและการดูแลสุขภาพไปด้วยกัน โดยได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้วและคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2567

“เราได้เลือก Mott Macdonald บริษัทวิศวกรที่ปรึกษาระดับโลกที่มีผลงานมากมาย เช่น การออกแบบวิศวกรรมโครงสร้างสะพานภูมิพล, ท่าอากาศยานลอนดอนฮีทโธรว์, Silicon Valley BART Extension มาร่วมดีไซน์โครงสร้างอาคาร เพื่อให้โครงการ KingBridge Tower เป็นสัญลักษณ์แห่งใหม่ที่โดดเด่น สง่างามริมแม่น้ำบนถนนพระราม 3 จากการออกแบบโครงสร้างของบริษัทระดับโลก”

ทั้งนี้ภายในเป็นอาคารสำนักงานรูปแบบ Smart Building ที่เน้นความเป็นมิตรต่อผู้ใช้งานอาคาร และมุ่งสู่การขอรับมาตรฐานสากล ได้แก่ LEED Gold และ Fitwel ระดับสูงสุด 3 ดาว เน้นความเป็นมิตรต่อคุณภาพชีวิตของผู้ใช้อาคาร และสิ่งแวดล้อมผ่านแนวคิด เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ผสานเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ล้ำสมัยให้กลมกลืนไปกับพื้นที่สีเขียว เพื่อให้คนในอาคารสะดวก ปลอดภัย และผ่อนคลายด้วยสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตร

อาทิ ระบบตรวจจับใบหน้าด้วยเทคโนโลยี AI, สถานีชาร์จ EV สำหรับภายในอาคารประกอบไปด้วย พื้นที่สำนักงาน, Co-working Space, ห้องประชุม, Healthy Canteen, สวนแนวตั้ง, ลู่วิ่ง และ Rooftop Restaurant สามารถปรับพื้นที่ให้กลายเป็น Event Space ได้ พื้นที่อาคารรวมกว่า 85,000 ตร.ม. บนเนื้อที่กว่า 6 ไร่

นอกจากนี้โครงการนี้ยังได้พันธมิตรมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ อาทิ A49, Thai Obayashi, Stonehenge Inter, SCG, JLL เป็นต้น