อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ เปิดเกมรุก FOMO – FOTO จับกระแสคนรุ่นใหม่

“อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ” เปิดเกมรุกลุยแพลตฟอร์ม “Experience and Content Platform” จับกระแสคนยุคใหม่ที่ชอบสร้างภาพลักษณ์ในโลกโซเชียล คาดปี 2565 ดันรายได้ 920 ล้าน

วันที่ 12 มกราคม 2565 นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม             บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการตลาดเชิงสร้างสรรค์อย่างครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน เปิดเผยว่า ภาพรวมอีเวนต์มาร์เก็ตติ้งคงได้รับผลกระทบหนักจากพิษโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ด้วยการมีข้อจำกัดของการเข้าร่วมอีเวนต์มากขึ้น ทำให้จำนวนของอีเวนต์ลดลง ไทป์ของอีเว้นต์ก็ถูกจำกัดเพิ่มมากขึ้น ซึ่งลูกค้าลดงบประมาณในการจัดงาน กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง

จากปัจจัยดังกล่าวทำให้มูลค่าตลาดอีเวนต์ราว 1.4 หมื่นล้านบาทสูญเม็ดเงินกว่า 60% ส่งให้ผลประกอบการของบริษัทในปี 2564 อยู่ที่ 580 ล้านบาท  แต่เมื่อเทียบกับปีที่ก่อนที่เกิดการระบาดของโควิด-19 อินเด็กซ์ฯ เติบโตขึ้น 33% ด้วยการจับกระแสเทรนด์อีเวนต์ยุค “FOMO-FOTO” ที่มาจากพฤติกรรมของคนในปัจจุบันที่เวลาไปไหนแล้วต้องถ่ายรูปและต้องอยู่ในกระแสตลอดเวลา

ดังนั้น กลยุทธ์ปี 2565 จึงเดินหน้าลุยแพลตฟอร์ม “Experience and Content Platform” สร้างสรรค์ 20 อีเวนต์ตลอดทั้งปีให้อยู่ในกระแส ซึ่งช่วงปีที่ผ่านมาอินเด็กซ์ฯ ได้สร้างสรรรค์ OWN CREATION ในรูปแบบของ ของน็อนอีเวนต์ (NON-EVENT) อย่างต่อเนื่องได้รับความสนใจมีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 100,000 คน

เริ่มตั้งแต่ Village of illumination @Singha Park Chiang Rai เทศกาลประดับไฟฤดูหนาว ,House of Illumination ศิลปะดิจิทัลทีใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ , เมืองโบราณไลท์เฟส เทศกาลประดับไฟฤดูร้อนยามค่ำคืน, Forest of Illumination at Kirimaya เทศกาลประดับไฟ และการแสดงแสง สี เสียง ครั้งแรกของเขาใหญ่ที่ผสมผสานระหว่างธรรมชาติกับนวัตกรรมดิจิทัล ,เทศกาลโคมไฟและอาหารนานาชาติ ณ เมืองโบราณ สมุทรปราการ และปิดท้ายด้วยงาน Tha Maharaj illumination

โดยปีนี้ได้ต่อยอด “Experience and Content Platform” จากปีที่แล้ว และสร้างสรรค์งานใหม่  ตั้งเป้ามีผู้เข้าร่วมงาน 200,000 คน มากขึ้นเป็น 2 เท่า เมื่อเทียบกับปีก่อน จาก 20 อีเวนต์ อาทิ งาน YOUNG SELF-MADE MILLIONAIRE AWARDS งานประกาศรางวัลที่มอบให้สำหรับ ผู้ประกอบการและนักขาย ผู้เป็นนักสร้างตัวจริงในประเทศไทย จัดวันที่ 25 มกราคม  65 ,KINGDOM OF LIGHTS นำเสนอในรูปแบบเดอะมิวสิคัล ผ่านแสง สี เสียง และมัลติมีเดียจัดระหว่างวันที่ 16 มีนาคม – 16 พฤษภาคม

ตามด้วยงานแข่งวิ่ง V Runner ทั่วทั้ง 5 จังหวัด เริ่มตั้งแต่เดือนเมษายนไปจนถึงเดือนมิถุนายน มาต่อทีช่วงปลายปีกับงาน “Thailand International Lantern & Food Festival” เทศกาลโคมไฟและอาหารนานาชาติ จัดระหว่างวันที่ 2 พฤศจิกายน – 5 ธันวาคม 2565 ณ เมืองโบราณ จังหวัดสมุทรปราการ

ปิดด้วยงาน DOUBLE FESTIVAL   AT  SINGHA PARK ที่รวม 2 เทศกาล ได้แก่  งาน Cambodia Architect & Décor จัดร่วมกับงาน Cambodia Health and Beauty Expo และ Cambodia Food Plus Expo วันที่ 5 – 7 สิงหาคม ณ ประเทศกัมพูชา และงาน Virtual Exhibition Architect & Décor ,Virtual Exhibition FoodBev Retail, Health & Beauty จัดวันที่ 25-26 พฤศจิกายน และงานเทรดแฟร์ในประเทศ ได้แก่ Bangkok Beauty Show 2022 จัดระหว่างวันที่ 14-16 กรกฎาคม ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา

ทั้งหมดนี้ จะส่งผลให้ธุรกิจในปี 2565 ของอินเด็กซ์ฯ มีสัดส่วนรายได้ที่เปลี่ยนแปลงไป โดย สัดส่วน Own Project  เพิ่มขึ้นเป็น 30 % เติบโตขึ้นจากปีที่แล้ว 78 % Creative Business Development มีสัดส่วนรายได้ไม่ต่ำกว่า 30% และสัดส่วนรายได้จาก Marketing service ลดลงเป็น 40%

สำหรับรายได้รวมปี 2564 ปิดที่ 580 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อน 33% ที่มีรายได้อยู่ที่ 460 ล้านบาท ส่งผลให้ 3 กลุ่มธุรกิจหลักของอินเด็กซ์ฯ คือ 1.กลุ่มครีเอทีฟ บิซซิเนส     ดีเวลลอปเม้นท์ (Creative Business Development) เพิ่มขึ้น 158% 2.กลุ่มมาร์เก็ตติ้ง เซอร์วิส (Marketing Service) ลดลง 26 % และ 3.กลุ่มโอน -โปรเจค (Own-Project) เพิ่มขึ้น 54% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน