ดีนี่โหมผลิตภัณฑ์ซักผ้าเด็ก อัดงบฯทำสื่อสร้างยอดขาย 3.5 พันล้าน

“นีโอ คอร์ปอเรท” นำทัพแบรนด์ดีนี่ เตรียมลอนช์ผลิตภัณฑ์ซักผ้า-ปรับผ้านุ่มสูตรออร์แกนิก เจาะกลุ่มเด็กแรกเกิด พร้อมทุ่มงบฯจ้างพรีเซ็นเตอร์ “มิว นิษฐา-เซนต์ ธราภุช คูหาเปรมกิจ”และ “ป๊อก ภัสสรกรณ์-มาร์กี้ ราศรี จิราธิวัฒน์” สร้างการรับรู้ผ่านสื่อออนไลน์ ตั้งเป้าสร้างยอดขาย 3.5 พันล้าน เติบโต 20%

นายสุทธิเดช ถกลศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภค อาทิ น้ำยาปรับผ้านุ่มไฟน์ไลน์, ผลิตภัณฑ์แม่และเด็กดีนี่ และครีมอาบน้ำบีไนซ์ เปิดเผยว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นปัจจุบันทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป ประกอบกับสินค้าในตลาดอุปโภคบริโภคมีทางเลือกมากขึ้น ทำให้บริษัทต้องปรับกลยุทธ์การทำตลาด มุ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินค้านวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์ตามความต้องการลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย

สำหรับปี 2565 บริษัทให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ต่อเนื่อง โฟกัสไปที่แบรนด์ “ดีนี่” (D-nee) เตรียมออกผลิตภัณฑ์ซักผ้าและปรับผ้านุ่มสูตรเข้มข้น เพื่อเป็นตัวช่วยในการดูแลเด็ก เจาะกลุ่มเด็กแรกเกิด ไปสู่เด็กที่โตขึ้นตามวัย

และเตรียมปรับดีนี่ ออร์แกนิก ซากุระ ให้เป็นสูตรออร์แกนิก 100% รวมถึงการออกสินค้าใหม่ในกลุ่มเครื่องใช้ส่วนบุคคล (personal care) ทั้งอาบน้ำ แป้ง โลชั่น ฯลฯ เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายวัย preteen หรือช่วงก่อนเข้าวัยรุ่น เป็นต้น

ด้านนางศิริสุภา อาจสัญจร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท นีโอ คอร์ปอเรทจำกัด กล่าวต่อว่า บริษัทได้นำ มิว นิษฐา กับเซนต์ ธราภุช คูหาเปรมกิจ และน้องมาริน เข้ามาเป็นพรีเซ็นเตอร์กลุ่มผลิตภัณฑ์เบบี้ออร์แกนิก พร้อม ป๊อก ภัสสรกรณ์ และมาร์กี้ ราศรี จิราธิวัฒน์ และน้องมิก้า มิญ่า มาเป็นพรีเซ็นเตอร์กลุ่มผลิตภัณฑ์ซักผ้าและปรับผ้านุ่มสำหรับเด็ก

เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ผ่านสื่อออนไลน์ ตามด้วยสื่อทางโทรทัศน์ สื่อโฆษณานอกบ้าน และสื่อ ณ จุดขายต่าง ๆ ตลอดจนการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย และมีลอยัลตี้โปรแกรมให้ลูกค้าสะสมแต้มเพื่อรับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ผ่านช่องทาง Line Official : DneeThailand ที่มีฐานสมาชิกกว่า 120,000 ราย รวมไปถึงการขยายช่องทางจำหน่ายผ่านอีคอมเมิร์ซ

ขณะที่ภาพรวมตลาดสินค้าเด็กปี 2565 มีมูลค่า 5,200 ล้านบาท อยู่ในระดับทรงตัว เนื่องจากประชากรเด็กเกิดน้อยลง จึงกระทบตลาด โดยปัจจุบันสินค้าเด็กกลุ่มใหญ่สุด คือ หมวดเครื่องใช้ส่วนบุคคลมีสัดส่วนประมาณ 76%

ตามด้วยเครื่องใช้ในครัวเรือน 24% โดยแบรนด์ดีนี่มีส่วนแบ่งทางการตลาดรวม 26% แบ่งตามรายสินค้า เช่น ผลิตภัณฑ์ซักผ้าเด็ก 71%, ผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่มเด็ก 78% และกลุ่มที่ใช้กับผิวพรรณ 13%

อย่างไรก็ตาม จากกุลยทธ์ดังกล่าว ในปี 2565 บริษัทตั้งเป้ายอดขายของผลิตภัณฑ์ดีนี่ 3.5 พันล้านบาท เติบโต 20% ขณะที่ปี 2564 มียอดขาย 2.9 พันล้านบาท เติบโต 10%