“ไมซ์ แอนด์ คอม” เด้งรับงานวิ่งฟื้น ปลุกครอสคันทรี่อุดโลว์ซีซั่น

ครอสคันทรี่

“ไมซ์ แอนด์ คอมมูนิเคชั่น” ชิงจังหวะงานวิ่งฟื้น ปลุกงานวิ่ง “ครอสคันทรี่” ไม่หวั่นหน้าฝน ชูแปลกใหม่อุดช่องว่างช่วงโลว์ซีซั่น ประเดิมงานแรก “แก่งกระจาน ครอสคันทรี 20” ปลาย มิ.ย.นี้ เผยสนามครอสคันทรี่ระดับโลกจากประเทศสวีเดน สนับสนุนพร้อมกางแผนลุยจัด 3 งานใหญ่ช่วงปลายปี “บางแสน 10-บางแสน 21-บางแสน 42”

นายรัฐ จิโรจน์วณิชชากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมซ์ แอนด์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด ผู้จัดงานวิ่งรายใหญ่ อาทิ บางแสน 42,บางแสน 21 และบางแสน 10 ซึ่งได้รับมาตรฐาน Elite Label จาก World Athletics เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หลังการจัดงานวิ่งต่าง ๆ เริ่มทยอยฟื้นตัวกลับคืนมา งานที่เลื่อนมาระยะหนึ่งเริ่มกลับมาจัดใหม่อีกครั้ง รวมทั้งมี งานใหม่ ๆ ที่เริ่มเปิดรับสมัครเป็นระยะ ๆ และมีคิวการจัดงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงปลายปี และล่าสุด บริษัทเตรียมผลักดันงานวิ่งในรูปแบบครอสคันทรี่เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของทั้งผู้จัดงานและนักวิ่ง

ปกติงานวิ่งจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ คือ วิ่งถนน วิ่งเทรล และครอสคันทรี่ โดยครอสคันทรี่เป็นงานที่มีจุดเด่นด้านความยืดหยุ่นมากกว่าวิ่งบนถนนทั่ว ๆ ไป และวิ่งเทรลทั้งในแง่สถานที่ ระยะทาง และช่วงเวลาที่จัด อีกทั้งยังสร้างความแปลกใหม่ให้กับนักวิ่งทั้งมืออาชีพและสมัครเล่นได้ ในแง่การจัดจะมีต้นทุนไม่สูงนัก

เนื่องจากสามารถจัดบนสภาพถนนหลากหลายทั้งลูกรัง กรวด ดิน และอื่น ๆ แต่อาจจะมีอุปสรรคเล็ก ๆ น้อย ๆ บ้าง เช่น หนองน้ำ หรือเนินบนเส้นทาง และสามารถกำหนดระยะได้ตามความเหมาะสม อาจจะเฉลี่ย 8-12 กิโลเมตร และอาจมีผู้เข้าร่วมประมาณ 4 พันคน ขณะที่งานวิ่งบนถนนอาจมีผู้เข้าร่วมถึง 1.5 หมื่นคน จึงจัดงานได้ง่ายกว่าการวิ่งแบบถนน

ที่สำคัญคือ ผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่น้อยกว่า เพราะไม่ต้องปิดถนนสายหลักเต็มรูปแบบ หรือการวิ่งอาจจะใช้เส้นทางรอง เช่น เส้นทางเชื่อมหมู่บ้าน ซึ่งไม่พลุกพล่านและยังมีความเป็นธรรมชาติ

ขณะเดียวกัน ยังสามารถนำจุดเด่นของท้องถิ่นและธรรมชาติ เช่น วัสดุในท้องถิ่นหรืออัตลักษณ์ของท้องถิ่นมาเป็นส่วนหนึ่งในการจัดงาน เหมาะสำหรับการจัดทั้งในเมืองรองและเมืองท่องเที่ยว รวมทั้งเมืองที่มีความโดดเด่นทางธรรมชาติต่าง ๆ และสามารถจัดได้ในหน้าฝน ซึ่งปกติจะเป็นโลว์ซีซั่นของการจัดงานวิ่ง และอีกด้านหนึ่งก็จะเป็นการเติมเต็มช่องว่างของตลาด

หากงานวิ่งครอสคันทรี่ได้รับความนิยมก็จะสามารถดึงดูดนักวิ่งจากต่างประเทศเข้ามาร่วมได้ ขณะที่นักวิ่งไทยสามารถต่อยอดไปยังเวทีโลกได้ทั้งในยุโรปหรืออเมริกา รวมถึงยังมีโอกาสที่ประเทศไทยอาจสามารถเป็นเจ้าภาพ งานวิ่งครอสคันทรี่ระดับนานาชาติได้ด้วย ทั้งอาเซียน เอเชีย และระดับโลก

งานวิ่งครอสคันทรี่ที่บริษัทกำลังจะจัดงานแรก คือ “แก่งกระจาน ครอสคันทรี 20” หรือ “KXC20” ที่ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ในวันที่ 26 มิ.ย. 65 วางราคาค่าสมัคร 1,200-2,000 บาท ปิดรับสมัครไปเมื่อ 2 มิถุนายน โดยได้รับความร่วมมือจาก TCS Lidingoloppet สนามครอสคันทรี่ระดับโลกจากประเทศสวีเดน ที่ได้รับการบันทึกจาก Guinness World Record ว่าเป็นสนามครอสคันทรี่ที่มีระยะแข่งขันยาวที่สุดในโลก

มีจุด start และ finish อยู่บริเวณใจกลางเมืองแก่งกระจานใกล้กับที่ว่าการอำเภอแก่งกระจาน เส้นทางวิ่งจะวิ่งเข้าไปในพื้นที่ธรรมชาติ (ไม่ได้เป็นเขตป่าสงวนฯ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน) รวมระยะทาง 20 กม. มีเวลารวมในการวิ่ง 4:30 ชั่วโมง

“งานนี้เป็นการจัดงานครอสคันทรี่เป็นครั้งแรกของบริษัท จึงมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายที่ต่อยอดจากฐานข้อมูลของนักวิ่งงานบางแสน 21 โดยติดต่อไปยังผู้ที่เคยร่วมงาน เนื่องจากมั่นใจได้ว่าสามารถวิ่งที่ระยะนี้ได้แน่นอน และในอนาคต เมื่องานวิ่งลักษณะนี้ได้รับการตอบรับดีและเป็นที่รู้จักแล้วอาจมีการจัดในระยะทางต่าง ๆ เช่น 10 กิโลเมตร”

นายรัฐกล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ช่วงปลายปีนี้บริษัทเตรียมจัดงานวิ่งมาราธอนใหญ่ 3 งาน คือ บางแสน 10, บางแสน 21 และบางแสน 42 โดยบางแสน 10 จะจัดวันที่ 18 กันยายน ตามด้วยบางแสน 42 วันที่ 30 ตุลาคม และปิดท้ายด้วยบางแสน 21 ในวันที่ 18 ธันวาคม

โดยรายละเอียดต่าง ๆ ของงานอยู่ระหว่างรอดูมาตรการและแนวทางของภาครัฐหลังจากที่จะมีการผ่อนคลายมากขึ้น รวมถึงการประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น หากทางการมีการผ่อนคลายมาตรการมากขึ้นอาจทำให้สามารถเพิ่มจำนวนผู้ร่วมงานขึ้นเป็นระดับ 12,000-13,000 คน หรือประมาณ 80-90% ของช่วงปกติ หลังจากเมื่อช่วงต้นปี 2565 ที่จัดงาน “บางแสน 42 ชลบุรี มาราธอน 2021” ที่จะเปิดรับสมัครในช่วงตุลาคม 2564 มีผู้สมัครถึง 9,200 คน และมาร่วมวิ่งจริง 6,700 คน

“แม้จะผ่อนคลายหรือยกเลิกมาตรการป้องกันโรคแล้ว แต่เราจะยังคงมาตรการบางอย่างไว้ เช่น การปล่อยตัวเป็นกลุ่ม เพราะจากการสอบถามบรรดานักวิ่งพบว่าส่วนใหญ่ชอบวิธีการนี้ เนื่องจากทำให้วิ่งได้ง่ายและลดการเกิดอุบัติเหตุช่วงปล่อยตัวด้วย ส่วนด้านรายได้ของบริษัทปีนี้คาดว่าจะทรงตัวเท่ากับปีก่อนหน้า เพราะเม็ดเงินที่เพิ่มขึ้นมาจากเหตุพิเศษ คือ การเลื่อนงานวิ่งบางแสนฯ 3 งานของปี 2564 มาจัดในช่วงต้นปีทำให้ปีนี้มีงานวิ่งบางแสนฯถึง 6 งานในปีเดียว”