ฝนตกแบบนี้ หลายคนคงมีความกังวลว่า รถยนต์ไฟฟ้า(อีวี)ที่ใช้กันอยู่จะสามารถขับฝาสายฝน ลุยน้ำท่วมขังบนพื้นถนนไปได้หรือไม่ แล้วน้ำท่วมสูงแค่ไหน รถอีวีของเราถึงจะขับผ่านไปได้
ยิ่งช่วงนี้มรสุมเข้าทำให้บางพื้นที่มีน้ำท่วมขังสูง
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ราคาทองวันนี้ (24 เม.ย. 67) พุ่งขึ้น 250 บาท ทองรูปพรรณ 41,100 บาท
วันนี้ “ประชาชาติธุรกิจ” รวบรวมข้อมูล และช่วยคลายข้อสงสัยให้กับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า สเป็กแต่ละรุ่นเป็นอย่างไรกันบ้าง เนื่องจากรถอีวีนั้น ส่วนประกอบสำคัญคือ มอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ ทั้งนี้ ได้มีการทดสอบ IP Rating (Ingress Protection) ซึ่งเป็นค่ามาตรฐานในการป้องกันของแข็งและของเหลวเล็ดลอดเข้าไปภายในแบตเตอรี่ เพื่อไม่ให้เกิดการรั่วไหลของไฟฟ้าแรงสูงในกรณีที่รถจมอยู่ใต้น้ำ
ทั้งนี้ค่ามาตรฐานสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยทั่วไปอยู่ที่ IP67 การันตีว่าสามารถป้องกันความเสียหายที่เกิดจากน้ำท่วมไม่เกิน 1 เมตรได้ ภายในเวลาไม่เกิน 30 นาที ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้า หลายคนไม่ห่วงเท่าไร เพราะอยู่สูงระดับฝากระโปรงหน้า
เริ่มกันที่รถยนต์ไฟฟ้า ORA Good Cat จากค่ายเกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้รับมาตรฐาน IP67 โดยแบตเตอรี่สามารถกันน้ำจากการแช่น้ำความลึกไม่เกิน 1 เมตรได้สูงสุด 30 นาที และยังสามารถกันฝุ่นได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งยังสามารถขับลุยน้ำได้ลึกถึง 40 เซนติเมตร
ดังนั้น ผู้ขับขี่มั่นใจได้ว่าน้ำท่วมจะไม่สามารถก่อความเสียหายให้กับแบตเตอรี่ของตัวรถได้ แต่ยังคงมีความเสี่ยงจากการรั่วซึมของน้ำเข้าไปในส่วนประกอบของแบตเตอรี่ได้ โดยเฉพาะในน้ำเค็มซึ่งมีความสามารถกัดกร่อนตามธรรมชาติ อาจทำให้เป็นอันตรายต่อแบตเตอรี่ลิเทียม ฉะนั้นแล้วการหลีกเลี่ยงการนำรถไปลุยน้ำในระดับสูงในระยะเวลายาวนานน่าจะเป็นการป้องกันที่ดีที่สุด
ขณะที่ค่ายเอ็มจีนั้น รถยนต์ไฟฟ้าทั้ง 2 รุ่น ได้แก่ MG EP และ MG ZS EV โดยทีมเอ็มจี ไทยแลนด์ ยืนยันว่า MG EP มีความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถ Ground clearance 11.5 เซนติเมตร และสามารถขับลุยน้ำได้ 40 เซนติเมตร
ขณะที่ MG ZS EV ตามสเป็ก มีความสูงจากพื้นถึงตัวรถ 16.1 เซนติเมตร ก็สามารถขับลุยน้ำได้ 40 เซนติเมตรเช่นเดียวกัน โดยรถยนต์ของเอ็มจีทั้ง 2 รุ่นผ่านมาตรฐานการทดสอบการกันน้ำ กันฝุ่น IP67 แช่น้ำ 1 เมตรได้ครึ่งชั่วโมงเช่นเดียวกัน
น่าจะทำให้ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่ต้องขับลุยน้ำหน้าฝนมีความสบายใจมากขึ้น ที่สำคัญหลังจากขับรถลุยน้ำท่วมแล้ว ผู้ขับขี่อย่าลืมเผื่อระยะเบรก ส่วนถ้าน้ำเข้ารถ ควรนำไปศูนย์รื้อพรมออกพึ่งแดดให้แห้ง เปิดประตูไล่ความชื้นออก
และทางที่ดีที่สุด เพื่อให้เกิดความมั่นใจยิ่งขึ้น ตรวจสอบประกันภัยว่าคุ้มครองด้วยหรือไม่ เพื่อติดต่อทำเคลม
