BYD ดีเดย์ ส่งอีวี Atto 3 ลงตลาด พร้อมกดราคาลง 1.5 แสนบาท

BYD

เรเว่-ออโตโมทีฟ พร้อมส่งรถยนต์ไฟฟ้า BYD Atto 3 ออกสู่ตลาดในวันที่ 10 เดือนตุลาคมนี้ หลังเซ็นเข้าร่วมโครงการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า  “สรรพสามิต” ลั่นมีค่ายรถญี่ปุ่น-จีน จ่อคิวทำ MOU รับสิทธิ์ภาษีอีวี 5-6 ราย เผยต้องได้รับสิทธิ์บีโอไอ-มีแผนผลิตชัดเจน ลั่นจ่อคิวรับสิทธิ์ภาษีอีกกว่า 1.4 หมื่นคัน

วันที่ 9 กันยายน 2565 นายณฐกร อุเทนสุต ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต กล่าวว่า ภายในเดือนนี้จะเซ็นเอ็มโอยูร่วมกับ BYD เพื่อให้ได้รับสิทธิลดภาษีสรรพสามิต จาก 8% เหลือ 2% และเงินอุดหนุนภาษี 150,000 บาท โดยภายในปี 2567 บีวายดีต้องผลิตชดเชยให้ทัน 1 เท่าของจำนวนที่นำเข้ามาจำหน่าย

BYD

ปัจจุบันมียอดรถอีวีเข้าร่วมโครงการ คือเป็นรถอีวีจดทะเบียนแล้ว 445 คัน ยังไม่จดทะเบียน 1,700 คัน และจองอีก 12,000 คัน ทั้งนี้ เชื่อว่ายังมีงบประมาณเพียงพอสำหรับบริหารจัดการรถอีวีที่เข้าร่วมโครงการ

ทั้งนี้ ยังมีค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นอีก 2-3 ราย และค่ายรถจีนอีก 6 รายรอลงนามทำเอ็มโอยู แต่ทั้งนี้ค่ายรถเหล่านี้จะต้องรอได้รับสิทธิบีโอไอก่อน หรือมีโรงงานผลิตในประเทศไทยที่ชัดเจน รวมทั้งมีแผนดำเนินธุรกิจและแผนผลิตชดเชยได้ทันตามระยะเวลา

“นับจากวันนี้จะเหลือระยะเวลาเพียงแค่ 1 ปีเศษ ที่ค่ายรถยนต์จะต้องผลิตรถยนต์เพื่อคืนให้กับกรมสรรพสามิต”

ปัจจุบันมีค่ายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ได้รับทำเอ็มโอยูกับกรมสรรพสามิต ได้แก่ เกรทวอลล์, เอ็มจี, โตโยต้า, ไมน์, เอชเซม และมีค่ายรถจีนอีก 2 ค่ายที่รอคิวอยู่ แต่เนื่องจากติดขัดแผนการผลิตกับจำนวนของการผลิตชดเชย ส่วนของ BYD มีเวลาแค่ปีกว่าในการสร้างโรงงานและผลิตชดเชย ทั้งนี้ คาดว่าในปีงบประมาณ 2566 (ต.ค. 2565-ก.ย. 2566) จะมียอดรถยนต์อีวีที่เข้าร่วมโครงการไม่น้อยกว่า 20,000 คัน

ด้านนายประธานวงศ์ พรประภา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เร-เว่ ออโตโมทีฟ จำกัด (Rêver Automotive) เปิดเผยว่า ในวันที่ 10 เดือน 10 เตรียมเปิดตัวรถ Atto 3 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกที่จะทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ หลังจากวันนี้ได้ร่วมลงนาม แสดงเจตนาเพื่อเข้าร่วมมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้ากับกรมสรรพสามิต ทั้งนี้ เรเว่ฯประสงค์เข้าร่วมมาตรการยานยนต์ไฟฟ้าในวันนี้จะเป็นการเปิดโอกาสให้ลูกค้าชาวไทยสามารถเข้าถึงยานยนต์ไฟฟ้าได้ง่ายขึ้น และทำให้คนไทยมีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจสร้างชีวิตที่ดีขึ้น

ด้านนายเคอ ยู่ปิ่น ผู้จัดการทั่วไป บริษัท บีวายดี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภายในไตรมาสที่สามของปี 2567 บีวายดีจะเริ่มผลิตรถยนต์จากโรงงานประเทศไทย ด้วยกำลังผลิต 150,000 คันต่อปี เพื่อรองรับความต้องการของตลาดในประเทศและภูมิภาค และอนาคตจะมีการลงทุนทำโรงงานแบตเตอรี่แบบใบมีดเข้ามาตั้งในประเทศไทย โดยจะมีการลงทุนเพิ่มเติมต่อไป และหากตลาดไทยได้รับการตอบรับที่ดีจะมีการลงทุนเพิ่มอีก

สำหรับบริษัท บีวายดี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ BYD ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) มูลค่าการลงทุน 17,891 ล้านบาท ได้ลงนามในสัญญาซื้อขาย 600 ไร่ ในนิคม WHA ระยอง เพื่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์นั่งไฟฟ้าพวงมาลัยขวาที่ใช้เทคโนโลยีใหม่