เปิดแนวรบ “เอ็มจี” ปีกระต่าย ดันทัพอีวีโตเท่าตัวตั้งเป้ากอดแชร์ 5%

เปิดแนวรบ “เอ็มจี” เดินหน้ากระทุ้งตลาดรถอีวีเร่งดันยอดขายโตเท่าตัว พร้อมเพิ่มสัดส่วนรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 50% มั่นใจขายทั้งปีทะลุ 5 หมื่น เข็นเอ็มจี ไซเบอร์สเตอร์ ลงตลาดปีหน้า ลุยเซตทุกอย่างให้ตรงไทม์ไลน์รัฐบาล

นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงแผนธุรกิจปีนี้ว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขาย 50,000 คัน และขยับขึ้นติดอันดับท็อป 5 ในตลาด มีส่วนแบ่งตลาดอย่างน้อย 5%

“เราปิดยอดขาย 27,286 คันในปีที่ผ่านมา ซึ่งต้องยอมรับว่าเจอผลกระทบซัพพลายชิ้นส่วนสำหรับการผลิตพอสมควร โดยเฉพาะเครื่องยนต์สันดาปภายใน ทำให้ยอดขายลดลงจากปี 2564 ซึ่งทำได้ 32,388 คัน”

นายพงษ์ศักดิ์กล่าวอีกว่า ปีที่ผ่านมาเอ็มจีได้เข้าร่วมโครงการสนับสนุนมาตรการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาล มีรถอีวีเข้าร่วม 3 รุ่น สามารถทำยอดจองได้สูงถึง 10,000 คัน แต่บริษัทแม่ซัพพลายให้ทำให้ส่งมอบได้แค่ 6,000 คัน ยังเหลืออีกกว่า 4,000 คัน น่าจะส่งมอบได้หมดภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้

เอ็มจีตั้งเป้าว่า ปีนี้จะเร่งขยายตลาดรถยนต์ไฟฟ้าให้มากขึ้น ตั้งเป้าจะทำตลาดเพิ่มเป็นเท่าตัว พยายามเซตทุกอย่างให้สอดรับกับนโยบายรัฐบาล 30@30 ซึ่งกำหนดว่าในปี 2573 หรือปี 2030 ประเทศไทยจะมียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้ 30% หรือขายราว 100,000 คันต่อปี

“สัดส่วนการขายรถอีวีเราโตทุกปี และเรามั่นใจว่าในปี 2573 สัดส่วนการขายรถยนต์ไฟฟ้าของเอ็มจีจะอยู่ที่ 50% ของยอดขาย จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนราว 15-20%”

เอ็มจีถือเป็นผู้นำในกลุ่มรถอีวี หลังจากเปิดตัว ZS EV ทำให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเป็นที่จับตา และทำให้มีแบรนด์ใหม่ ๆ เข้ามาเพิ่มขึ้น วันนี้ผ่านมาแล้ว 3 ปี เอ็มจีส่งมอบรถอีวีไปแล้วกว่า 7,000 คัน และเรากลายเป็นผู้นำในตลาดนี้อยู่ ควบคู่ไปกับการพยายามเพิ่มจำนวนสถานีชาร์จ จากที่มีอยู่ในศูนย์บริการเอ็มจีทั้งประเทศแล้ว ยังมีตามปั๊มบางจากอีก 40 กว่าแห่ง และอนาคตตั้งใจว่าจะให้มีจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของเอ็มจีอย่างน้อย ๆ ทุก 150 กิโลเมตร

นายพงษ์ศักดิ์ยังยืนยันต่อไปว่า ภายในปี 2567 เอ็มจีจะเริ่มผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากฐานการผลิตรถยนต์ในจังหวัดระยอง แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใด และบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาแนวโน้มและความต้องการของลูกค้าชาวไทยซึ่งจะเหมาะสมกับรุ่นใด

“อนาคตประเทศไทยอาจจะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหลาย ๆ รุ่น แต่สำหรับรถรุ่นแรกที่จะผลิตเพื่อขายนั้น ถือเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของเอ็มจีด้วยเหมือนกัน เราต้องคิดเยอะ รวมถึงวางแผนอย่างละเอียด”

ส่วนแผนดำเนินธุรกิจที่เอ็มจีจะมุ่งเน้นในปี 2566 นี้คือ การมุ่งเน้นคุณภาพการบริการ, การขาย และความเชี่ยวชาญของพนักงาน ซึ่งจะเป็นกุญแจสำคัญในการดำเนินธุรกิจ ขณะที่การแข่งขันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า สำหรับประเทศไทยนั้น เอ็มจีมีพร้อมทยอยนำรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดประเทศไทยอย่างน้อย ๆ 2 รุ่น รวมถึงความคืบหน้าของเอ็มจี ไซเบอร์สเตอร์ รถต้นแบบสปอร์ต 2 ประตูขุมพลังไฟฟ้า ซึ่งเปิดให้รับจองสิทธิไปเมื่อปี 2564 นั้น

คาดว่าภายในงานเซี่ยงไฮ้ มอเตอร์โชว์ ปีนี้น่าจะมีความชัดเจนออกมาก่อนเปิดตัวในช่วงสิ้นปี 2566 ที่ประเทศจีนก่อน ส่วนประเทศไทยน่าจะได้เห็นรถคันนี้ในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2567